ตื่นแต่เช้าเพื่อลงไปทาน breakfast ที่ห้องอาหาร mosaic @ Amari เพราะพนง.แจ้งว่า ให้ลงมาทานเช้าๆหน่อย สายๆคนจะเยอะ ไม่ชอบแย่งชิงกับใครซะด้วยสิ >_<

ไลน์อาหารที่นี่หลากหลายมากทีเดียวค่ะ เรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า...

จานแรก...พบได้ทุกที่ นั่นคือ ไส้กรอก แฮม เบคอน ไข่ดาว เมนูพื้นๆ ทุกอย่างในจานนี้รสชาดเฉยๆนะคะ แต่ชอบไข่ดาวกึ่งสุกกึ่งดิบประมาณนี้

จานที่สอง...อันนี้แปลกดี บะหมี่กะเพราไก่ค่ะ ก็ฟิวชั่นเนอะ เอากะเพรามาราดบนบะหมี่แทนข้าว ก็อร่อยดี เค้าทำไม่เผ็ดด้วย คงเผื่อชาวต่างชาติทาน แต่ทานไปทานมาก็คล้ายๆทานราดหน้าน่ะแหล่ะค่ะ

จานที่สาม...ข้าวต้มเบาๆ เลือกเครื่องเอาตามใจชอบ ของเราใส่กุนเชียง
หัวไชโป๊วผัดไข่ และปลาฉิ้งฉ้าง อยากบอกว่า ปลาฉิ้งฉ้างนี่อร่อยสุดยอดค่ะ

ต่อมา...เครื่องดื่มก็มีให้เลือกตามใจชอบ แต่พอดีตั้งใจจะทำรีวิวนี้เลย เลือกมาหลายๆสี รูปจะได้สวย ฮ่าๆ สิ่งที่เลือกมาคือ นมสด, น้ำฝรั่ง, น้ำส้ม และน้ำสับปะรดค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบอันไหน คงตอบว่า น้ำฝรั่งกับน้ำส้มค่ะ

มาที่จานขนมบ้าง...แพนเค้กราดไซรัป และ วาฟเฟิลจิ๋วน่ารัก ที่จริงเค้ามีพวกสตอเบอรี่แยม ซอสชอกโกแลตฯลฯ ให้ราด แต่ชอบแบบเพลนๆมากกว่าค่ะ แพนเค้กนุ่มนิ่ม แต่จืดไปหน่อย เร าเอาเนยทาเพิ่มนิดหน่อย ก็พอใช้ได้ค่ะ ส่วนวาฟเฟิลทานเปล่าๆก็อร่อยแล้วค่ะ ชอบจังวาฟเฟิลที่นี่

สุดท้ายเบาๆก่อนจบมื้อนี้ค่ะ...ปาท่องโก๋ราดนมข้น กับ น้ำเต้าหู้ ค่ะ ปาท่องโก๋มันนิ่มไปแล้ว คงนอนรออยู่นาน แต่ราดนมข้นแล้วถึงจะนิ่มก็พอไหวนะ ส่วนน้ำเต้าหู้ใสดี แต่จืดมาก คงต้องใส่น้ำตาลเพิ่มสำหรับคนชอบหวาน แต่เหมาะทำสำหรับคนทานของ healthy หรือ ผู้สูงอายุที่ไม่ทานหวานค่ะ
 

เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวในซอยหัวหิน 16 วางโต๊ะรอบๆบ้านที่อยู่อาศัย มีต้นไม้ห้อยย้อยให้ออกแนวร่มรื่น วางโต๊ะขาวไว้รอบบ้านคั่นด้วยระแนงต้นไม้ ถ้าได้โต๊ะตรงรอบๆบ้านจะโอเคดี แต่ถ้าได้นั่งตรงโซนกลางจะรู้สึกว่าวางโต๊ะแน่นเกินไป อึดอัด และร้อนมาก วันที่ไปกินลูกค้าเยอะเสียด้วยตัวไฮไลท์ของร้านคือก๋วยเตี๋ยวชมสวน ซึ่งท็อปปิ้งค่อนข้างจัดเต็มด้วย หมูกรอบ หมูหมัก ตับหมู ลูกชิ้นหมู และไข่ต้มยางมะตูม ราคาจะสูงกว่าเขาเพื่อนแต่ดูแล้วคุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะไอเท็มเด็ด ไข่ต้มยางมะตูมทำให้ทุกคนตัดสินใจสั่งชมสวนพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

