วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-06-19
33 วิว
มื้อนี้ผึ้งน้อยอิ่มแปล้แบบมีเสี่ยเลี้ยงค่ะ ...”เสี่ย”ที่ว่านี่ก็คือคุณป๋าของผึ้งน้อยเองค่ะ อิอิอิเนื่องจากว่านางพญาประจำรัง(คุณหม่ามี๊)ไม่อยู่ เหล่าผึ้งงานอย่างผึ้งน้อยและคุณป๋าจึงออกตระเวนเติมกระเพาะกันอย่างจุใจ จัดหนักกันที่ร้านซูชิที่แอบเล็งมานาน ร้าน ISAO ที่ reviewer หลายๆท่านแนะนำมา แน่นอนค่ะว่าร้านที่มีทีท่าว่าจะเรทติ้งดีแบบนี้ควรจะโทรไปจองซะก่อน แต่ด้วยความที่โทรเอาวันนี้เพราะเพิ่งจะตัดสินใจเลือกร้านได้ ก็เลยพลาดไปเพราะโต๊ะจองเต็มแล้วค่ะสรุปว่าต้องไปลุ้นเอาหน้าร้านว่าที่นั่งสำหรับลูกค้า Walk in จะมีให้พวกเราหรือไม่และแล้ว...วันนี้เฮงค่ะ รอหน้าร้านแค่คิวเดียว ไม่ถึง 5 นาทีผึ้งน้อยก็ได้ที่นั่ง เย้ตัวร้านหาง่ายมากค่ะแต่แอบหาที่จอดรถยากนิดนึง ผึ้งน้อย
เนื่องจากว่านางพญาประจำรัง(คุณหม่ามี๊)ไม่อยู่ เหล่าผึ้งงานอย่างผึ้งน้อยและคุณป๋าจึงออกตระเวนเติมกระเพาะกันอย่างจุใจ จัดหนักกันที่ร้านซูชิที่แอบเล็งมานาน ร้าน ISAO ที่ reviewer หลายๆท่านแนะนำมา
แน่นอนค่ะว่าร้านที่มีทีท่าว่าจะเรทติ้งดีแบบนี้ควรจะโทรไปจองซะก่อน แต่ด้วยความที่โทรเอาวันนี้เพราะเพิ่งจะตัดสินใจเลือกร้านได้ ก็เลยพลาดไปเพราะโต๊ะจองเต็มแล้วค่ะ
สรุปว่าต้องไปลุ้นเอาหน้าร้านว่าที่นั่งสำหรับลูกค้า Walk in จะมีให้พวกเราหรือไม่
และแล้ว...วันนี้เฮงค่ะ รอหน้าร้านแค่คิวเดียว ไม่ถึง 5 นาทีผึ้งน้อยก็ได้ที่นั่ง เย้
ตัวร้านหาง่ายมากค่ะแต่แอบหาที่จอดรถยากนิดนึง ผึ้งน้อยได้ที่จอดแปะหน้าร้านพอดี แต่ก็ต้องมาเลื่อนรถหากรถที่จอดเข้าซองจะออก (มีที่เข้าซองแค่ช่องเดียวค่ะ) อีกทางเลือกคือไปจอดที่ตึก RSU ด้านหน้าปากซอยแล้วเดินเข้ามาค่ะ
การเดินทางแสนง่ายที่ว่าก็เพียงเข้าซอยสุขุมวิท31 มาแค่ประมาณ 50 เมตร มองทางซ้ายมือก็จะเห็นป้ายร้านทรงยาวสีออกฟ้าอมม่วงแบบนี้ค่ะ ถึงแล้วววว
หน้าร้านจะเน้นตกแต่งด้วยไม้ไผ่ รวมถึงผนังภายในร้านก็แต่งด้วยไม่ไผ่เช่นกันแต่จะเสริมความสวยงามด้วยแผ่นภาพลวดลายเรียบง่ายแต่ดูมีระดับ แม้ร้านจะค่อนข้างแคบแต่ก็ไม่แออัด ดูเหมือนจะมีที่นั่งที่ชั้น 2 แต่ผึ้งน้อยไม่ได้ขึ้นไปค่ะ
