ร้านส้มตำกรุงเก่าเจ้าดังในเมืองชัยภูมิ รสชาติเด็ดถึงใจต้องบอกต่อ ส่วนตัวกระผมเคยมาทานร้านนี้ก็หลายครั้ง รสชาติคงเส้นคงวา เมนูพื้นฐานอย่างส้มตำ เผ็ดนัวกำลังดี ข้าวเหนียวหุงนุ่มไม่ค่อยติดมือ ไก่ย่างเนื้อนุ่มหมักได้เข้าที่ หมูน้ำตกรสไม่อ่อนไม่เข้มกำลังดี เรียกได้ว่าอร่อยทุกอย่าง รวมถึงการบริการ แต่อาจจะหาที่จอดรถยากหน่อยช่วงเที่ยง

มาถึงมื้อเที่ยงของวันที่สอง ยังคงอยู่ในช่วงจัดงานเราเลยสามารถออกมาหาของกินข้างนอกได้อยู่ วันนี้พากันมาที่ร้านกิ่งโพธิ์ค่ะ ร้านนี้เราออกกันมาค่อนข้างไกล อยู่บนทางหลวงชนบทน่าน 4007 ไม่ไกลจากวัดหนองบัว และที่สำคัญอยู่ริมแม่น้ำน่านเลยค่ะ ทำให้บรรยากาศดีมากกกกกกกกก เรานั่งกันริมรั้วชมวิวเลยค่ะ นั่งๆไป ฝนตกซะงั้น แต่ความสวยงามยังคงมาเป็นระลอก เพราะเราสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ถึง 180 องศา เห็นตั้งแต่ฟ้าใสจนฟ้ามัวจนฝนตก และเห็นฝนตกไล่ไปเรื่อยๆ จนฟ้าใสอีกครั้ง แค่บรรยากาศดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ว่ามั้ยคะ   บรรยากาศในร้านก็ออกทึมๆ เล็กน้อย ด้วยความที่เป็นร้านที่ตั้งหลังคาต่ำ และเป็นแบบเปิดเกือบ 360 องศา แต่บางด้านเป็นต้นไม้ และโต๊ะเก้าอี้ในร้านก็เป็นไม้เป็นหลักค่ะ ส่วนเมนูอาหารนั้นก็มีตามนี้เลยจ้าาาาา ยำเห็ด 3 อย่าง มีเห็ดอยู่สามอย่างยำรวมกับกุ้งและปลาหมึก รสชาติออกหวานไปหน่อย น่าจะเปรี้ยวและเค็มอีกนิสสสส เห็ดกรุบๆ เคี้ยวเพลิน ดี ชอบๆๆๆ แต่ปลาหมึกออกคาวไปหน่อยค่ะ ควสมอร่อยเลยดรอปไปหน่อย ต้มยำปลาคัง ใส่บอน ค่อนข้างแปลกและใหม่สำหรับเราเลยล่ะค่ะ ไม่เคยกินมาก่อนมาลองครั้งแรก ก็โอเคเลยนะคะ เนื้อปลานุ่มและไม่คาว รสชาติกำลังดี ออกเปรี้ยวเค็มเผ็ด กินกับข้าวอร่อยเลยล่ะค่ะ ยำไข่เหยี่ยวม้า เห็นแล้วแอบตกใจว่าไข่ซีดไปหน่อยแต่รสชาติใช้ได้เลยล่ะค่ะ ปลาไข่ทอด อันนี้ไม่ได้กิน เห็นคนอื่นๆ ว่าว่าอร่อย หมูมะนาว สีเขียวเด่นมาแต่ไกล ทำให้เวลากินแล้วออกเหม็นเขียวหน่อยๆ เนื้อหมูมันไปนิสทำให้เนื้อหมูเหนียวเคี้ยวลำบากไปหน่อย ปลาทับทิมทอดสมุนไพร อันนี้ชอบสุดล่ะ กินตอนแรกๆ มาเสิร์ฟ กรอบๆ ร้อนๆ แต่ทิ้งสักพัก แล้วเนื้อเริ่มเหนียว รสชาติออกหวานนำ แต่กลมกล่อมดีค่ะ หมดล่ะเมนูสำหรับวันนี้ สำหรับอาหารถือว่าใช้ได้ แต่บรรยากาศนี่ดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ ติดนิดหน่อยว่าแมลงวันเยอะไปนิด 😊 ถ้าสนใจตามกันไปกินได้ที่ร้านกิ่งโพธิ์ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 - 21.00 น. อยากแนะนำอีกสักหน่อย ไม่ไกลกันนั้นมีวัดหนองบัวแวะไปไหว้พระขอพร แล้วไปดูคุณยาสทอผ้ากัน อุดหนุนกลับมาคนละชุดคนละผืนก็ได้นะคะ

