Thai | English
mmoodd
ฉันชื่อmmoodd . ชอบไปลั้นลาที่ปทุมวัน. อาหารอีสาน, อาหารญี่ปุ่น are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านอาหารทั่วไป, ร้านเค้กและเบเกอรี่และบุฟเฟ่ต์, ปิ้งย่าง บาร์บีคิว, เทปันยากิ.
สมาชิก 37 รีวิวแรก
รีวิว106 รีวิว
編輯推介數目30 Editor's Choice
Recommended4 แนะนำ
ความนิยม13658 เข้าชม
Replies in Forum4 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ1255 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews41 รีวิวแนะนำ
My Restaurant96 ร้านโปรด
Follow334 Following
粉絲916 Follower(s)
mmoodd  Level 4
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่   Editor's Choice  ยิ้ม ไม่ปลื้ม  ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 41 รีวิวแนะนำใน ประเทศไทย
kaewjaik
464 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารทั่วไป

เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนทีไร หนึ่งในเมนูคลายร้อนที่ต้องกินก็คือ “ข้าวแช่” เป็นเมนูที่หากินได้ง่ายในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ 

ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท

ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท

 


อีกหนึ่งร้านต้นตำรับข้าวแช่ คือ “ข้าวแช่ ตำรับบ้านวรรณโกวิท” ข้อดีร้านนี้จะมีขายกันทั้งปีค่ะ ไม่ต้องรอช่วงฤดูร้อน แต่ในแต่ละวันจะมีจำนวนจำกัดค่ะเพราะทางร้านจะเน้นความพิถีพิถันในการปรุง แนะนำว่าควรโทรจองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้าค่ะ จะได้ไม่พลาดเมนูเด็ด 

บ้านวรรณโกวิท

บ้านวรรณโกวิท

 



“บ้านวรรณโกวิท” บ้านของหลวงสุนทรนุรักษ์ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันสืบทอดถึงทายาท รุ่นที่ 4 แล้ว ตอนที่เราไปถึงร้าน เราได้เจอกับคุณยาย ฉวีวรรณ อารยะศาสตร์ ลูกสาวของหลวงสุนทรนุรักษ์ คุณแม่ชื้น วรรณโกวิท ลูกสาวคนโตของพระยาเสถียรฐาปนกิตย์ (ชม ชมธวัช) 

บรรยากาศย้อนยุคสไตล์โคโลเนียล

บรรยากาศย้อนยุคสไตล์โคโลเนียล

 


คุณยายฉวีวรรณ เดิมเธอเป็นอาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว คุณยายเล่าว่า บ้านนี้มักจะมีลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียนกันมาหา และชิมอาหารอร่อย ๆ แห่งบ้านวรรณโกวิท นอกจากนี้ยังถือว่ามาไหว้ครูไปในตัวด้วย 

หน้าต่างไม้แบบฉลุ

หน้าต่างไม้แบบฉลุ

 



ที่ร้านมีที่จอดได้ประมาณ 2-3 คัน แต่ค่อนข้างแคบค่ะ แล้วก็เข้าออกยาก เราจอดแถวศาลเจ้าพ่อเสือแล้วเดินมาประมาณ 400 เมตรก็พอไหวค่ะ ตัวบ้านจะเป็นบ้านไม้สไตล์โคโลเนียลแบบโบราณ โต๊ะไม้สีขาวลายฉลุ ผ้าคลุมโต๊ะลายลูกไม้ ตู้หนังสือไม้แบบโบราณ 

ตู้ไม้โบราษ

ตู้ไม้โบราษ

 

 


สำหรับข้าวแช่ที่ร้านจะขายเป็นชุดๆ ละ 250 บาท ในชุดจะมี ข้าว น้ำ น้ำแข็ง ให้มาเป็นเซ็ต ๆ สามารถเติมข้าว กับน้ำได้เรื่อย ๆ ส่วนตัวเครื่องเคียงจะมีกระปิทอด หมูฝอย ปลาหวาน ไชโป๊หวาน หรุ่มไข่พริกหยวกสอดไส้หมูสับ กระชายกับแตงกวาแกะสลัก วิธีทานข้าวแช่ที่ถูกวิธี คือจะต้องไม่นำเครื่องเคียงลงไปปนกับข้าวและน้ำ ให้ผสมกันเหมือนเวลาทานข้าวต้ม ให้ค่อย ๆ ตักเครื่องเคียงเข้าปาก แล้วตามด้วยข้าวตาม แล้วถึงค่อยซดน้ำให้คล่องคออีกที 