บะหมี่ชมสวน ไม่ใส่ตับ 60.- หมูกรอบหั่นมาชิ้นหนาดี น้ำซุปใส่มาพอประมาณไม่เยอะมาก ไข่ต้มยางมะตูมคือดี เส้นเล็กชมสวน 60.- ตับลวกมานุ่มอร่อยมากๆ ใครชอบตับนุ่มๆไม่ควรพลาดผัดไทกุ้งสด 65.- เส้นเหนียว ผัดได้หอมอร่อย เครื่องเยอะ เสียดายให้เส้นน้อยไปนิด มีกุ้งอยู่ราวๆ 3-4 ตัวสรุปบิลออกมา ราคาเหมือนกินก๋วยเตี๋ยวแถวตึกออฟฟิศเลยแฮะไปวันหยุด ลูกค้าเยอะ รออาหารนานมาก แต่พนักงานเดินมาบอกแล้วว่ารอนานก็เลยไม่ได้โกรธอะไร ก๋วยเตี๋ยวอร่อยดี ผัดไทก็อร่อยดี แต่ก็ไม่ได้พีคจนต้องกลับมาซ้ำอีก

เมนูทั้งร้านมีแต่ไก่ ไก่ ไก่ ฟังดูแล้วน่าจะเป็นข้อเสียเรื่องความหลากหลายต่ำ แต่ความอร่อยของเมนูไก่กลับท็อปฮิตติดลมบนถึงขนาดว่าไปหัวหินทีไร ก็ต้องไปกลับกินร้านนี้ทุกทีไปสิน่า

ร้านเป็นโต๊ะไม้นั่งสบายๆ มีต้นไม้ล้อม โอเพ่นแอร์ จอดรถได้นอกร้าน ระวังนิดนึง วันคู่จอดรถฝั่งเดียวกับร้าน วันคี่จอดรถฝั่งตรงข้ามร้านนะจ๊ะ อีกเรื่องคือร้านปิดค่อนข้างเร็ว แนะนำมากินมื้อเที่ยงชัวร์ที่สุดแล้ว

เมนูเด่นดังคือเมนูไก่ทอดโกศลกับปีกไก่ยัดไส้ เราชอบปีกไก่ยัดไส้มากกว่า คิดว่าไก่ทอดโกศลแห้งไปนิด

ไก่ทอดโกศล ชิ้นละ 60 บาทขอเน้นว่าราคาไก่ที่นี่เป็นราคาต่อชิ้น ซึ่งจัดว่าโหดมากๆเพราะไก่โกศลของเค้าจะชิ้นค่อนข้างจุ๋มจิ๋มเหมือนไก่ขาดสารอาหารยังไงยังงั้น แต่ทอดมากรอบอร่อยไง เค็มๆกำลังดีกินกับข้าวเหนียวร้อนๆฟินมาก

ปีกไก่ยัดไส้ ชิ้นละ 65 บาทขอเน้นอีกทีว่าราคาต่อชิ้น มาเป็นปีกไก่ถอดกระดูกแล้วยัดด้วยหมู กุ้ง วุ้นเส้นสับ ชุบแป้งทอดกรอบมาฟูๆดูชิ้นใหญ่กว่าไก่ทอดโกศลเยอะ รสชาติเค็มๆหอมๆนุ่มเนียนดี กินกับข้าวเหนียวร้อนๆฟินอีกเหมือนเดิม

ลาบไก่ 100.-จัดเป็นลาบไก่ที่อร่อยสุดที่เคยกินมาติดท็อปทรีเลยทีเดียว รสชาติเข้มข้น ติดเผ็ดจัดหน่อยๆ เจริญอาหารดีมากๆ

ข้าวราดไก่ผัดใบกะเพรา 80.-คนสั่งให้เหตุผลว่า เป็นเมนูที่คุ้มค่าที่สุดของร้าน เพราะได้ทั้งข้าวทั้งกับในจานเดียว เออ ก็เข้าใจคิดนะ
ไก่ผัดใบกะเพราให้มาเยอะดี ผัดได้หอม อร่อยกลมกล่อม ข้าวนุ่ม เป็นอีกเมนูที่ถูกใจ