กาแฟเพิ่มสุข เป็นกาแฟที่มักได้กินทุกครั้งที่มาน่าน แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้มาที่ร้าน ร้านกาแฟเพิ่มสุขอยู่บนถนนวรวิชัย 1 ต. ในเวียง อ.เมืองน่านค่ะ ใกล้สนามบินน่านนคร เมื่อเข้าซอยมาแล้วร้านจะอยู่ทั้งขวามือ เห็นชื่อร้านชัดเจน ที่ร้านนั้นจะมีทั้งที่นั่ง indoor และ outdoor สามารถเลือกนั่งได้เลยจ้าาาา ภายในร้านจะทางสีผนังด้วยสีนวล ดูสบายตา ส่วนโต๊ะและเก้าอี้จะใช้ไม้เป็นส่วนประกอบทำให้ ดูกลมกลืน สบายตา เมนูที่นี่ก็มีหลากหลายให้เลือกกินเลือกดื่มลองดูเลยนะจ๊ะ ส่วนกรุ๊ปเรามาหลายคนก็จะมีหลายอย่างหน่อย ของเราเลือกเป็นมอคค่าดาร์กช็อกโกแลต ด้วยความอยากทั้งกาแฟ และดาร์กช็อกโกแลต คือถ้าเป็นปกติมอคค่าก็จะมีช็อกโกแลตอ่อนใช่ปะ ไม่ได้ดั่งใจค่ะ เล่นดาร์กเลย คือแบบเฮ้ยยยย มันฟินมว๊ากกกกกกก ทั้งเข้มและขมมากกกกกกกก  น่ากินมากกกกกกก อร่อยมากกกกก ไม่รู้ว่าขมจากกาแฟหรือขมจากช็อกโกแลต แต่เหมาะกับคนชอบดาร์กมากๆ คืออย่างเรากินกาแฟไม่เข้ม กินช็อกโกแลตเข้มมากได้ แต่เมนูนี้คือโดนใจเราอย่างเราอ่ะ ส่วนที่เหลือนั้นคือเมนูของคนอื่นๆ นมน้ำผึ้ง กาแฟเพิ่มสุข อันนี้ลองชิมมา รสชาติเข้มกาแฟและขม รสออกหวานน้อย เหมาะสำหรับคอกาแฟจริงๆ ส่วนเค้กแครอท น่ากินค่ะ แต่ไม่ใช่แนวของเรา เราชอบสไตล์เค้กครีมมากกว่าง่า มีกลิ่นคล้ายกลิ่นของชินนามอนค่อนข้างแรง เนื้อขนมปังนุ่มดี รสไม่หวานมากเกินไป ร้านน่ารัก เมนูหลากหลายที่สำคัญอร่อยค่ะ ใครชอบความดาร์กเราแนะนำเมนูที่เราดื่มนี่เลยค่ะ " มอคค่าดาร์กช็อกโกแลต"

"ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม" ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใส ไข่ต้มยางมะตูม ร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ชื่อดังของเมืองราชบุรี เป็นสูตรตั้งแต่รุ่นคุณยายสืบทอดมาจนรุ่นหลานกว่า 70 ปีมาแล้ว ความเด็ดอยู่ที่น้ำต้มยำรสจัดจ้านปรุงรสด้วยมะนาวสด และน้ำตาลโตนด มือวางด้านไข่ต้มโดยเฉพาะต้มไข่ให้เป็นยางมะตูม หมูแดงที่ย่างกันสด ๆ ในเตาขนาดใหญ่หลังร้าน ร้านจะอยู่ใหล้โรงพยาบาลพร้อมแพทย์ สังเกตเรือนไม้หลังคาสามเหลี่ยมสีฟ้า ๆ แบบโบราณ ถ้าขับรถมาสามารถจอดริมถนนบริเวณหน้าร้านได้ เลือกสั่งเส้นเล็กต้มยำ (ธรรมดา 40 บาท) เส้นเล็กลวกมาเหนียวนุ่ม โรยด้วยหมูแดง หมูชิ้น หมูสับ ไข่ต้มยางมะตูม ปรุงรสแบบจัดจ้านหอมกลิ่นมะนาวสด รสออกไปทางหวานนิด ๆ ของน้ำตาลโตนด โรยด้วยถั่วลิสงคั่ว เส้นเล็กแห้ง (40 บาท) เป็นเส้กเล็กโรยด้วยถั่วป่น พริกป่น น้ำตาล หมูแดง หมูสับ หมูชิ้น ไข่ต้มยางมะตูม ชามนี้เป็นแบบแห้งแต่โรยเครื่องปรุงต้มยำให้แบบพร้อมปรุง ลูกชิ้นปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) ลูกชิ้นหมูปิ้งมาร้อน ๆ ราดด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด เน้นออกไปทางหวานและเผ็ดนำ รสตัดจ้านดี มะพร้าวน้ำหอม (ลูกละ 35 บาท) มะพร้าวน้ำหอมสดจากต้นเสิร์ฟมาแบบลูก น้ำมะพร้าวหอมหวาน มีรสเปรี้ยวนิด ๆ แบบธรรมชาติ เสิร์ฟพร้อมที่ขูดมะพร้าวไว้ขูดเนื้อกินเล่นต่อได้