สูตรข้าวแช่นี้ได้มาจาก คุณแม่ชื้น วรรณโกวิท ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบเลือกใช้จากเจ้าประจำอย่าง ปลาหวานใช้เนื้อปลากระเบนยี่สนแห้งจากปากน้ำปราณบุรี ไชโป๊หวานจากราชบุรี 


นอกจากวัตถุดิบแล้ว ขั้นตอนการปรุงก็แสนจะปราณีต ข้าวสารที่เลือกเป็นข้าวสารเก่าเพราะเม็ดจะร่วนสวย คัดเฉพาะเม็ดที่ไม่แตกหัก นี่งให้สุกผ่านไอน้ำ ตัวน้ำเป็นน้ำต้มสุกลมควันเทียนและลอยดอกกระดังงาไทยดอกเล็ก


เครื่องเคียงอีกหนึ่งอย่างที่เป็นตัววัดความอร่อยก็คือกะปิทอด โดยใช้เนื้อปลาช่อนหรือปลานิล โขลกกับพริกไทย กระชาย ตะไคร้ ปรุงด้วยกะปิ
ผัดให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วชุบไข่ทอดจนหอม หรุ่มไข่ที่ทำจากพริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้งนึ่งแล้วห่อด้วยแพไข่ หมูฝอยรสหวาน ผักสดยังต้องแกะสลักอย่างกระชายที่สลักเป็นรูปดอกปีป เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ 


 



นอกจากเมนูเด็ดอย่างช้าวแช่แล้ว ก็ยังมี โรตี แกงเขียวหวานหมู (130บาท) ถ้าเป็นเขียนหวานเนื้อ (160 บาท) ตัวแป้งโรตีจะเป็นแบบแป้งหนานุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมกับแกงเขียวหวานแบบน้ำข้น ๆ เครื่องแกงเต็มที่ ส่วนรสชาติจะไม่เผ็ดจัด แต่เน้นออกไปทางหวานนำรสชาติสไตล์แบบโบราณ เนื้อหมูแบบนุ่ม ๆ แต่จะมีติดมันมา
ส่วนแกงเขียวหวานเนื้อนุ่มไม่แพ้กัน 

 

 



ข้าวมันส้มตำ (90 บาท) ข้าวหุงกะทิ เสิร์ฟพร้อมส้มตำรสหวาน และหมูฝอย 

 



ขนมจีนซาวน้ำ (90 บาท) ขนมจีนเสิรฟ์พรอมสัปปะรดศรีราชา ขิงซอย กุ้งแห้งป่น ลูกชิ้นปลากราย ราดด้วยน้ำกะทิ บีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวสักเล็กน้อย รสชาติกลมกล่อมดี 

 



ข้าวทอดแหนมสด (120 บาท) ข้าวทอดแหนมสด เสิร์ฟมะนาวมาให้บีบเองเพิ่มรสชาติ รสแบบกลมกล่อม ไม่ได้จัดจ้านมาก ตัวข้าวทอดจะไม่กรอบแบบร้านทั่ว ๆ ไปจะเป็นแบบนิ่ม ๆ 

 



พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน (40 บาท) ตัวน้ำจะรสชาติออกหวาน พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมมะพร้าวอ่อน 

 



เค้กมะตูม (60 บาท) เค้กจะเนื้อแน่น ๆ ร่วน ๆ หน่อย กลิ่นมะตูมยังไม่ถึงกับชัดมาก โรยด้วยมะตูมเชื่อมด้าบบน 

 

น้ำอัญชัญมะนาว (40 บาท) เปรี้ยวซ่าชื่นใจ น้ำมะขาม (40 บาท)  รสหวาน ๆ หอมกลิ่นมะขาม

 


ถ้าใครนิยมชมชอบอาหารไทยแบบโบราณ บรรยากาศย้อนยุค แวะมาบ้านวรรณโกวิทดูสักครั้งนะคะ 

 

 


 
 
เมนูแนะนำ:  ข้าวแช่, โรตี แกงเขียวหวานหมู, ขนมจีนแกงเขียวหวานเนื้อ, ข้าวมันส้มตำ, ขนมจีนซาวน้ำ, พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน, น้ำอัญชัญมะนาว, โรตีแกงเขียวหวาน
 
Table Wait Time: 10 minute(s)


