อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2016-11-08
178 วิว
วันนี้จะพาไปกินคาเฟ่น่ารักๆ และอาหารอร่อยอีกร้านกันนะคะ กับร้าน Toby's ณ สุขุมวิท 38 นั่นเองค่ะ โดยการไปครั้งนี้เป็นการร่วมมือกับหน่วยงานส่งเสริมการเกษตรของสถานฑูตสหรัฐอเมริกากับบริษัทนำเข้าผลิตภัณฑ์รายหนึ่งนะคะ ซึ่งมีโครงการด้วยกันหลายร้าน แต่เราถูกชวนไปที่ร้านนี้ค่ะ ให้ดูภาพโดยรวมก่อนแล้วกันนะคะสำหรับพิกัดร้านก็ตามนี้เลยนะคะ ถ้าเข้าทางซอยสุขุมวิท 38 จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ แต่เราไปด้วย google map มันให้เข้าทางซอย 40 แล้วเลี้ยวขวาในซอยเล็กๆ พอชนกับ 38 ร้านอยู่ตรงมุมขวาพอดีเลยค่ะ จอดรถริมทางหน้าร้านเอานะคะเบอร์โทร.ร้าน02 712 1774เฟซบุ๊คร้านhttps://www.facebook.com/tobysk38สำหรับการกำเนิดของร้านนี้นะคะ เกิ
เบอร์โทร.ร้าน
02 712 1774
เฟซบุ๊คร้าน
https://www.facebook.com/tobysk38
สำหรับการกำเนิดของร้านนี้นะคะ เกิดจากชายหนุ่มสามคนและหญิงสาวหนึ่งคนค่ะ โดยคุณนัท หนึ่งในหนุ่มหุ้นส่วนร้านเป็นคนเล่าให้ฟังว่า ที่จริงทั้งสี่คนนี้มีลักษณะนิสัยคล้ายๆ กัน คือ ชอบตระเวนหาของอร่อยๆ กิน (ฟู้ดดี้ส์น่ะนะคะ) ก็เลยคิดว่าจะเปิดร้านด้วยกัน ซึ่งสองในสี่คนนี้เคยไปเรียนที่ออสเตรเลีย โดยคุณเต้ไปเรียนปริญญาโทที่นั่น แล้วก็กลับมาทำงานไฟแนนซ์ที่กรุงเทพฯ พอกลับไปออสฯ ก็เห็นว่าคาเฟ่ที่นั่นกำลังบูม เลยเอาสไตล์ เมนู แบบออริจินัลของที่นั่นมา (คุณเต้มีไปเรียนกอดองเบลอเพิ่มด้วยนะคะ) หาพื้นที่กันจนได้ตรงนี้ ซึ่งเป็นโซนของที่อยู่อาศัย และดูโคซี่กว่าย่านทองหล่อค่ะ
สำหรับหุ้นส่วนของทางร้านนี้ก็จะมีคุณนัท (ที่มาดูแลพวกเราในวันนั้น) คุณเต้ (เชฟหลักคนหนึ่งของร้านเลยค่ะ เสียดายวันนั้นเห็นหน้าแว้บเดียว ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย) คุณฟอร์ด และคุณเคลลี่ ซึ่งเป็นคนออสเตรเลียเชื้อสายเวียดนามนะคะ
โดยคอนเซปต์ของทางร้านก็มีด้วยกันสามอย่างค่ะ คือ ดีไซน์ของร้าน ซึ่งจะเห็นต่อไปในรีวิวนะคะ ว่าออกแนวแบบเหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อนมาก (สารภาพว่าตอนแรกนึกว่าเอาบ้านเก่ามาดัดแปลง แต่เปล่าค่ะ เค้าสร้างใหม่หมด) อาหาร ซึ่งจะต้องได้ทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ สุดท้ายคือ เครื่องดื่มก็ต้องดี กาแฟก็ต้องได้ เรียกว่าอยากได้อะไรจากร้านอาหารที่นี่มีครบค่ะ