"อาตี๋ โกปี๊" ร้านกาแฟเวียดนามและเค้กโอ่งเจ้าแรกของราชบุรี ติดริมถนนวรเดชริมแม่น้ำแม่กลอง ของคุณมิค-สรายุทธ์ หลายพูนสวัสดิ์ ซึ่งจากเดิมเคยเปิดอยู่ในบริเวณตลาดโคยกี้ ร้านเปิดครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยคอนเซปของร้านจะเป็นร้านแนวอาหารเช้าแบบจีน แต่ประยุกต์ด้วยสูตรการชงกาแฟแบบเวียดนาม ภายในร้านตกแต่งด้วยของของสะสมเก่าแก่แบบโบราณของคุณมิค เจ้าของร้าน ซึ่งมีทั้งของเก่าของญาติและซื้อสะสมเรื่อย ๆ มา ตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้ไม้ทรงกลมแบบจีน ตู้ไม้โบราณพร้อมของสะสมอย่างถ้วย ชาม ปิ่นโตย้อนยุค ร้านจะอยู่ไม่ไกลจากวัดช่องลม ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี สามารถจอดรถที่หน้าร้าน หรือแถวพิพิธภัณฑ์ก็ได้เหมือนกัน เรามาถึงช่วง 9 โมงเช้า ลูกค้าครึกครื้นหนาแน่นมากจริง ๆ ค่ะ แต่รอคิวไม่นานก็ได้โต๊ะ โดยมีคุณมิคเจ้าของร้านมาคอยต้อนรับด้วยอัธยาศัยที่ดี เราเลือกสั่งเมนูเด็ดของร้าน คือโกปี๊เวียดนามเย็น (40 บาท) ซึ่งจะใช้เมล็ดกาแฟของคนไทยเพื่อให้รสชาติถูกปากคนไทย ส่วนวิธีการชงเป็นแบบเวียดนาม เริ่มจากการตวงกาแฟ น้ำตาลทราย ใส่ในเครื่องชงกาแฟแบบสังกะสีของเวียดนาม ซึ่งข้อดีของเครื่องชงแบบสังกะสีคือจะอบความร้อนได้ดีกว่า เทน้ำร้อนและให้น้ำกาแฟค่อย ๆ หยดทีละหยด หยดลงบนนมข้นหวานด้านล่าง ใช้เวลาคอยประมาณ 4 นาทีถึงจะได้ลิ้มลอง แต่เราสั่งแบบเย็นมาในแก้วพลาสติกใสพร้อมดื่มแล้ว ตัวกาแฟจะหอมหวานมัน เข้มข้นแบบโบราณดี อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ส่วนสมาชิกเราเลือกสั่งโอเลี้ยง (30 บาท) เห็นว่าอร่อยใช้ได้เหมือนกันค่ะ ถัดมาที่เมนูอาหารเช้าอย่างไข่กระทะ จอมพลัง (49 บาท) ไข่ดาว 2 ฟองตอกลงกระทะสังกะสี โรยด้วยเครื่องแบบจัดเต็มทั้งหมูยอ ไส้กรอก กุนเชียง โรยด้วยผักต้นหอม แครอท และหอมซอย คื่นฉ่าย ตัวไข่จะออกไปทางสุกนิด ๆ แล้วค่ะ โดยรวมเครื่องแน่นสะใจดี ข้าวผัดอาตี๋ (49 บาท) เมนูแนะนำอีกเมนู เป็นข้าวผัด ข้าวผัดแบบแห้ง ๆ ร่วน ๆ หอมกลิ่นเนย ใส่ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง กลิ่นหอมเนยรสชาติอร่อยดีค่ะ บีบมะนาวอีกนิดเพิ่มรสชาติ ขนมปังหน้าหมู (79 บาท) ขนมปังทาหน้าด้วยหมูสับหมักซอสปรุงรส ทอดมาเหลืองกรอบ ร้อน ๆ กินเป็นของกินเล่นได้สบาย ๆ ข้าวต้มหมูตอกไข่ (40 บาท) ข้าวต้มหมู (20 บาท) 2 ชามนี้จะคล้ายกันต่างตรงที่มีตอกไข่เพิ่มลงในข้าวต้ม ตัวข้าวตัวเม็ดร่วนกำลังดี น้ำซุปรสชาติดี หอมกลิ่นพริกไทย ตักคู่กับหมูสับ ซดเพลิน ๆ เหมาะกับอากาศเย็น ๆ ยามเช้า ปิดท้ายด้วยของหวาน ขนมปังนึ่งสังขยา (45 บาท) ขนมปังเหนียวนุ่มดีค่ะ นึ่งมาร้อน ๆ จิ้มคู่กับสังขยา ซึ่งสังขยาที่นี่จะออกเหลว ๆ ไม่ข้นมากเท่าไรค่ะ รสไม่หวานจนเกินไป จิ้มได้เพลิน ๆ ดีค่ะ เป็นร้านที่ผ่านมาหน้าแวะมาลองในยามเช้าค่ะ อาหารมีหลากหลาย บรรยากาศแบบโบราณย้อนยุค ลูกค้าหนาแน่นดูคึกคักดีค่ะ