วันที่ไปกิน: Mar 11, 2018 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿300(มื้อเที่ยง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
spotthefood
8 รีวิว
Level 2
The Mango Place in BKK ตกลง Jul 01, 2016   
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ขนมหวาน ไอศครีม | ขนมไทย | ลำลอง

I have to say – mango is definitely one of the must-eat in Bangkok. They are found everywhere when you stroll down the city, but one place to note is Mango Tango, the most popular places for mango dessert in Bangkok Thailand.
Mango Tango

Mango Tango

 
Mango Tango

Mango Tango

 
They have 3 outlets at the moment, two in Bangkok and one in Chiang Mai. The Siam shop is always my go-to location because it can be easily located by just a 3-minutes walk from BTS Siam Station, across Siam Paragon.
Here you can find a wide range of combinations such as mango ice cream, pudding, sundae, smoothies and the very much well-known mango sticky rice.

 
We order a greedy choice with almost everything, the signature Mango Tango with extra sticky rice. True to its name, it has a generous slice of sweet and juicy mango, while the mango pudding is fairly okay with a full mouth of mango flavor; mango ice cream has a sorbet texture. The sticky rice also has the right texture, but I wish for more coconut cream.

 
Another one is a bowl of herbal jelly with mango sauce, milk sago and assorted fruits; tastes as simple as it look.
Grass jelly, tapioca, mango sauce, diced mango, mixed fruits

Grass jelly, tapioca, mango sauce, diced mango, mixed fruits

 
After all, the desserts is not overwhelmingly impressive but still enjoyable on the hot day.
 
Table Wait Time: 5 minute(s)


วันที่ไปกิน: Jun 14, 2016 

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 3  |  
Environment
 3  |  
Service
 3  |  
Clean
 3  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
saoguide
944 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | อาหารญี่ปุ่น | ร้านอาหารทั่วไป | สเต็ก | สุกี้ ชาบู | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง

สำหรับวันนี้ก็จะมารีวิวอีกหนึ่งร้านไฟน์ไดนิ่งนะคะ โดยรอบนี้เป็นเนื้อโกเบกันบ้าง กับร้าน Yasuda นั่นเองค่ะ ซึ่งเราได้เวาเชอร์ 500 บาทมาสองใบ  แต่ปรากฏว่า ถามทางร้านแล้วใช้ได้ครั้งละใบอะค่ะ ก็ตามนั้นเนาะ จากนั้นก็หาวันว่างไป สามารถใช้กูเกิ้ลแมพได้นะคะ หมุดปักไว้ตรงอยู่ค่ะ ที่ร้านมีที่จอดร้านทั้งที่หน้าร้านและด้านในเข้าไปอีกหน่อยค่ะ แต่ถ้าไปเร็วก็จะมีที่จอดอยู่ ร้านจะเปิดสองช่วงสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นนะคะ เราไปมื้อเย็น ซึ่งเริ่มเปิดตอนห้าโมงเย็นค่ะ

เบอร์โทรทางร้าน

02-258-2530, 062-058-3411 (For Japanese) 

ที่ตั้งร้าน

ซอย สุขุมวิท 34 กรุงเทพมหานคร 
(BTS Thonglor สามารถโทรศัพท์ให้รถตุ๊กออกไปรับปากซอยสุขุมวิท 34ได้) 

 
ร้านนี้เปิดดำเนินการโดยเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นชื่อคุณ Yasuda Hidekazu ซึ่งเป็นร้าน Yakiniku แห่งที่ 5 โดย 4 สาขาแรกอยู่ในเมือง Fukuoka ประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อร้าน Ondoru (ดำเนินกิจการมาแล้วกว่า 30 ปี) ซึ่งวันนั้นตอนเราจอดรถก็เห็นคุณยาสุดะแว้บๆ หละ แต่พอตอนไปนั่งในร้านไม่เจอแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยค่ะ แหะๆ

บรรยากาศของร้าน เป็นร้านที่ดัดแปลงมาจากบ้านสองชั้นออกแบบโดย Designer ชาวญี่ปุ่น ภายนอกร้านจะดูเหมือนบ้านขุนนางญี่ปุ่นโบราณ ส่วนภายในร้านนั้นออกแนวโมเดิร์นดูเรียบหรู มีโต๊ะที่นั่งทั้งแบบตะวันตก แบบนั่งห้อยขาสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงมีห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวด้วยค่ะ (เห็นห้องส่วนตัวอยู่ทางด้านหลังร้านนะคะ)