โดยสรุปคือเป็นร้านที่อร่อยแต่แพง แถมขึ้นราคาทุกทีที่มากินเลยด้วย ขยับเมนูละห้าบาทสิบบาท ไม่รู้จะกินไปได้อีกนานแค่ไหน

Burger king

เมนูที่ 1 - Barbeque bacon cheese burger : เลือกได้ระหว่าง หมู/เนื้อ ส่วนของเราเป็น เนื้อนะคะ บอกเลยว่า ถ้าใครทานเนื้อวัวได้ ทานเนื้อวัวเถอะค่ะ อร่อยกว่าหมูเยอะเลย burger ของ burger king เราว่า น่าจะอร่อยสุดในบรรดา fast food ของ chain ทั้งหลายที่มีในไทยนะคะ เพราะเค้าเป็น flame grilled คือ ย่างเนื้อเอา ไม่ใช่ทอด ดังนั้น burger เค้าเลยมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และมันคือ สิ่งที่ทำให้อร่อยนี่แหล่ะค่ะ สำหรับ barbeque bacon cheese burger นี่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มีเนื้อ+เบคอน+ชีส และซอส bbq นอกจากความหอมของเนื้อแล้ว ขนมปังก็นุ่ม เบคอนคืออีกตัวชูโรงที่ทำให้อร่อยมากขึ้น ด้วยความหอมของเบคอน ผสมกลิ่นซอส bbq และรวมกับชีสด้วย รสชาดเริ่ดมากก

เมนูที่ 2 - Chic'N Crisp อันนี้ก็เป็น burger ไก่ทอดค่ะ คำแรกที่ทานคือ กรอบมากเหมือนชื่อเมนูเด๊ะ ทานคู่กับผักและซอสที่ใส่มาด้วยใน burger อร่อยยิ่ง แต่ขอติเรื่องความเค็มของไก่นิดนึง ถ้าลดความเค็มนิด จะอร่อยที่สุดค่ะ

เมนูที่ 3 - Premium iced chocolate : ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะสั่งค่ะ แต่เห็นป้ายตั้งว่า มีโปรโมชั่นเหลือแก้วละ 55 บาท เลยลองดูละกัน รสชาดดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ เค้าใช้ cocoa ดีมาทำนะเราว่า รสชาดเลยออกมา ok เลย ที่สำคัญคือ รสของ cocoa นำความหวาน คือไม่หวานค่ะ ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นเครื่องดื่ม premium iced chocolate นั่นแหล่ะค่ะ

ร้านธันย์โรตีมะตะบะ เป็นอีกหนึ่งร้านที่นักรีวิวทั้งหลายแนะนำว่า ถ้ามาหัวหินต้องมาลองชิมค่ะ เราเลยต้องตามมาพิสูจน์ *^_^*

ร้านนี้เป็นตึกแถว 1 คูหา ร้านบ้านๆไม่ได้ตกแต่งร้าน แต่เจ้าของทำโรตีเองอยู่หน้าร้าน ยิ้มแย้ม อัธยาศัยดีมาก ยอมให้ถ่ายรูปแต่โดยดี แถมยิ้มให้กล้องอีกด้วย ฮั่นแน่!

ตอนแรกนึกว่าขายแต่โรตีซะอีก แต่ที่จริงเค้ามีอาหารตามสั่งอีกนับรายการไม่ถ้วนเลยทีเดียวค่ะ แต่ขอจัดรีวิว แค่โรตีก่อนละกันค่ะ ขอลองของดังของร้านก่อนเนอะ

ของคาว: โรตีมะตะบะ ราคาจานละ 30 บาทเองค่ะ ปกติก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสทานโรตีมะตะบะเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่า เค้าใส่อะไรกันบ้างตอนทำ แต่สำหรับร้านนี้ แป้งโรตีด้านนอกนุ่มๆค่ะ หอมกลิ่นเครื่องเทศ ด้านในมีไส้ไก่กับอะไรอีกสักอย่าง เดาว่าเป็น มัน น่ะค่ะ พอดีไม่ค่อยได้ทานมะตะบะ เลยรู้น้อยไปหน่อย T_T

ของหวาน: โรตีธรรมดาไม่ใส่ไข่ (พอดีว่า ไม่ชอบแบบใส่ไข่ เลยขอแบบโรตีพื้นๆค่ะ) ราคา 20 บาท โรตีนี้บอกเลยว่า อร่อยมาก เค้าเป็นโรตีแบบนุ่มนะคะ และก็นุ่มมากด้วย ชอบจริงๆเชียว บวกกับนมข้นที่ราดมาอย่างชุ่มฉ่ำ กับน้ำตาลอีกหน่อย อร่อยแบบนี้ คราวหน้าจะแวะมาอีกค่ะ