ถ้ามาถึงเมืองเหนือ เมนูนึงที่พลาดไม่ได้เลยก็คือข้าวซอย และข้าวซอยชื่อดังแห่งเมืองน่านคงหนีไม่พ้น ข้าวซอยต้นน้ำที่จะติดเป็นหนึ่งในนั้น ข้าวซอยต้นน้ำ อยู่ข้างร้านเซเว่นบนถนนสุริยพงษ์ ไม่ไกลจากวัดภูมินทร์เลยค่ะ เปิดเวลา 8.00 - 16.00 น. ถึงแม้ว่าจะชื่อร้านข้าวซอยต้นน้ำ แต่ก็ไม่ได้มีเฉพาะเมนูข้าวซอยนะคะ ยังคงมีขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ และก๋วยเตี๋ยวค่ะ แต่มาถึงร้านข้าวซอยที่เมืองเหนือทั้งทีก็ต้องกินข้าวซอยสิ เนอะ ข้าวซอยก็มีหลายเมนู เป็นข้าวซอยไก่ แต่เปลื่ยนบะหมี่เป็นหมี่กรอบหรือมาม่า นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยเนื้อ  ข้าวซอยเนื้อกับน่องไก่ เกาเหลาซอยเนื้อ ข้าวซอยไม่สัตว์ หรืออยากกินอย่างอื่นก็จะมีขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวหมูแดง บะหมี่หมูแดง หรือก๋วยเตี๋ยวหมู ตามเมนูนี้เลยยย แต่เราขอเป็นข้าวซอยพื้นๆ นี่แหละค่ะ อยากกินต้องได้กิน ข้าวซอยไก่ ราคาชามละ 35 บาท มีทั้งเป็นมีบะหมี่ลวกแล้วโรยหมี่กรอบ หรือใส่แต่หมี่กรอบอย่างเดียวก็ราคาเดียวกัน รสชาติใสๆ ไม่เข้มข้น รสไม่จัดจ้าน ออกธรรมดา แต่อร่อย เส้นนุ่มเหนียว เนื้อไก่สดดีค่ะ เครื่องเคียงก็น่ากินโดยเฉพาะพริกเผาน่ากินมากกกกกกก แอบเห็นเมนูอื่นๆ ที่คนอื่น แต่ไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่สำหรับความเห็นเรานะคะ ส่วนรสชาตินั้นไม่รู้เพราะไม่ได้ลองกินตั้งใจมากินข้าวซอยอย่างเดียว อิอิ  นอกจากนี้ยังมีของกินเล่นต่างๆ ขายด้วยนะคะ สนใจอันไหนซื้อได้เลยยยยย

ไปเที่ยวสุพรรณ มา สุพรรณต้องมากินปลาน้ำจืด เพื่อนๆ แนะนำร้านนี้ ว่าเป็นร้านเก่าแก่ ของสุพรรณที่ควรไปลิ้มลอง 
ร้าน กุ่ยหมง  ร้านอยู่ในอำเภถอบางประม้า เรามาตาม google พิกัดตรงค่ะ จอดรถ หน้าร้านได้เลย 
ตอนไป คนเต็มร้านเลย อาจจะเพราะไปตอนกลางวัน ที่ร้านบอกว่าอย่างน้อยต้องรออาหาร 1 ชม  เราไม่ได้หิวมากก็เลย รอไปคุยไป แต่พออาหารมาแล้วเขามาแบบรวดเดียวเลย  เมนูของเขาเป็นพวกปลาน้ำจืดนู่นนี่ อีกเมนูชื่อดังเขาเป็นกุ้งทอดเกลือ เขาคิดราคาเป็นตัว  มีตั้ง แต่ราคา 500 บาท ไปจน เป็นพัน แต่เรากินเป็นจานๆ พอ อิอิ  = เนื้อปลากราย ผัดกะเพรากระเทียมโทน: 200B =  เนื้อปลากรายชิ้นเล็กๆ เขาผัดมาแบบไม่เผ็ดมาก กระเทียมโทนเขาให้มาน้อยไปหน่อย  มีอยู่ 2 -3 ชิ้นเอง จานนี้น้อยไปหน่อยแต่รสชาติดี อยู่ค่ะ  = ต้มยำปลาม้า 300B =  อันนี้เป็นหม้อใหญ่ เขาให้เนื้อปลามาเยอะดี ปลาสด ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ เป็นต้มยำน้ำใส  เปรี้ยวเค็ม พอดี จานนี้กินร้อนๆ อร่อยดี  = กะหล่ำทอดน้ำปลา 100B =  มาจานผักบ้าง จานนีเฉยๆ กะหล่ำไม่ได้ทอดมากรอบๆ เท่าไหร่ อันนี้ผัดมาแฉะไปนิด  = แกงป่าปลาเนื้ออ่อน 200B =  เสริฟมาแบบสีเผ็ดร้อนสุดๆ เครื่องอลังการ พอกินไม่ได้เผ็ดมาก แต่เครื่องเข้มข้นดี  ปลาสดเหมือนเคย ชอบกินแกงป่าสุดๆ  = กุ้งทอดกระทียม 300B =  สั่งแบบเป็นจาน กุ้งตัวไม่ใหญ่มาก แต่เขาผัดมาเค็มๆ ดี ถ้าไปอีกจะลองกินแบบเป็นตัวบ้าง  อาหารเขารสชาติดี แต่ราคาสูงอยู่ ถ้าเทียบกับอาหารที่ได้มา