อย่างที่บอกว่าร้านนี้เปิดสองเวลานะคะ

 
บรรยากาศภายในร้านค่ะ วันนั้นเราได้นั่งแบบสไตล์ญี่ปุ่นนะคะ มีที่ห้อยขาลงใต้โต๊ะตามภาพเลยค่ะ

 

 

 

 
menu ค่ะ ราคาจะค่อนข้างสูงนะคะ เพราะที่นี่จะเป็นเนื้อโกเบวัวขนดำเกรดเอห้าทั้งหมดค่ะ และราคาที่เห็นนี่ยังมี ++ อีกนะคะ

 

 

 

 

 

 
หลังจากพนักงานนำเมนูมาให้แล้ว ก็จะหายไปนะคะ เพื่อให้เรามีเวลาดูเมนูและเลือกค่ะ ถ้าต้องการสั่งเมื่อไหร่ก็กดปุ่มเรียกที่วางไว้บนโต๊ะนะคะ

เครื่องดื่มมาก่อนเลยค่ะ เราสั่งชาเขียวร้อน ราคา 80++ บาท ตัวนี้เป็นรีฟิลล์ด้วยนะคะ

 
สำหรับอาหารเราเลือกเป็น Choice Rump Steak 1080++ แต่เพิ่มอีก 190 ให้เป็นเซ็ตค่ะ ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยสลัดนะคะ

สลัดเค้าจะให้น้ำสลัดมาสองอย่างค่ะ สีเข้มๆ นั่นคือน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่นเลย ซึ่งเราชอบมากกว่าอีกตัวนะคะ ตัวสีขาวจะครีมมี่นิดๆ ค่ะ อร่อยเหมือนกัน แต่ชอบสไตล์ญี่ปุ่นมากกว่า ผักก็สดดีค่ะ

 
จากนั้นก็เป็นอุปกรณ์สำหรับจานหลักค่ะ 

จากนั้นทางร้านก็นำเนื้อที่จะนำไปทำเสต็กมาให้เราดูก่อนว่าหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ แปลกดี เพิ่งเจอร้านนี้ทำแบบนี้เป็นร้านแรกเลยค่ะ แล้วก็ถามความสุกที่ต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าเราสั่งมีเดียมแรร์นะคะ

 
จากนั้นก็ขอชำระเงินสำหรับชุดนี้ก่อนค่ะ ใช้เวาเชอร์ลดไปห้าร้อย จ่ายเพิ่มอีกพันนิดๆ ค่ะ

ต่อไปจะเป็นซุปที่อยู่ในเซ็ตค่ะ รสออกหวานอ่อนๆ นะคะ แต่ไม่ได้เด่นมากค่ะตัวนี้

 
จากนั้นทางพนักงานก็นำแบบฟอร์มสมัครสมาชิกมาให้ค่ะ สมัครสมาชิกฟรีนะคะ (ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเรากินถึงยอดหรือเปล่า หรือยังไงค่ะ ไม่ได้ถามง่ะ) 

ซึ่งสิทธิประโยชน์ของสมาชิกก็คือในเดือนเกิด (จองล่วงหน้าสองวัน) ถ้าไปกินที่ร้านจะได้เค้กวันเกิด รวมทั้งเครื่องดื่มคนละหนึ่งดริ๊งค์ทั้งโต๊ะนะคะ และทำการสะสมคะแนนทุกๆ 100 บาทได้ 1 คะแนน ทุกๆ 5 คะแนนคือลด 5 บาทค่ะ

นอกจากนั้นทางร้านก็ให้คูปองให้เพื่อนที่จะไปกินที่ร้านยาสุดะด้วย (ถ้าใครต้องการแจ้งเราได้เลยนะคะ) ถ้าใครถือคูปองนี้ไปกินที่ร้าน ก็จะได้ไวน์หนึ่งขวดค่ะ ได้หนึ่งขวดต่อโต๊ะนะคะ (เพราะฉะนั้นต้องแยกไปค่ะ เรามีสามใบ) ส่วนเราในฐานะแนะนำเพื่อนก็จะได้พอยท์ 500 พอยท์นั่นเอง

สักพักเสต็กก็มาค่ะ

 
เสต็กจะมาพร้อมกับสามเครื่องจิ้มนะคะ ได้แก่ วาซาบิสด เกลือ (ญี่ปุ่น) และน้ำจิ้มเสต็กค่ะ ซึ่งเราชอบแบบจิ้มเกลือสุดนะคะ ไม่กลบรสชาติเนื้อ แถมช่วยดึงรสชาติเนื้อออกมาได้อีกด้วยค่ะ ส่วนอีกสองอย่างก็อร่อยคนละแบบนะคะ อย่างตัวน้ำจิ้มก็จะเจือหวานนิดๆ ตัววาซาบิสดก็เพิ่มความซ่าฉุน (แต่ไม่แรงมาก) อีกหน่อยค่ะ กินสลับๆ กันก็ทำให้ไม่เลี่ยนดีนะคะ