ร้านนี้ค่อนข้างหวงเรื่องการถ่ายรูปนะคะ ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเมนูค่ะ แต่ถ้าเป็นอาหารก็เชิญถ่ายได้ตามสบายอุปกรณ์พร้อม คนทานพร้อม พนักงานพร้อม คุณเชฟก็พร้อม งั้นก็ลุยกันเลยค่ะ
เครื่องดื่มมื้อนี้เลือกเป็นชาเขียวเย็นค่ะ (50 บาท / เหยือก)
นับว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ เพราะปริมาณในเหยือกนั้นเยอะจริงๆ เทได้ประมาณ 6 แก้วเลยค่ะ ทั้งที่ดูเหยือกเล็กๆเอง แหม..หลอกตาน่าดูสดชื่นกับชาเขียวเย็นไปแล้วก็มาเปิดตัวอาหารกันที่เมนูเบาๆกันก่อนค่ะ
House Salad (140 บาท)
ร้านนี้มีเมนูสลัดที่เน้นผักอยู่เมนูเดียวค่ะ เมนูสลัดนอกจากนี้จะเน้นไปทางเนื้อปลาผักสดกรอบ น้ำสลัดรสชาดดี ให้มาน้อยไปหน่อยเลยต้องเคล้าดีๆเพื่อให้โดนกันถ้วนทั่ว
มา ISAO (อิ-ซา-โอะ) แล้วทั้งที ถ้าไม่ออร์เดอร์เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านก็คงเหมือนไม่ได้มาใช่มั้ยค่ะ
ซูชิจานแรกขอประเดิมด้วย Dragon (420 บาท)
ตามมาด้วยจานที่หลายๆท่านแนะนำว่า “แม้จะแพงก็ต้องลอง” Volcano (250 บาท)
Dragon สัมผัสได้ถึงเนื้อปู กุ้งทอด แตงกวาและไข่กุ้งที่อยู่ในม้วนข้าวและสาหร่าย ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกก็แต่งองค์ทรงเครื่องให้เป็นมังกรน้อยด้วยปลาไหลย่างและอะโวคาโดด้วยปริมาณข้าวที่ไม่มากนักทำให้ได้รสชาดของเครื่องแบบเต็มๆ แค่ทานกับน้ำซอสที่ราดมาก็อร่อยเลิศแล้ว แต่ถ้าชอบความซี๊ดซ๊าดจัดจ้านของวาซาบิก็สามารถจิ้มทานได้เหมือนซูชิอื่นๆได้อย่างไม่ขัดกันค่ะ
Volcano จานนี้เป็นหอยเชลล์ที่เอามาปรุงรสได้อย่างหอมหวานครบรส ถึงอย่างนั้นรสชาดและรดสัมผัสของเนื้อหอยก็ยังไม่ถูกกลบไป ตบท้ายเพื่อเพิ่มความเข้มข้นด้วยการทำเกรียมที่ผิวนอก (คาดว่าน่าจะใช้เบิร์นเนอร์นะคะ)
เมนูนี้ผึ้งน้อยขอยกนิ้วให้และกด Like แรงๆเลยค่ะ
กลับมาที่ซูชิกันอีกรอบ
จานนี้เป็น Recommend จากทางร้านที่ไม่มีลงไว้ในเมนูค่ะ
Larva maki (250 บาท)