มาถึงร้านที่สองระหว่างการเดินทางไปน่าน ไอ้เราไม่รู้จักทางก็นั่งมองข้างทางบ้าง หลับบ้าง จนมารู้สึกตัวตอนกำลังจะจอดรถ ถึงไหนไม่รู้ ก็เดินงงลงรถา จนเห็นป้ายว่าพระพุทธชินราชเลยถึงบางอ้อ เราได้มาไหว้พระพุทธชินราช เป็นวัดที่อยากมามาก แต่ไม่เคยมีโอกาสเลยยยย หลังจากเรามาแวะไหว้พระพุทธชินราชที่ จ. พิษณุโลก กันแล้ว เลยขับรถมาอีกหน่อยมากินข้างเที่ยงกันที่ร้านบะหมี่โบราณ ก๋วยเตี๋ยวรัฐมนตรี ร้านนี้เป็นร้านรุ่นพี่ที่เรารู้จักเอง งงกันล่ะสิว่าทำไมถึงเป็นก๋วยเตี๋ยวรัฐมนตรี ไม่ใช่ว่ามีรัฐมนตรีมาเปิดร้านเองนะคะ แต่เป็นร้านที่มีรัฐมนตรีต่างๆ มาเยี่ยมชิมแล้วล่ะสิ ถือได้ว่าเป็นร้านที่มีคนมีตำแหน่งต่างๆ มาชิมแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งดาราศิลปินต่างๆ ก็มากันมิใช่น้อย สามารถดูได้จากภาพที่ปะไว้ข้างร้าน (แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะนั่งตรงนั้นพอดี อิอิ) ร้านนี้จะมองเห็นได้ชัดเจนมากกก เพราะมีป้ายหน้าร้านที่ใหญ่มากกกกก 555 เราชอบสไตล์การตกแต่งร้านนี้นะคะ ถึงแม้จะเป็นบ้านตึก แต่กลับใช้ของเก่ามาตกแต่งร้าน รวมทั้งยังใช้โต๊ะและเก้าอี้ไม้ในการรองรับลูกค้าอีกด้วยค่ะ ในวันนั้นที่เราไปเป็นช่วงใกล้บ่ายสองล่ะ ทำให้คนในร้านค่อนข้างบางตา เราก็เลือกนั่งกันได้เต็มที่เลยจ้าาาาา ลงนั่งปุ๊บจะสั่งเมนูโปรด นั่นคือเส้นเล็กต้มยำ แต่ได้คำแนะนำมาว่าร้านนี้บะหมี่อร่อย เลยเปลี่ยนเมนูกะทันหันเป็นบะหมี่ต้มยำแทนค่ะ นอกจากนี้ยังสั่งกากหมูทอด เมนูเด็ดของร้าน รวมทั้งลวกจิ้มรวมมิตร บะหมี่ต้มยำ จานไม่ใหญ่มาก มีเครื่องทั้ง หมูสด หมูตุ๋น หนังหมูและหมูแดง เส้นลวกมานิ่มได้ที่ เครื่องในหลากหลาย อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ รสชาติออกหวานเล็กน้อย ปรุงให้ได้รสชาตที่ชอบก็ฟินกันไปค่ะ พริกน้ำส้มเขาอร่อยดีค่ะ แซ่บดีเราเลยปลื้มมมม กากหมู จานเล็กๆ ไขมันมาเต็ม ความฟินก็มาเต็มเช่นกัน อร่อยมากกกกกกกกก อร่อยจนหยุดไม่ได้เลยล่ะค่ะ ความองความอ้วน ไม่สนใจล่ะกินอย่างเดียว 555 มันฟินมากจริงๆ ค่ะ ต้องลองๆ ลวกจิ้ม จะมีเครื่องหลายอย่างทั้งเนื้อหมู หมูตุ๋น เห็ดหอมและลูกชิ้นหมูค่ะ เนื้อหมู นุ่มมากกกกกก อร่อยค่ะ ลูกชิ้นหมู เด้งมีรสชาติดี เคี้ยวแล้วติดลมอย่างมาก หมูตุ๋น รสกลมกล่อม เนื้อไม่เละเกินไป และเห็ดหอม นุ่มกำลังดี มีรสชาติ อร่อยมาก ทั้งหมดนี้จิ้มกับน้ำจิ้มที่เราปรุงเองก็แค่พริกน้ำส้มกะพริกป่นนิดหน่อยก็ฟินเฟ่อร์แล้วล่ะคร่าาาาา สุดท้ายคือเครื่องดื่ม เราเลือกเป็นเก๊กฮวยเย็นค่ะ สีเหลืองอ๋อยมาเชียวแต่รสชาติดีนะคะ หอมแต่หวานไปหน่อย หากใครได้แวะมาไหว้พระพุทธชินราชแล้วอยากแนะนำให้แวะมากินร้านบะหมี่โบราณ ก๋วยเตี๋ยวรัฐมนตรีกันค่ะ นั่งรถมาแค่ห้านาทีก็ได้กินของอร่อยแล้วจ้าาาาาา