สั่งเพิ่มมาอีกอย่างค่ะกับ Premium Kobe Beef Sashimi 690++ บาท

 
ตอนแรกบอกเลยว่ากลัวคาวมากๆ แต่ปรากฏว่าไม่คาวเลยค่ะ เนื้อหวานลิ้นมากมาย แถมไม่ปวดท้องเลยอีกต่างหาก (คือเราเป็นคนที่ถ้ากินเนื้อหรือหมูดิบ ถ้าไม่สดจริงเราจะปวดท้องอะค่ะ (แต่กับปลาไม่เป็นไรนะ แปลกดี)) เค้าให้โซยุมาด้วย แต่เราชอบแบบกินกับวาซาบิสดมากกว่า ถ้าจะจิ้มโซยุ แนะนำให้จิ้มน้อยๆ ค่ะ ไม่งั้นรสเค็มจะกลบความหวานของเนื้อหมดนะคะ

ระหว่างกินอยู่ พนักงานก็เอาบัตรที่ไปรีจิสเตอร์เรียบร้อยแล้วกับคูปองที่เราจะแจกเพื่อนมาให้ค่ะ แฮร่...

อย่างที่บอกนะคะ ใครคิดจะไปกิน แจ้งเราได้เลยค่ะ win win ทั้งคู่อะนะ คนเอาคูปองไปใช้ได้ไวน์ ส่วนเราได้แต้ม...ซึ่งจะได้ไปใช้เมื่อไหร่ฟระ 555

ปิดท้ายด้วยของหวาน (รวมอยู่ในเซตสเต็กค่ะ เลือกได้นะคะ เราเลือกตัวนี้หละ) กับบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก (ถ้าสั่งแยก จะเป็นราคา 75++ บาทค่ะ)

ตัวนี้อร่อยตามมาตรฐานค่ะ ไม่ได้โดดเด่นไปจากที่อื่นนะคะ แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรค่ะ

 
ค่าเสียหายเพิ่มเติมสำหรับในส่วนของบีฟซาชิมินะคะ

สิ่งหนึ่งที่มาร้านนี้แล้วอยากให้ลองคือห้องน้ำค่ะ เป็นระบบเดียวกับที่ญี่ปุ่น (และห้างบางห้างของไทยเลย) คือ เปิดประตูห้องน้ำปุ๊บ ฝาโถสุขภัณฑ์จะเปิดให้อัตโนมัติ และมีปุ่มสำหรับชำระล้างต่างๆ เหมือนที่ญี่ปุ่นเป๊ะๆ 

 
ปิดท้ายด้วยภาพร้านตอนค่ำคืนกับรถที่ทางร้านใช้รับส่งระหว่างร้านกับ BTS นะคะ

 

 
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ

เป็นร้านเนื้อเกรดพรีเมี่ยม โกเบเอห้า ที่น่าสนใจหละค่ะ เนื้อดีเลยทีเดียว แต่ราคาก็สมกับคุณภาพเนื้อหละนะคะ 555 ตัวร้านค่อนข้างสงบพอควร (แต่เราไปวันธรรมดาด้วยน่ะนะคะ) การบริการค่อนข้างโอเคนะคะ เอาใจใส่ดี แต่ก็ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไปค่ะ ที่จอดรถมีพอควร แต่ถ้าไปช่วงแขกเยอะๆ จริงๆ ก็คงต้องไปจอดอีกที่อะนะคะ หน้าร้านไม่น่าจะเหลือที่จอดหละค่ะ

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 4  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
Pangeataround
756 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ร้านกาแฟ / ร้านชา | ร้านในคอมมูนิตี้มอลล์ | ลำลอง

ร้าน BRIX Dessert & Bar The Commons 

 
ร้านอยู่ในโครงการ The Commons ทองหล่อซอย 17 ที่จอดรถถ้าเป็นช่วง พีคๆ อย่างตอนเย็น หรือ 
เสาร์อาทิตย์ก็หาที่จอดยากเหมือนกันค่ะ 

 