เป็นข้าวห่อสาหร่ายที่เน้นความอร่อยของแซลม่อนเป็นหลัก เริ่มจากไส้สไปซี่แซลม่อน แต่งหน้าด้วยแซลม่อนซาชิมิและท๊อปด้วยไข่ปลาแซลม่อนบนมายองเนสที่ผ่านการใช่เบิร์นเนอร์มาเกรียมๆ ให้รสชาดมายองเนสที่หอมมันมากขึ้น (เนื้อปลาตรงช่วงกลางจะสุกเล็กน้อยค่ะ คาดว่ากลิ่นหอมๆคงไม่ได้มาจากการเบิร์นมายองเนสอย่างเดียว แต่น่าจะมาจากน้ำมันปลาแซลม่อนที่ออกมาด้วยค่ะ)มาถึงตรงนี้แล้วคุณป๋าเริ่มลังเลค่ะ เพราะไม่ว่าเมนูไหนๆก็ดูน่าทานไปซะหมด
ท้ายสุดก็มาลงที่เมนูที่มีให้ทานครบทุกอย่างและมีสีสันชวนให้ลิ้มลองอย่าง Rainbow (330 บาท)
และเจ้าหนอนแก้วที่น่ารักน่าทาน Caterpillar (330 บาท)
Rainbow เป็นการรวมเอาเครื่องฮอทฮิตทั้งหลายมาไว้ในจานเดียว ทั้งแซลม่อน มากุโร่ ฮามาจิ กุ้งและอะโวคาโด เป็นจานที่ทานสนุกและมีความหลากหลายอีกจานนึงค่ะ
Caterpillar ไส้ปลาไหลย่างอวบๆ แต่งตัวเป็นหนอนแก้วน่ารักด้วยอะโวคาโดรสนุ่มลิ้น ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว จานนี้จะรสอ่อนกว่า Dragon ค่ะ สำหรับผึ้งน้อยเลยยังชอบน้องมังกรมากกว่าน้องหนอนหน่อยนึง
ตบท้ายด้วยของทอดเพื่อเปลี่ยนรสชาติบ้าง
Mixed Tenpura (300 บาท)
เทมปุระแป้งกรอบฟูสวยงาม อัดแน่นมาด้วยเทมปุระกุ้ง ฟักทอง หัวหอม พริกหยวก และที่ผึ้งน้อยไม่เคยเห็นในเมนูเทมปุระที่ไหนๆคือ เทมปุระชีส ที่ทอดมาทั้งชิ้นใหญ่ๆ กัดแล้วเต็มปากเต็มคำ ทั้งยังยืดๆๆๆๆๆ (โอ้ย ไม่ไหวแล้วค่ะ ทานชีสยืดๆแล้วใจละลาย ชอบมากๆๆๆๆ)สรุปสุดยอดมื้อประทับใจกันหน่อยดีกว่า
บรรยากาศ – เป็นญี่ปุ่นตั้งแต่หน้าร้านมาเลยค่ะ สีโทนขรึมๆตามสไตล์ร้านญี่ปุ่นกับการจัดแต่งร้านด้วยไม้ไผ่ให้ความรู้สึกสงบและไม่เร่งรีบ จึงได้ดื่มด่ำกับกับรสอาหารอย่างเต็มที่
การบริการ – รวดเร็ว ชัดเจน ฉับไวค่ะ อัธยาศัยดีกันทุกคนเลย คุณป๋าของผึ้งน้อยจะเรื่องมากถามนู่นนี้ยังไงก็คอยตอบให้หมด นับถือๆ
รสชาดอาหาร – อร่อยทุกเมนูที่ทานเลยค่ะ Volcano สุดยอดมากๆ นอกจากรสเลิศๆแล้วก็ยังมีความสวยงามให้บริโภคทางตาด้วย จะติก็ตรงที่เมนูสลัดที่เป็นจานผักมีแค่เมนูเดียวนี้ล่ะค่ะ (เอ...ไม่เกี่ยวกับรสชาดนี่นาเนอะ)
ความคุ้มค่า – แต่ละเมนูอาจจะแพงกว่าหรือใกล้เคียงกับร้านอาหารญี่ปุ่นพวกฟูจิหรือเซน แต่ปริมาณและความสมดุลของอาหารมีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เก็บความอร่อยไปนอนฝันต่อกันเลยทีเดียว
โพสต์