ได้มีโอกาสนั่งรถตู้ขึ้นไปที่น่านครั้งแรก ออกจากกรุงแต่เช้าขับยาวไปจนถึงอ่างทอง แวะหาข้าวเช้ากิน ต้องมาแวะที่นี่ ร้าน "ผัดไทยวัดท้องคุ้ง" การเดินทาง มายังไงไม่รู้ เพราะถึงมาก็ถึงวัดแล้ว 555 แต่ร้านนี้ถ้าไม่สังเกตนี้คงหากันไม่เจอค่ะ เพราะจะเป็นทางลาดลงมาเกือบชั้นเลยล่ะคะ ร้านก็จะเป็นสไตล์แบบบ้านมีหน้าบ้านหลังบ้านตั้งโต๊ะได้ประมาณนี้อ่ะคะ ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยราคาถูกแสนถูกเท่านั้น ยังมีก๋วยเตี๋ยวหมูราคาประหยัดอีกด้วย ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ราคาจานละ 18 บาทเท่านั้น!!!! ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมู จะมีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำ แห้ง ต้มจืด และต้มยำก็ชามละ 15 บาทเท่านั้นเองค่ะ ถูกมากกกกกกกกก แต่ปริมาณก็จะตามราคานะคะ จานเล็กๆ แต่บอกเลยว่ากินก๋วยเตี๋ยวหมูชามนึง ผัดไทยอีกชามนึงก็อิ่มแล้ววววว แต่พอดีเราไปเช้าเกินเขายังจัดของไม่เสร็จ นะหว่างรอเลยเดินถ่ายรูปเล่น เจออันนี้ กากหมู!!!!! เห้ยยยยยน่ากินมาก แอบมองว่าเขาจะเอาไปใส่ในจานไหนน้าาาา ระหว่างรอนอกจากจะเดินถ่ายรูปแลัวสำรวจร้านแล้วเรายังหาของมากินเล่นซะหน่อยนั่นก็คือ ทอดมันจากร้านข้างๆ พึ่งทอดขึ้นมาร้อนๆ โอ๊ยยยยย น่ากินมากกกก แถมยังอร่อยดีด้วยค่ะ รสออกเค็มและเข้มข้น จิ้มกับน้ำจิ้มอาจาด แต่รสไม่จัดมาก  คือเราก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วทอดมันกินกับอาจาดนะคะเนี่ย เพราะส่วนมากที่เราเจอมักจะเป็นทอดมันราดน้ำจิ้มไก่เนอะ เราว่าจิ้มกับอาจาดอร่อยกว่าอ่ะค่ะ เพราะว่าส่วนมากทอดมันมักมีรสเค็มแต่อาจาดเนี่ยรสจะออกเปรี้ยวหวานแถมยังมีทั้งแตงกวา พริก และหอมแดง ช่วยตัดความเค็มและความมันของทอดมันได้ดีกว่าค่ะ หลังจากกินของว่างเราก็มีกินของหลัก ก๋วยเตี๋ยวมาก่อน เราสั่งเป็นเส้นเล็กต้มยำ เส้นนิ่มกำลังดีค่ะแต่รสชาติจะออกหวานมาก หอมทั้งน้ำตาล ถั่วลิสงและหมูสับ แต่น่ากินมาก เวลากินนี่จะได้ความหอมของถั่วและพริกค่ะ เอาความจริงเราว่าก๋วยเตี๋ยวเขาอร่อยมากนะคะ แต่ติดที่เราเป็นคนไม่กินหวานอ่ะค่ะ เราเลยแอบไม่ปลื้มตรงนี้นิดหน่อย และร้านนี้ห้ามสั่งอย่างอื่นนะคะเพราะผิดสูตรเขาเขาไม่ทำให้เดี๋ยวจะไม่อร่อย 555 ส่วนจานนี่บะหมี่แห้ง น่ากินเนอะะะะะะะ และเมนูเด็ด ผัดไทย น่ากินมากกกกกกก และอร่อยมากกกกด้วยเช่นกัน แต่หวานไปหน่อย หวานทั้งถั่วและน้ำตาล เราเลยจัดมะนาวไปเต็มๆ 555 ส่วนเส้นเหนียวนุ่มหนึบหนับดีค่ะ ส่วนกากหมูที่เราแอบส่องเมื่อกี้นั้นอยู่ในเมนูนี้แหละค่ะ เส้นเล็กจะออกเหนียวๆ หนึบๆ หน่อย เคี้ยวก็เพลินดี แต่เราชอบความหอมของถั่วกับพริกเขา ฟินมากกกกกก ของอร่อยระหว่างทางมื้อแรกระหว่างไปน่านขอจบเพียงเท่านี้ ตามไปมื้อที่สองกันต่อดีกว่าค่ะ

ร้านครัวผักหวานบ้านไร่นฤบดินทร์ อยู่บนเส้นถนนเส้นชูโต จ.กาญจนบุรี ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพจะอยู่ระหว่าง เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ก่อนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย ร้านอยู่ทางขวามือค่ะ ร้านค่อนข้างใหญ่ มีที่นั่งเป็นโต๊ะไม้โต๊ะใหญ่ มีห้องน้ำค่อนข้างดีไว้บริการแสดงถึงมีนักท่องเที่ยวแวะมาบ่อย และยังมีร้านกาแฟเบเกอรี่ในบริเวณร้านอีกส่วนนึงด้วย ถ้าจะแวะทานที่นี่ก็เรียกว่ามีทุกอย่างพร้อมสรรพ เมนูผักหวานหลากหลายเมนูมาก เข้าใจว่าทางร้านปลูกเอง เพื่อนหลายทานแล้วบอกว่าผักหวานแก่ไปหน่อย แต่สำหรับเรา คิดว่าผักหวานเค้าก็ทานได้นะคะ ไม่อ่อน แต่ก็ไม่แก่ไป เคี้ยวได้สบายๆ แต่ถ้าอ่อนกว่านี้ได้คงประทับใจยิ่งขึ้น ยังไงก็ตาม เมนูผักหวานทั้งหลายที่สั่งมา ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำผักหวาน ผักหวานไฟแดงกุ้งสด ยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ ถ้าตัดเรื่องผักแก่ผักอ่อนออกไป ก็ยังติดที่รสชาติไม่อร่อยเท่าที่ควรอยู่ดี แนะนำให้สั่ง - ปลาทับทิมหลงทัพ : ปลาทับทิมหั่นมาเป็นชิ้นๆ ทานง่าย ไม่ต้องเสียเวลาแกะให้ยุ่งยาก รสชาติสมุนไพรก็อร่อยดี - ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน : รสชาติฉู่ฉี่เข้มข้นหวานมันกะทิไม่ผิดหวัง ทานกับเนื้อปลาเข้ากันดี - แกงเลียงกุ้งสด : รสชาติแกงเลียงหอมเครื่องเทศ เข้มข้นดี มีผักเยอะมาก ที่ต่างจากที่เคยทานคือมีผักหวาน และเผือกด้วย - ชาเขียวเย็น : นมเยอะดี มีความหอมของชาเขียว แม้ทางร้านจะชงไว้แล้ว อาหารที่ไม่แนะนำเลย คือ - เค้กมะพร้าว มีความแข็ง ไม่เข้าถึงนมเนย แม้เสริฟมาชิ้นใหญ่ แต่ไม่ผ่านค่ะ - น้ำผลไม้ปั่นที่ถามย้ำแล้วว่าเป็นผลไม้สดใช่ไหม ทางร้านว่าใช่ แต่เมื่อหยิบมาปั่นนั่น มันคือผลไม้แช่แข็งนั่เอง ไม่อร่อยสำหรับเรา สรุปว่า ถ้าผ่านมาเที่ยวโซนไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละบุรี ต้องผ่านร้านนี้ เป็นตัวเลือกสำหรับหยุดพักเพิ่มพลังท้องกลางทางได้ดี เพราะมีทุกอย่างครบ แต่ถ้าอาหารหลายๆเมนู อร่อยกว่านี้ จะแนะนำค่ะ