ก่อนออกจากร้าน เลยต้องแวะไปชมเจ้าของร้านว่า โรตีอร่อยมากเลยค่ะ

ลอดช่องสิงคโปร์ เสวย ลุงดำ อยู่ซอย หัวหิน 55 ตรงโซนที่มีขายของกินเยอะๆนั่นแหล่ะค่ะ มาหัวหินทีไรไม่เคยพลาดมาอุดหนุนลุงดำ และก็ต้องยืนต่อแถวรอคิวยาวทุกที เรียกว่า อากาศร้อนแบบนี้ กว่าจะถึงคิวก็ตัวดำกันไปก่อนล่ะค่ะ

ลอดช่องของลุงดำ มีทั้งแบบแก้ว พร้อมทาน ราคาแก้วละ 20 บาท แล้วก็มีแบบใส่ถุงกลับบ้าน แต่ไม่เคยซื้อแบบใส่ถุงซักที เพราะจะกินเดี๋ยวนั้นเลย ^_^

ลอดช่องร้านนี้อร่อยทั้งน้ำกะทิ ที่หวานกำลังดี และหอมกะทิมากมาย ฟินมาก ตัวเส้นลอดช่องก็สีใสตามสไตล์ลอดช่องสิงคโปร์ แต่คงความเหนียวนุ่ม เข้ากันกับน้ำกะทิ และน้ำแข็งใสที่สุดดด
ที่สำคัญอย่างที่ลุงดำ พูดทุกครั้งคือ อย่าลืมคนให้เข้ากันก่อนกินค่า

ร้านนำชัยเกี๊ยวปลา เป็นอีก 1 ร้านที่เราอ่านรีวิวของคนอื่นแล้วตามมาชิมค่ะ ร้านค่อนข้างหาที่จอดรถยากนิดนึงเพราะเป็นตึกแถวอยู่ริมถนนค่ะ วันนี้เจออาเฮียนำชัย (น่าจะใช่นะ) ลวกลูกชิ้นเองอยู่หน้าร้าน เฮียแกพูดเก่งมาก ได้ยินเสียงเฮียแกตั้งแต่เข้าไปในร้าน จนออกจากร้านก็ยังได้ยินอยู่ ฮ่าๆ

เงยหน้ามองเมนู อืม..ราคาไม่ถูกนะเนี่ย ถูกสุดก็ 50 บาท ไปจนถึงชามเป็น 100 บาทเลยค่ะ โอ้ว..แพงกว่า กทม.ไหมเนี่ย

รอบแรกสั่ง ..
ชามที่ 1: เกาเหลาไม่ใส่ถั่วงอก เอาชามเล็กก่อน ราคา 50 บาท (เมนูมีเกาเหลาชามใหญ่ ราคา 60 บาท) เพราะไม่ได้หิวมาก ปรากฏว่า อ่านเมนูไม่ดี เกาเหลาที่ร้านนี้เป็นเกาเหลาลูกชิ้นปลาล้วน! คือมีแต่ลูกชิ้นปลาอย่างเดียวลอยอยู่ในชาม เอิ่ม..ผิดจุดประสงค์อย่างแรง เดี๋ยวต้องสั่งอีกรอบ

ชามที่ 2: เย็นตาโฟใส่เส้นปลา ราคา 60 บาทค่ะ ในชามมีเส้นปลา ลูกชิ้นปลา ปลาหมึกแช่ และผักบุ้งค่ะ ซุปกับซอสเย็นตาโฟรสชาดใช้ได้ คือ ไม่หวานไป เราชอบซอสเย็นตาโฟแบบนี้ ส่วนเส้นปลาก็รสชาดดี เค้าทำได้ดีทีเดียว ไม่มีกลิ่นคาวปลานะ ปลาหมึกแข็งไปนิดนึงค่ะ

รอบสอง สั่งแก้ตัว...
ชามที่ 3: เกาเหลาลูกชิ้น ใส่เพิ่มเกี๊ยวปลาค่ะ ก็ร้านชื่อ นำชัยเกี๋ยวปลานะ จะพลาดเกี๊ยวปลาก็ดูยังไงอยู่ ชามนี้ราคา 100 บาทเชียวนะ หน้าตาเหมือนเกาเหลาลูกชิ้นปลาชามแรก แต่มีเกี๊ยวปลาเพิ่มมา 5 ชิ้น คือ ปกติเกี๊ยวปลาลวกก็ชิ้นละ 10 บาทค่ะ โดยส่วนตัวนะคะ เราว่า เกี๊ยวปลาไม่ปังเลย คือลูกเล็ก ไม่สมราคา แถมแป้งด้านนอกก็แป้งไปอ่ะ ไส้ด้านในก็นิดเดียว ไม่ประทับใจเท่าไหร่ค่ะ ส่วนตัวลูกชิ้นปลาก็ลูกเล็กเหมือนกัน แต่ให้มาพอประมาณ รสชาดเหมือนลูกชิ้นปลาทั่วไป แต่ดีตรงที่ไม่มีกลิ่นคาวปลาค่ะ

ทริปนี้ตามรอยแทงร้านอาหารที่หลายๆคนรีวิวแนะนำว่าถ้ามาหัวหินต้องแวะค่ะ ร้านแรกที่แวะทานอาหารเที่ยงกัน (หลังรถติดมากๆมาตลอดทาง) นั่นคือ ร้านน้องเมย์ ค่ะ

ร้านเค้าดังจริงค่ะ ถ้ามาช่วงพีคคนรอคิวเพียบเลย ร้านนี้เค้าตั้งอยู่ริมถนน ถ้านั่งด้านนอกไม่มีแอร์ แต่มีหลังคา ส่วนด้านในมีห้องแอร์ แต่คิดค่าแอร์คนละ 10 บาทค่ะ แน่นอนว่า อากาศร้อนม๊ากกกกขนาดนี้ จัดไปเลยห้องแอร์ ไม่ต้องคิดค่ะ

เมนูที่ 1: ปูผัดต้นหอม ราคา 150 บาท เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของที่นี่ด้วยนะ จานนี้ปูเนื้อหวานดี ยิ่งผัดกับไข่ ใส่ต้นหอม ใส่หัวหอมด้วย อร่อยไปเลย

เมนูที่ 2: ห่อหมกปลาอินทรีย์ ราคา 50 บาท จานนี้แปลกดีนะ ตรงที่ถ้าเป็นทั่วไปปกติเห็นมาในกระทงใบตอง แต่ของที่นี่ ด้านล่างรองมาด้วยเปลือกหอยเชลล์ค่ะ ทำให้เนื้อห่อหมกแบนมาก แต่รสชาดเค้าจัดจ้านถึงรสเครื่องแกง เข้มข้นดีค่ะ

เมนูที่ 3: หอยเชลล์ทอดกระเทียม ราคา 120 บาท ตอนยกมาเสริฟ แอบตกใจนิดนึงว่า หอยเชลล์มันตัวเล็กไปไหม ไซส์แค่ประมาณเกือบๆเท่าเหรียญบาทเท่านั้นเองค่ะ แต่รสชาดก็ไม่แย่นะคะ เพราะเค้าผัดกระทียมก็เลยมีกลิ่นหอมของกระเทียมค่ะ

โดยรวมถือว่า ผ่าน และจะดีมากถ้าทางร้านจะทำน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ลูกค้า เพราะมันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างน่ะค่ะ

ปลาทอดน้ำปลา ปลาทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำปลาปรุงรสเค็มนำแต่กลมกล่อม

ที่นี่ไม่มียำมะม่วงให้ แต่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ซึ่งแซ่บ เข้ากันกับปลาได้ดีและช่วยขับรสหวานของความสดของเนื้อปลาได้ดีมากๆ

ปลาสดมากไม่คาวเลย ทานกับข้าวสวยก็อร่อยกุ้งซอสมะขาม

กุ้งตัวใหญ่มากกกก ชุบแป้งนิดหน่อยแล้วจึงนำมาทอด ราดด้วยซอสมะขามรสกลมกล่อมเข้ากันกับกุ้งทอดได้อย่างดีเยี่ยม

บรรยากาศ ร้านมีทั้วตัวร้านนั่งข้างใน และซุ้มริมทะเล ลมเย็นๆ

บริการ อาหารไม่ช้าเท่าไหร่ พนักงานบริการโอเค

ราคา เหมาะสม

ความสะอาด โอเค

หลังจากทานขนมหวานร้านบ้านป้าปรางค์อิ่มพอประมาณ เราก็เดินเลยมาหน่อยนึงเพื่อมาอุดหนุนลอดช่องสิงคโปร์เจ้าดังของหัวหิน

สั่งลอดช่องมา 2 แก้ว แก้วละ 20 บาท (ให้ไม่เต็มแก้วด้วย สงสัยกลัวทานลำบาก😁) รสชาติน้ำกะทิไม่เข้มข้นเหมือนที่คาดหวังว่าเป็นเจ้าดังของหัวหิน แต่เส้นลอดช่องอร่อยค่ะ เหนียวๆ นุ่มๆ ลื่นๆ แต่ถ้าใครชอบลองแวะมาลองดูนะคะ เพราะเป็นความเห็นส่วนตัว

เรียกว่าตั้งใจมาร้านนี้เพราะ "ขนมโค" โดยเฉพาะจริงๆ อยากทานมากอร่อยสุดๆ เป็นร้านขนมหวานไทยที่เปิดขายมานานประมาณ 50 กว่าปีแล้ว

ร้าน "ขนมหวานบ้านป้าปรางค์" อยู่ในซอยหัวหิน 55 ขับเข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตร ร้านอยู่ขวามือเป็นบ้าน ขนมอร่อยทุกอย่างเลย เช่น ขนมโค ข้าวเหนียวเปียก ข้าวเหนียวถั่วดำ ข้าวฟ่าง กล้วยบวชชี ฟักทองแกงบวด ปลากริมไข่เต่า ฯลฯ กะทิเข้มข้น บอกได้เลยว่าขนมอร่อยทุกอย่าง ราคาถ้วยละ 20 บาท ไม่แพงเลยถ้าเทียบกับึวามอร่อยและวัตถุดิบที่ใช้

วันนี้จัดเบาๆ 3 ถ้วยกับขนมโค (ยอมอ้วนเลยงานนี้) ที่อยากทานมานาน เพราะหาซื้อยากมากๆ ในกรุงเทพฯไม่เห็นมีขายเลย อีกคนที่มาสั่งข้าวเหนียวดำ

ใครมาหัวหินแนะนำร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์นะคะ อร่อยสุดยอดจริงๆ ค่ะ ให้ 5 ดาวเลย⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

อร่อย @ หัวหิน ร้านอาหารทะเลแถวๆเขาตะเกียบ ที่มีเมนูอาหารทะเลสดใหม่มากมายทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ความสดของอาหารทะเลนั้นถือว่าอยู่ในระดับสิบเลยทีเดียวครับ เพราะว่าอร่อยมาก ถูกปากมาก สมแล้วกับคำว่า อร่อย @ หัวหิน เป็นร้านที่ยกให้เป็นอันดับ 1 ในหัวหินในเรื่องของอาหารทะเลได้เลยครับ ต้มยำกุ้งแซ่บมาก

ช่วงวันหยุด พาเจเจมาเที่ยวหัวหินกันค่ะ พ่อเจเจแนะนำว่าร้านนี้บรรยากาศดี อยู่ติดทะเล เลยลองมาชิมซะหน่อย น่าเสียดายที่ที่จอดรถของร้านนี้ไม่มี ต้องอาศัยจอดเอาริม ๆ ถนนค่ะลูกชายขอถ่ายรูปกับป้ายชื่อร้านหน่อยทางเข้าร้าน บรรยากาศร่มรื่นค่ะตุ๊กตาเชฟยืนต้อนรับอยู่หน้าร้านในร้านมีที่นั่งทั้งด้านใน และติดทะเล แต่เรามาถึงตอนใกล้ ๆ เที่ยง แดดค่อนข้างร้อน เลยขอนั่งด้านในดีกว่าค่ะเมนูต่าง ๆเมนูเด่นประจำวัน เลมอนทาร์ต รสชาติกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยวค่ะบลูเบอร์รี่ชีสพายเมนูโปรดคุณลูกชาย บูลเบอร์รี่ทาร์ต เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ แต่รสชาติถือว่าผ่านค่ะเค้กมะพร้าวเค้กมะพร้าว รสชาติกลมกล่อม ครีมมะพร้าวอร่อยอร่อยดี แต่เนื้อเค้กไม่ค่อยเนียนนะคะชาเย็นชาเย็นโฟลตของพ่อเจเจค่ะชอคโกแล็ตโฟลตของเรา รสชาติโอเคค่ะ ไม่หวานจัดทานเสร็จแล้วแวะมาถ่ายรูปริมทะเลหน่อยค่ะร้านนี้เค้าวิวสวยจริงค่ะ ช่วงแดดร่ม ลมตก มานั่งทานเค้กริมนะเล น่าจะได้บรรยากาศมาก

บ้านถั่วเย็นตั้งอยู่บนถนนแห่งอาหารการกินค่ะ บนถนนเส้นนั้นมีร้านอาหารแนะนำเยอะมากกกก และก็อยู่ใกล้กับรฤก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ชิคๆ อีกด้วย โดยเมนูของร้านจะมีทั้งน้ำแข็งไสและเมนูไอศกรีมใส่ถั่วแดง
เพื่อนๆ สั่งไปหลายเมนูม๊ากกกค่ะ แต่เรากินแต่น้ำแข็งไสใส่ถั่วแดงต้มและวุ้นที่ทางร้านเรียกว่า “ไอซ์กั๊ตจังถั่วแดง+วุ้นโฮมเมด” (60 บาท) ฟังชื่อแล้วรู้สึกคุ้นๆ ชื่อเหมือน Ice Kachang เมนูน้ำแข็งไสที่เคยกินในสิงคโปร์ ถามก็ได้ความว่าเป็นน้ำแข็งไสสูตรสิงคโปร์ค่ะ
เมนูนี้ที่สั่งมาเป็นน้ำแข็งไสเสิร์ฟมาในแก้ว ชั้นล่างสุดเป็นถั่วแดงต้มมานิ่มกำลังดี ชั้นกลางเป็นน้ำแข็งไสราดน้ำเชื่อมสีแดง และชั้นบนสุดเป็นวุ้นตัดมาเล็กๆ ค่ะ น้ำแข็งที่นี่ไม่ได้ฝอยแบบกินแล้วละลายเหมือนปุยน้ำแข็ง แต่ว่าจะเป็นเกล็ดกรุบๆ นะคะ กินตอนร้อนๆ ก็ชื่นใจดีแท้ แต่ติดตรงที่ราคาแพงไปม๊ากมาก แถมเจอคุณพนักงานเหวี่ยงอีก

เนื่องจากเราอยากกินอาหารแนะนำของเมืองหัวหิน เพื่อนสาวเลยเข้าอากู๋เพื่อเสิร์ชหาร้านอาหารแนะนำและมาสรุปกันที่ร้านโจ๊กเจ้แอ้มซึ่งมีขายทั้งโจ๊ก ต้มเลือดหมู ปาท่องโก๋ ซาลาเปา สะเต๊ะ คือครบครันจนน่าลิ้มลองค่ะ ...แต่ตื่นสาย ตลาดวาย ไปถึงปาท่องโก๋ก็หมดซะแล้วก็เลยได้แต่สั่งต้มเลือดหมูมากินคนละชาม ข้าวเปล่าคนละถ้วย และซาลาเปาคนละลูกก็เท่านั้น+ ต้มเลือดหมู
ต้มเลือดหมูของทางร้านปรุงรสได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ไม่ติดหวานมากไปเหมือนหลายๆ ร้าน เครื่องในสะอาดไม่มีกลิ่น ส่วนที่ชอบที่สุดคือหมูเด้งที่นุ่มเด้งจริงๆ อร่อยค่ะ+ ซาลาเปา สามคนสามไส้ สั่งมาทั้งหมูแดง หมูสับ และไส้ครีมค่ะ ซาลาเปาร้านนี้ลูกละสิบบาท เป็นลูกเล็กๆ รสชาติทั้งสามไส้ถือว่าอร่อยดีเลยค่ะ+ ชาดำเย็น เข้มมากและหวานมากค่ะ
เท่าที่สังเกตเครื่องปรุงของทางร้านสะอาดดีค่ะ มีป้ายติดราคาในร้านชัดเจนดี ส่วนชื่อร้านด้านหน้าเขียนว่าโจ๊กเจ๊แอ้ม ป้ายด้านในร้านตรงป้ายราคาเขียนว่าร้านเจ๊แอ้ม เอิ่มมม เจ๊ทำหนูงง