 
วันนี้ไปกัน 3 คนเลยสั่งมา 2 อย่าง 

 
Mini Nutella Hotto Keiki (240B) 
เมนูดังของเขาพอเสริฟ เขาก็บอกต้องรอประมาณ 15 นาที มาเสริฟกับถาดร้อนๆ 
ของเราเป็นรสนูเทลล่า เสริฟพร้อมกับ Nutella ซอส สตอเบอรรี่ ผงโกโก้ แล้วก็ไอศครีม 
ตัวแป้งเป็น Souffle cream pancake ก็เลยจะนิ่มๆ เบาๆ จานนี้เราไม่ชอบกันเท่าไหร่ 
แป้งมันนิ่มแต่ไม่ได้กลิ่นเนื้อ นมไข่เท่าไหร่ มันนิ่มมากไปเราว่า ยังไม่โดนสำหรับเรากับเมนูแรกอะคะ 

 

 

 
Banana Salted Butterscotch 240B 
พวกเราชอบเมนูนี้กันค่ะ เป็นขนมปังอบมากำลังดี กับ กล้วยแล้วก็ Butterscotch กล้วยให้เยอะสะใจดี 
ตัว butterscotch ก็หอมหวาน แล้วเขา กิวมานิด ให้หอม ๆ กรอบๆ เมนูนี้ชอบค่ะ 

 

 
เป็นร้านขนมหวานอีกทางเลือกนะคะ เมนูเขาน่ารักจัดสวยทุกจานเลย

 
 
คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 3  |  
Environment
 4  |  
Service
 3  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
Pangeataround
756 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | อุด้ง ราเมน | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม

เปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟฟ้ามากินอาหารกลางวันที่ เกตเวย์ เอกมัย กันค่ะ 
เอาแบบอาหารจานด่วน กินง่ายจะได้มีเวลาช้อปปิ้ง 

ร้าน RAMEN KOURAKUEN 

 
ร้านตั้งอยู่ที ชั้น M ของเกตเวย์ ชั้นที่เป็นทางเชื่อม รถไฟฟ้า เดินตรงเข้ามาได้เลย 

เราชอบที่เขามีอาหารเป็นเซตด้วย ราคาก็อยู่ที่ 159 -199 บาท เซตเราว่าคุ้มดี กินได้หลายอย่าง 
แล้วเขาให้มาแบบอิ่มจุกด้วย พวกเราส่วนมากก็สั่งเป็นเซตเกือบทุกคน 

 

 

 
Set of Chuka- soba & Cha-shu- Tamago don set (179B) 
เซตนี้ได้ทั้งข้าว แล้วก็ โซบะ โซบะน้ำซีอิ้ว เส้นลวกมากำลังดี ส่วนข้าวเป็นข้าวหน้าหมูอบ 
แล้วก็ไข่ออนเซน หมูปรุงรสมาดี รสเข้มข้นดีค่ะ 

 

 
Set of Chuka - Soba & Tetsunabe - Gekikara -Cha-han set (199B) 
ชุดโซบะอีกชุด แต่อันนี้เสริฟมากับ ข้าวผัดกะทะร้อน รสชาติจะออกเผ็ดๆ หน่อย 
เวล่าก็ผัดๆ ในกระทะร้อน อร่อยตรงที่พอผัดมาแล้วข้าวมันจะกรอบๆ เผ็ดๆ รสเข้มดี 

 

 
Tetsunabe -buta-tamagotoji -teishoku 159B 
ข้าวหมูทอดที่มาแล้วต้มในไข่ ราคาไม่แพงเลย เราสั่งมาเป็นเซตก็ได้ข้าว ซุป แล้วก็น้ำ 
เพื่อนเราชอบนะคะ รสชาติเข้มข้นดี 

 

 

 
บะหมี่เย็น 159B 
บะหมี่เย็นชามใหม่ เครืองเยอะดี น้ำเป็นน้ำซีอิ้ว เพื่อนว่าดีค่ะ ไว้คราวหน้าไปลอง ชอบกินบะหมี่เย็น 

 
Buta - Tamago - Teish (159B) 
อันนี้เป็นบะหมี่แบบแห้งๆ สั่งเป็นจานเดี่ยว มันจะยิ่งใหญ่อลังการมาก ราเมนแห้ง หมูสับ 
แล้วก็เสริฟกับซอสเผ็ด ชามใหญ่มากจริงๆ 

 

 
ที่นี่เราว่าราคาไม่แพง แล้วก็อร่อยด้วย ยิ่งสั่งเป็นเซตยิ่งคุ้ม 

 
 
คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