The food you get is nothing like the picture in the menu. Vegatable part of meal which should contain a lot of mushrooms is mainly Carrot. The first photo is from the menu and the second and third what provided on two separate occasions

ร้านครัวคีรีวงศ์ อยู่ซ้ายมือ บนถนนแสงชูโต เหมาะกับแวะทานถ้าจะไปเที่ยวทองผาภูมิ ปิล็อก หรือสังขละบุรี หน้าร้านอาจจะสังเกตเห็นยากหน่อย แต่ถ้ามาตามแผนที่ไม่มีพลาดค่ะ

พนักงานที่นี่ดูแลดีมาก ร้านธรรมดาๆ แต่ดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง

อาหารซีฟู้ด พวกกุ้ง ปู ไม่แพง ถูกกว่าปลาอีก ถ้ามาแถวนี้แนะนำให้ทานซีฟู้ดเลยค่ะ

อาหารที่ห้ามพลาด ถ้าแวะมา คือ
- ไข่เจียวพริกขี้หนูโหระพา (50 บาท) : เคยทานแต่ไข่เจียวโหระพาที่ว่าอร่อยแล้ว แต่พอมีพริกขี้หนูเพิ่มขึ้นมาก็น่าสนใจดี เมนูนี้ ทุกคนชอบ พริกทานได้ไม่เผ็ดอย่างที่คิด ไข่ก็ทอดมากรอบดี โหระพาเยอะดีด้วย
- ปูผัดผงกระหรี่ (150 บาท) : จานนี้หน้าตาดูธรรมดามากๆเลยค่ะ แต่เนื้อปูเยอะและผัดมารสชาติดีมาก เป็นอีกจานที่ทุกคนติดใจ

เมนูอื่นๆ ไม่มีจานไหนไม่อร่อย รสชาติดีมีมาตรฐานทุกจาน ไม่ว่าจะเป็น
- ทอดมันปลากราย (150 บาท) : จานนี้ทำเร็วมาก เสริฟมาพอดีกับจำนวนคน
- ต้มยำรวมมิตร (220 บาท) : เสริฟมาหม้อใหญ่ เนื้อเยอะดี มีถ้วยให้ตักแบ่ง
- ฉู่ฉี่กุ้ง (150 บาท) : หน้าตาอาหารจานนี้น่าทานมาก รสชาติใช้ได้ ที่สำคัญคือกุ้งเยอะดี
- ปลาแรดทอดกระเทียม (220 บาท) : ปลาตัวใหญ่ ทอดกรอบมาก พร้อมให้ทานได้หมดทั้งตัว

บรรยากาศร้านเรียกว่าธรรมดา สไตล์ร้านต่างจังหวัดเลยค่ะ อาหารก็ไม่ได้เน้นตกแต่งเพื่อความสวยงามใดๆ แต่อร่อย และถูกมากๆ ขับมาแถวนี้แนะนำนะคะ

วันนี้จะพาไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดใหม่ ณ เมืองเพชรบุรีกันนะคะ สำหรับพิกัดของทางร้าน ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ทางถนนเพชรเกษม พอมาถึงแยกที่วิ่งตรงเข้าเพชรบุรีให้วิ่งตรงเข้าไปค่ะ อย่าเบี่ยงขวาที่จะไปชะอำหัวหินนะคะ พอตรงเข้าไปจะเจอสามแยกไฟแดงแรก ให้เลี้ยวขวาแล้วเจอสามแยกติดๆ กันก็เลี้ยวซ้ายค่ะ ตรงไปสักพัก เจอปั๊มน้ำมันทางซ้ายมือ (น่าจะเชลล์นะคะ) ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างๆ ปั๊มเข้าไปค่ะ วิ่งตรงไปอีกประมาณสองร้อยเมตรจะเจอห้าแยก ร้านนี้จะอยู่เยื้องๆ ไปทางซ้ายมือตรงห้าแยกเลยค่ะ


สำหรับที่จอดรถ หาจอดข้างทางเอานะคะ ส่วนใหญ่คนเพชรก็เอามอไซค์ไปกันหละนะ



ภายในร้านค่ะ มีที่นั่งพอควร ค่อนข้างโปร่งนะคะ คนเยอะแต่ก็ไม่แออัด ไม่ร้อนหละ

บริเวณที่ปรุงอาหารค่ะ

ราคานะคะ ตรงคอนเซปต์เพชรบุรีมาก ต้องไม่แพงค่ะ 555

เครื่องปรุงบนโต๊ะค่ะ แน่นอนว่าก๋วยเตี๋ยวเมืองเพชรต้องมีซอสพริก 555

พริกป่น และพริกน้ำส้มที่เป็นพริกกะเหรี่ยงหมักนะคะ อันนี้ของเพชรบุรีต้องมีเช่นกันค่ะ 


