41
1
3
เบอร์โทร.
02-185-2960
098-253-6380
รางวัลที่เคยได้รับ
ร้านอาหารมิชลิน เพลท (2018-2021)
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
โอกาสพิเศษ
ข้อมูลเพิ่มเติม
จากถนนสุขุมวิท ตรงไปสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ 19 ประมาณ 15 เมตร จะเห็นร้านภัทราฟายน์ไทยควิซีน อยู่ด้านขวามือ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:30 - 14:30
17:30 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:30 - 14:30
17:30 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
รายละเอียดของรางวัล
วิดีโอ
รูปภาพ
+43
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
ถ้าพูดถึงอาหารไทย หลายๆ คนคงจะคิดว่าหาทานเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารไทยที่มาพร้อมบรรยากาศดีๆ คงจะมองไปยังร้านอาหารไทยในโรงแรม 5 ดาว แต่วันนี้ผมมีร้านอาหารไทย ที่มีบรรยากาศดีไม่แพ้โรงแรม 5 แถมอยู่ใจกลางเมือง และราคายังน่าคบกว่าด้วยนะครับ ร้านที่จะพาไปรู้จักก็คือ PATARA Fine Thai Cuisine ซึ่งร้าน ภัทรา นั้นอยู่ในซอยทองหล่อ 19 มีที่จอดรถสะดวกสบายโดยบรรยากาศภายในร้านนั้นดัดแปลงมาจากบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่กว้างรอบๆ บ้านส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถ อีกส่วนหนึ่งเป็นสวนนอกบ้าน ซึ่งเหมาะสำหรับนั่งรับลมในมื้อเย็นได้สบายๆส่วนชั้นบนนั้นเป็นห้องอาหารที่สามารถรับรองลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม หรือต้องการจัดเป็นไพรเวทปาร์ตี้ได้สบายๆ ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว ซึ่งการตกแต่งก็ดูหรูหราไม่แพ้ร้านอาหารไทยในโรงแรม 5 ดาวเลยนะครับพาไปชมบรรยากาศสวยๆ กันแล้วก็มาดูเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าครับแน่นอนว่าที่ร้านภัทรานั้นจะเน้นให้บริการอาหารไทยเป็นหลัก แต่ก่อนอื่นขอเสิร์ฟเครื่องดื่มก่อนนะครับ แม้จะเป็นร้านอาหารไทย แต่ก็มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ซึ่งผมเลือกสั่งเป็นเครื่องดื่ม mocktail เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในมื้อค่ำแบบนี้ ขอเริ่มที่ L.A. Paradise (120 บาท) ม็อคเทลที่ผสมระหว่านน้ำลิ้นจี่ แอปเปิ้ล lime และน้ำผึ้ง รสชาติหวานกลมกล่อม ชื่นใจส่วนอีกแก้วเป็น Patara Fruit Punch (120 บาท) ม็อคเทลสีสันสดใส เติมความสดชื่นด้วยเชอรี่สีแดงสด ถือว่าช่วยเพิ่มความสดชื่นก่อนมื้ออาหารได้ดีทีเดียวจากนั้นเมนูแรกก็เสิร์ฟ ยำมะเขือย่างเนื้อปูไข่ปลาคาร์เวียร์ (275 บาท) ถือว่าเป็นเมนูอาหารไทยที่เติมความหรูหราด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ ที่วางบนเนื้อปู ซึ่งตัวมะเขือย่างก็อร่อยนุ่มลิ้นแถมรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ด้วยน้ำยำรสเปรี้ยวนิด หวานเค็มหน่อยๆ อร่อยลงตัวเติมความเป็นไทยเข้ามาอีกนิดด้วยเมนู แกงเนื้อปูใบชะพลู (485 บาท) แกงใบชะพลูแบบไทยๆ ที่มาพร้อมกับเนื้อปูก้อนโต รสชาติเผ็ดร้อนนิดๆ ซึ่งถ้าให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องทานกับขนมจีนที่เสิร์ฟมาคู่กัน จะอร่อยลงตัวมากๆ หรือใครจะทานกับข้าวสวยก็ไม่ขัดเขิน ยิ่งเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่หุงด้วยน้ำมะพร้าว เสิร์ฟในลูกมะพร้าวเผา อร่อยหอม หวาน มัน มากครับและเมนูที่ไม่พูดถึงไม่ได้ถ้าหากมาทานร้านอาหารไทยแบบนี้นั่นก็คือเมนูน้ำพริกนั่นเองครับ ที่ร้านเสิร์ฟ น้ำพริกพริกไทยอ่อน (265 บาท) น้ำพริกแบบไทย ที่ตำเข้ากับพริกไทยอ่อน รสชาติไม่เผ็ดมากนัก คนที่ไม่ชอบทานเผ็ดน่าจะทานได้สำหรับเมนูนี้ ยิ่งมาพร้อมกับผักสดที่มาจากโครงการหลวงทั้งหมด และไข่ต้มยางมะตูม แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับต่อด้วยเมนู ปูนิ่มทอดกรอบผัดใบยี่หร่า (355 บาท) อีกหนึ่งเมนูรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ซึ่งจัดเต็มปูนิ่มกันมาแบบเน้นๆ ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนบวกกับเนื้อหวานๆ ของปูนิ่ม เป็นอีกเมนูที่ทานกับข้าวสวยได้อร่อยลงตัวเช่นกันครับจากนั้นก็ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย พล่าหอยเชลล์ (285 บาท) หอยเชลล์ตัวโตๆ มาพร้อมน้ำซอสปรุงรสจัดจ้านแบบไทยๆ อร่อยนุ่มลิ้นแบบเต็มปากเต็มคำแล้วก็มาถึงเมนูของหวานกับเมนูลูกผสมไทยกับตะวันตกนั่นก็คือ เครมบรูเล่อบควันเทียน (195 บาท) Crème brulee ที่มีส่วนผสมของใบเตย ทำให้มีกลิ่นหอมใบเตยเวลาเคี้ยว ซึ่งรสชาติไม่หวานเกินไปด้วยครับ เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมเสาวรส ซึ่งมีรสเปรี้ยวชื่นใจตัดกับรสชาติหวานของตัวเครมบรูเล่ได้ดีครับ ถือว่าเป็นเมนูปิดท้ายที่ชื่นใจสุดๆสำหรับที่ภัทราแห่งนี้นั้น ถือว่าเป็นร้านอาหารไทยที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย แถมบรรยากาศก็ดูดี เหมาะสำหรับพาครอบครัว หรือเพื่อนๆ มาลิ้มลองความอร่อยแบบไทยๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น แถมอยู่ใจกลางเมืองอีกต่างหากนอกจากที่ไทยแล้วร้านภัทรายังมีสาขาอยู่ที่ต่างประเทศซึ่งถือว่าได้รับความนิยมจากต่างชาติเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่ประเทศอังกฤษซึ่งมีร้านภัทรา หรือ Patara Fine Thai Cuisine เปิดอยู่หลายสาขาทีเดียวครับ เอาเป็นว่าใครอยากทานอาหารไทยบรรยากาศดีๆ ก็แวะไปที่ซอยทองหล่อ 19 ได้เลยนะครับ เข้าซอยไปไม่ไกลร้านจะอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถสะดวกสบาย หรือหากเดินทางโดย BTS ก็ลงสถานีทองหล่อ และสามารถใช้บริการรถรับส่งของทางร้านอาหารได้เลย แต่ต้องโทรไปนัดทางร้านล่วงหน้านะครับ เค้าจะได้ส่งรถมารับที่ BTS ครับ
อ่านต่อ
ร้าน Patara ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 19 ค่ะ เข้ามาจากปากซอยประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นร้าน Patara อยู่ด้านขวามือค่ะ เป็นบ้านสมัย 30- 40 ปีก่อนมีลานจอดรถ ตกแต่งสวยงามตามสไตล์ไทยค่ะ ภายนอกตกแต่งสวยมากค่ะ บรรยากาศร่มรื่น เหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยค่ะที่ร้านมีที่นั่งทั้งชั้นบนและชั้นล่างเลยค่ะบริเวณสวนที่อยู่ข้างๆบ้านร่มรื่นมากเลยค่ะ ให้ความรู้สึกสบายๆผ่อนคลายอาหารพร้อมแล้วค่ะเมนูแรก ปลาหิมะย่างซอสพะแนง เครื่องแกงกลิ่นหอมมากค่ะ เนื้อปลาสดมากค่ะ ทานแล้วได้ความหวานของเนื้อปลาบวกกับเครื่องแกงรสจัดจ้าน ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ สุดยอดไปเลยค่ะแกงเทโพซี่โครงหมูอ่อน เสิรฺ์ฟมาบนภาชนะทองเหลืองทำให้สีของน้ำแกงน่าทานมากขึ้นค่ะ น้ำแกงข้นกะทิ มีรสเผ็ดหน่อยๆของเครื่องแกง หวานๆตามสไตล์แกงกะทิ ผักบุ้งที่นำมาปรุงอาหารสดกรอบมากค่ะ ไม่เละ ซี่โครงชิ้นโต ทานง่าย ไม่เหนียวค่ะลาบทูน่าย่าง จานนี้รสชาติโดดเด่นมากค่ะเนื้อปลาทูน่าที่ผ่านการย่างโดยข้างนอกสุกแต่เนื้อข้างในยังคงความสดอยู่ทำให้เนื้อทูน่ายังคงมีความชุ่มอยู่ค่ะ เนื้อปลาที่ตัดมาชิ้นพอดีคำทำให้ทานง่าย ส่วนรสชาติจานนี้เด็ดมากค่ะ เผ็ดปานกลาง เปรี้ยวนำ พร้อมกลิ่นของข้าวคั่วทำให้จานนี้ทานจนหยุดไม่ได้เลยค่ะข้าวสี่สี เป็นข้าว 4 ชนิดที่เสิร์ฟมาบนถ้วยเดียวกันค่ะ น่ารักมากเลยค่ะ หุงกำลังพอดีไม่แข็ง ไม่แฉะ ข้าวเรียงเม็ดสวยมากค่ะ อาหารไทยต้องทานคู่กับข้าวค่ะ ถึงจะ Perfectราคา เหมาะสมกับวัตุดิบที่ทางร้านใช้ค่ะถ้าเพื่อนๆกำลังหาร้านอาหารไทยที่มีการปรับให้เข้ากับยุคสมัย เชิญได้ที่ Patara เลยค่ะ แล้วเพื่อนๆจะไม่ผิดหวังStay Gorgeous <3
อ่านต่อ
คุณอาจสนใจ