ซึ่งร้านนี้แต่เดิมเปิดเป็นลักษณะบรั้นช์นะคะ เป็น All Day Brunch ถึงหกโมงเย็น แต่ต่อมาเปิดช่วงเย็น ก็เพิ่มเมนูต่างๆ มากยิ่งขึ้นค่ะ
ที่นี่เปิด 09.00-22.30 น.นะคะ และปิดวันจันทร์ค่ะ
สำหรับชื่อร้านนี่ก็เป็นการตั้งขึ้นมาเองนะคะ คือ ทางคณะผู้ก่อตั้งร้านอยากได้ชื่อที่แสดงถึงบุคลิกลักษณะของคนที่ไนซ์ เฟรนด์ลี่ เป็นผู้ชายอบอุ่น อยู่ในครัว ชอบทำอาหาร ชอบเดินทาง (คือ รวมบุคลิกของทั้งสี่คนแหละค่ะ) แล้วก็เลยกลายมาเป็นชื่อนี้ค่ะ
Fried Squid with XO Mayo Dip ค่ะ ราคา 250 บาท
วันนั้นเราเลือกกินคู่กับการดื่มไวน์ขาวนะคะ เห็นคุณนัทบอกว่าส่วนใหญ่จะเป็นไวน์จากแคลิฟอร์เนียค่ะ
ต่อไปค่ะ Spaghetti Arrabiata Manila Clams 380 THB+ (10% Service charge)
ซึ่งตัวหอยมานิลาแคลมนี่ก็จะมีรสหวานและเทกซเจอร์ที่ละมุนนะคะ โดยปกติจะมีรสชาติที่โดดเด่นถ้านำไปนึ่งพร้อมกับพวกสมุนไพร กระเทียมและไวน์ขาวค่ะ หรือถ้าเอาไปทอดหรือต้มกับหมูและผักก็เหมาะเช่นเดียวกันค่ะ
Deep Fried Boneless Chicken with Garlic and Jalapeno Mayo 190 THB+
Crispy Polenta, Mushroom, Wild Rocket, Blue Cheese Sauce, Granted Parmesan 280 THB+
ทอดมาได้ดีอีกแล้ว กรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน ครีมมี่เช่นเคย องค์ประกอบอื่นๆ ผสานรสดีมาก เห็ดก็ดี เป็นจานที่มีรสชาติหลากหลาย สนุกกับการให้ลิ้นได้สัมผัสรสชาติโน่นนี่ค่ะ อร่อยค่ะจานนี้เราชอบนะ
ต่อไปค่ะ Crispy Skin Brick Chicken (half) 550 THB+ (Whole 850+)
หมดคาวแล้วก็ได้เวลาของหวานค่ะ ในเมนูมีอยู่แค่สองเองง่าาา (ขัดใจหญิงสาวที่ชอบ (ของ) หวานอย่างเรามาก)
วันนั้นได้ลองเมนูนี้ค่ะ The Fairy Floss 280 THB+
รสชาติอร่อยมากๆ เทกซเจอร์หลากหลาย เนยหอมกรุ่น หวานกำลังดี ไม่หวานจัดเกินไป และมีความเปรี้ยวของผลไม้ช่วยตัดค่ะ (เท่าที่เราสังเกต อาหารของร้านนี้จะมีลักษณะของการ "ผสาน" ค่อนข้างเยอะค่ะ ทั้งวัตถุดิบ รสชาติ และ appearance คือ จะค่อนข้างผสมโน่นนิดนี่หน่อยในอาหารหนึ่งอย่างอะค่ะ) นี่ถ้าไม่คิดถึงแคลอรี่ จะซัดคนเดียวให้หมดเลยค่ะ อร่อยนะคะ ชอบแหละ
ปิดท้ายด้วยผู้ร่วมโต๊ะวันนั้นค่ะ
โพสต์