วันนั้นสั่งบะหมี่น้ำทุกอย่างนะคะ ก็มีหมูสด หมูเปื่อย ลูกชิ้น (ย้ำว่าหมูนะคะ ก๋วยเตี๋ยวเมืองเพชรเวลาเอามาแปะ คนชอบคิดว่าเป็นเนื้ออ้ะ)



เส้นลวกมาได้กำลังดีนะคะ ตัวหมูเปื่อยก็ดี เครื่องเคราดีหมดค่ะ แต่ตัวน้ำซุปเรายังชอบของเม้งกับเจ๊เพ็ญมากกว่าอะนะ


เครื่องดื่มสั่งเป็นโอเลี้ยงมาค่ะ เข้มข้นดี หวานกำลังดีค่ะ

สั่งลูกชิ้นปิ้งมาลองค่ะ เนื้อหมูก็สมราคาหละ คือไม้ละห้าบาทเองอะนะ น้ำจิ้มโอเคค่ะ


แอบเก็บภาพตอนคนโล่งๆ มา มีมุมสวยๆ ด้วยนะคะ

สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ


เป็นร้านที่ราคาเป็นมิตรมาก รสชาติดี สมราคา บรรยากาศดี ที่สำคัญสะอาดสะอ้านมากๆ ค่ะ แอบเข้าไปดูห้องที่เตรียมของด้านในนี่มีติดมุ้งลวดไม่ให้แมลงเข้าด้วยนะ 5555 เพิ่งเคยเจอร้านที่เพชรที่ทำขนาดนี้อ้ะ ถ้าใครไปเพชรบุรี ก็ลองไปกินดูนะคะ

เล็งร้านนี้ไว้นานมาก ชอบกินขนมไทยเกือบทุกอย่างแล้วเห็นร้านนี้
เขาขายขนมไทยแต่ทำเป็นเหมือนร้านกาแฟ คาเฟ่ เลยอยากไปลองดู  พอนัดเพื่อนกินกุ้งก็เลยขอแวบไปร้านนี้กันหน่อย



ร้าน บ้านข้าวหนม
ตอนไปร้านกำลังปรับปรุงแต่เขาก็ไปเปิดตรงเลยไป 3 ห้อง
เดี๋ยวทำร้านเสร็จจะกลับไปลองใหม่อีกครั้ง

พิกัดร้านเราตาม google
มาได้ แต่ร้านอยู่ ตรงข้ามกับประปาเทศบาลนครบาลศรีอยุธยา

จอดรถข้างทางได้เลยค่ะ 


ร้านขนมไทยมีให้เลือกหลายอย่าง
ทั้งขนมใส่ไส้ ตะโก้ คุ้กกี้สิงคโปร์ ข้าวต้มมัด ขนมดอกอัญชัน เข้าไปเขาก็มีตะกร้าให้ใส่
หยิบๆ มาแล้วเอาไปคิดเงิน อยากจะกินไปทุกอย่าง




นอกจากขนมเขาก็มีไอติม ด้วย
อยากลองไอติมเขาเลยสั่งมา 2 อย่าง

= ไอติมหลงยุค 110 บาท=


ไอติมเป็น ชาไทย ไอติมเขาไม่หวานมาก ขมๆ
ปลายลิ้น ข้างบนโรยถั่วเขียว ฝอยทอง แล้วก็ทองม้วน ไอติมชาดี  ขมนิดๆ หอมๆ ชอบที่เขาโรยถั่วเขียวมาด้วย
กรุบ  ๆ กรอบๆดี





= ไอติมเปรี้ยวใจ 110 บาท=


มีไอติม 3 ลูก
เสาวรส มะนาว  แล้วก็ สตอเบอรรี่ เป็น
3 ลูก เปรี้ยวๆ สดชื่นดี ชอบเสาวรสสุด
เหมือนใส่นมเปรี้ยวด้วย
เขาจะราดซอสสตอเบอรรี่ กินตอนร้อนๆ ก็สดชื่นดี

มาถึงขนมมากมายที่หยิบใส่ตะกร้า 



= ตะโก้เผือก = 


อันนี้อร่อยดี มะพร้าวเค็มๆ มันๆ
เผือกกับกะทิ เหมือนมันรวมๆ กัน เผือกเขากวนเนียน อันนี้ชอบเลย


= หม้อแกงฟักทอง / หม้อแกง


เขาทำเป็นถาดเล็กๆ เนื้อหม้อแกงก็เนียนดี
แน่นนิดๆ ชอบหม้อแกงฟักทอง ไม่ได้หวานมาก


= ขนมดอกอัญชัน 


อันนี้เพิ่งเคยกินครึ่งแรก
ไส้เหมือนสาคูไส้หมู  แต่เป็นแป้ง ประมาณข้าวเกรียบ
แต่แป้งจะหนากว่า 


รอร้านเสร็จจะลองอีกที ขนมเขาไม่หวานมาก
อยากให้เขาทำเมนูออกมาเป็นจานๆ แต่ทำด้วยขนมไทย แล้วก็เอาขนมไทยแปลกๆ มาด้วย
ราคาก็สูงกว่าขนมไทยทั่วไปอยู่ค่ะ

ยูนิคอนเฟรปปูชิโน่ หวาน มัน กลมกลอม เมนูสีสันพาทเทล มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว