อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2011-09-30
27 วิว
สวัสดีค่ะ ครั้งนี้ขอนำเสนอBuffet กันบ้างนะคะเราเลือกมารับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์กันที่ Le Meridien Surawongse เนื่องจากทราบมาว่า ที่โรงแรมเชิญ Chef มาจาก Le Meridien ที่เยอรมันเพื่อปรุงอาหารเยอรมันแท้ๆให้ชิมเราเองก็ไม่เคยทานอาหารเยอรมันแท้ๆซักที อยากจะลองทานไว้ประดับความรู้อยู่เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจลองดูค่ะร้านตั้งอยู่เหนือ Lobby ขึ้น Lift แก้วมาจากชั้นลานจอดโดยตรงได้เลย เก๋ไก๋ทันสมัยทีเดียวค่ะตัวร้านเป็น open space ใหญ่พอสมควรค่ะ มีส่วนหนึ่งเป็นเฉลียงสามารถมองลงไปเห็น Lobby ได้ชัดเจน เราได้นั่งตรงนี้ค่ะโต๊ะจัดไว้ห่างกันพอควร ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว เก้าอี้นั่งสบายนะคะ โต๊ะเข้ากับ design ทันสมัย
เราเลือกมารับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์กันที่ Le Meridien Surawongse เนื่องจากทราบมาว่า ที่โรงแรมเชิญ Chef มาจาก Le Meridien ที่เยอรมันเพื่อปรุงอาหารเยอรมันแท้ๆให้ชิม
เราเองก็ไม่เคยทานอาหารเยอรมันแท้ๆซักที อยากจะลองทานไว้ประดับความรู้อยู่เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจลองดูค่ะ
ร้านตั้งอยู่เหนือ Lobby ขึ้น Lift แก้วมาจากชั้นลานจอดโดยตรงได้เลย เก๋ไก๋ทันสมัยทีเดียวค่ะ
ตัวร้านเป็น open space ใหญ่พอสมควรค่ะ มีส่วนหนึ่งเป็นเฉลียงสามารถมองลงไปเห็น Lobby ได้ชัดเจน เราได้นั่งตรงนี้ค่ะ
โต๊ะจัดไว้ห่างกันพอควร ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว เก้าอี้นั่งสบายนะคะ โต๊ะเข้ากับ design ทันสมัยของโรงแรม
พนักงานที่นี่ใส่สูทสีดำ เรียบโก้ มีพนักงานฝรั่งเป็นหนุ่มผมทองมาให้บริการด้วยนะคะ inter จริงๆ
บริการดี มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เช่นเดียวกับ Le Meridien อื่นๆที่เคยไปมาค่ะ
ส่วน line buffet ไม่มากนัก แต่สามารถไว้น่าสนใจทีเดียว ดังนี้ค่ะ
1. อาหารฝรั่ง มีพิซซ่าแป้งบางกรอบด้วย อร่อยมากเลยค่ะ จุดนี้มีไส้กรอกเยอรมันอย่างเสิร์ฟเย็น
2. อาหารเยอรมันแบบปรุงร้อนเป็น dumpling ในซอส และไส้กรอกลูกวัวทอดร้อนๆ ข้างๆก็มี
ขนมปังเยอรมันชนิดต่างๆและออเดิร์ฟต่างๆ
3. หมูอบหนังกรอบ ด้านข้างๆเป็นอาหารเยอรมันปรุงไว้ในหม้อประเภทผักและเนื้อสัตว์
4. เป็น station แยกไปต่างหาก มีอาหารไทย อาหารจีน อาหารฝรั่งปรุงสำเร็จใส่หม้อร้อนหลากหลายประเภท จำพวกแกง ของทอด ผัดต่างๆ และมันฝรั่ง พาสต้าอบ เป็นต้น
5. ย้อนมาอีกด้านจะเป็น station ยำไทย มีพนักงานคอยปรุงตามสั่งค่ะ ข้างๆเป็นสลัดผักสดแบบฝรั่ง
เลยไปอีกด้านจะเป็นโซนอาหารแช่เย็น มีอาหารทะเล ยำเย็นๆ และมุมญี่ปุ่นเล็กๆค่ะ
6. ติดๆกันกับยำไทย จะเป็นตู้ไอศครีมหลากรส สามารถทานได้เลย หรือจะให้ผัดกับเครื่องต่างๆที่มากล้นก็ได้ ขนมสำหรับเป็นไส้ผัดใส่โหลไว้ให้เลือกละลานตาเลยค่ะ ด้านข้างอีกนิดเป็นขนมเค้กประเภทต่างๆ สวยงามจนไม่กล้าตักเลยค่ะ จุดต่อมาเป็นขนมในตู้แช่เย็น จำพวก Panacotta เค้กชิ้นเล็กๆ
7. หักมุมเลยตู้ขนมไปจะเป็นขนมปังชนิดต่างๆพร้อมเนยสดหอมมัน ที่กินที่ทีๆก็สุดจะอร่อย
8. เดินเลยกันมาจะเป็นผลไม้สดๆ เน้นเป็นผลไม้ไทยทั้งหมดค่ะ
เราเองตื่นตาตื่นใจกับขนมมากๆ อยากจะกินไปหมดเลยค่ะ สีสันก็สวย รูปทรงก็งามตา แต่ก่อนอื่นเราต้องเลือกชิมอาหารคาวกันก่อน ขอนำทุกท่านเข้าชิมรสชาติตามนี้ค่ะ
1. พิซซ่า แป้งบางกรอบ กินกี่ทีก็อร่อย
2. ไส้กรอกเยอรมันแบบเย็น เนื้อแน่น แต่ว่าไม่รสจัดเลยค่ะ อาหารเยอรมัน dumpling ในซอส จืดจังค่ะ
3. ขนมปังกับเนย ขนมปังอร่อย และเนยก็อร่อยหอมมากๆค่ะ
4. ไอศครีม รสชาเขียวอร่อยเข้ม รสราสเบอรี่เปรี้ยวหวาน รสแพสชั่นฟรุตก็เช่นกัน
5. ขนมถ้วยเล็กๆต่างๆล้วนมีรสชาติกลมกล่อมลงตัวค่ะ
เราสรุปได้ความว่า เราคงไม่ชอบอาหารเยอรมันแท้ๆแน่เลย เพราะจืดไปสำหรับเราค่ะ แต่เราชอบขาหมูเยอรมันนะ อิ อิ
สำหรับประสบการณ์ครั้งนี้ ถือว่าอร่อยคุ้มค่ากับโอกาสที่จะได้ชิมอาหารเยอรมันรสแท้โดยเชฟระดับ Le Meridien จากเยอรมันเลยทีเดียว อาหารอื่นๆที่ยืนพื้นของโรงแรม ก็ถือว่าอร่อยอยู่แล้ว การบริการก็ดีค่ะ คุ้มค่าสมราคาค่ะ
งานนี้ไม่แน่ใจว่าถึงเมื่อไหร่นะคะ ใครอยากชิมอาหารเยอรมันแท้ๆก็ลองเช็คกันดูค่ะ
โพสต์