9
1
0
ระดับ4
ร้านราเม็ง ผู้ครองความนิยมอันดับหนึ่งในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวต่างแดนเป็นครั้งแรกแล้วที่ประเทศไทย พิสูจน์รสชาติความอร่อยส่งตรงจากโอซาก้าได้แล้ววันนี้ที่ชั้น 3 Rain Hill Complex สุขุมวิท 47 แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม Ramen-Kio สามารถอยู่รอดในเมืองโอซาก้าที่ "พิถีพิถันเรื่องการกิน" มายาวนานถึงกว่า 15 ปีวันนี้มาเปิดข้อความตามเฟซบุ๊คของร้าน Ramen-Kio เลยค่ะ ร้านนี้มีสองสาขาคือที่ชั้น 3 ของ Rain Hill Complex สุขุมวิท 47 และที่ชั้น 4 ของสยามสแควร์วันค่ะ ส่วนตัวเรานั้นได้ไปกินที่ Rain Hill Complex ค่ะ  เพราะได้วอยเชอร์มูลค่า 500 บาทมา แต่มีเงื่อนไขให้ใช้ได้แต่ที่สาขานี้เท่านั้นเราเลยลุยมาถึงที่นี่เลยคร่าาาRain Hill Complex ชื่ออ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
ร้านราเม็ง ผู้ครองความนิยมอันดับหนึ่งในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
12 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
เปิดตัวต่างแดนเป็นครั้งแรกแล้วที่ประเทศไทย พิสูจน์รสชาติความอร่อยส่งตรงจากโอซาก้าได้แล้ววันนี้ที่ชั้น 3 Rain Hill Complex สุขุมวิท 47 แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม Ramen-Kio สามารถอยู่รอดในเมืองโอซาก้าที่ "พิถีพิถันเรื่องการกิน" มายาวนานถึงกว่า 15 ปี
15 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
วันนี้มาเปิดข้อความตามเฟซบุ๊คของร้าน Ramen-Kio เลยค่ะ ร้านนี้มีสองสาขาคือที่ชั้น 3 ของ Rain Hill Complex สุขุมวิท 47 และที่ชั้น 4 ของสยามสแควร์วันค่ะ
6 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ส่วนตัวเรานั้นได้ไปกินที่ Rain Hill Complex ค่ะ  เพราะได้วอยเชอร์มูลค่า 500 บาทมา แต่มีเงื่อนไขให้ใช้ได้แต่ที่สาขานี้เท่านั้นเราเลยลุยมาถึงที่นี่เลยคร่าาา
10 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Rain Hill Complex ชื่ออาจจะไม่คุ้นสำหรับใครหลายคนรวมถึงตัวเราเองด้วย แต่การเดินทางนั้นไม่ลำบากเลยค่ะ ใครไปเส้นสุขุมวิทบ่อย น่าจะไปถูกค่ะ เพราะ Rain Hill Complex นั้นอยู่ติดริมถนนสุขุมวิทเลยค่ะ ถึงก่อนสุขุมวิท 47 สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า จะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์และทองหล่อ ลองเลือกกันเอานะคะ จะลงที่สถานี้ไหนดี ส่วนตัวเรานั้น เราใช้บริการรถเมล์ค่ะ เท่าที่จำได้ก็จะมีสาย 2, 25, 40, 48 ค่ะ ลงป้ายอยู่ใกล้ๆ กับ Rain Hill Complex เลยค่ะ เมื่อเดินเข้าไป ให้หาลิฟต์ นะคะ กดขึ้นไปชั้น 3 เลยค่ะ ออกจากลิฟต์ให้เลี้ยวซ้าย ตรงๆ ไปจะเป็นห้องน้ำ ให้เลี้ยวซ้ายอีกทีจะเห็นร้าน Ramen Kio ราเมงเต่าน้อยของเราอยู่สุดทางเลยค่ะ ดูหน้าตาท่าทางของหน้าร้านแล้วคงเป็นร้านเล็กๆ พอเดินเข้าไปในร้าน ก็อืมเล็กจริงๆ แต่พอเข้าไปเกือบสุดทางทำให้รู้ว่าคิดผิดไปถนัดเลยค่ะ ร้านเป็นตัว L ทางที่เราเห็นนั้นเป็นแค่ขีดบนลงล่างเท่านั้น ยังมีขีดจากซ้ายไปขวาอีก ทำให้จริงๆ แล้วร้านนี้สามารถรับลูกค้าได้ค่อนข้างมากเลยล่ะค่ะ
5 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
หากเข้าร้านมา มองไปทางขวามือ จะเป็นโต๊ะตัวไม่ใหญ่ และมีโต๊ะที่ตั้งเป็นแถวริมหน้าต่างให้เราหันมองออกไปด้านนอกได้ แต่ช่วงเวลาที่เราไปนั่นค่ำแล้วทำให้เรามองไม่เห็นอะไรมากอ่ะค่ะ ส่วนซ้ายมือของประตูจะเป็นเคาน์เตอร์เก็บเงินค่ะ ถัดมาก็จะเป็นโต๊ะโซฟาที่นั่งได้ 4 คน ซึ่งเราก็นั่งโต๊ะตรงนี้แหละคะ เป็นโต๊ะตัวในสุด เป็นด้านหน้าของมุมที่ทำอาหารเลยล่ะค่ะ ส่วนด้านในยังมีโต๊ะอีกเป็นสิบที่จะรองรับลูกค้า
21 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
หากมากินราเมงแบบต้องการความสงบ บอกเลยว่าร้านนี้มีให้ไม่ได้ค่ะ ร้านค่อนข้างเจี้ยวจ้าว เนื่องจากพนักงานจะส่งเสียงต้อนรับลูกค้าเมื่อลูกค้าเข้ามาใหม่และส่งเสียงขอบคุณเมื่อลูกค้ากินเสร็จ เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่เราเจอนะคะ และยังมีเสียงที่สั่งอาหารระหว่างพนักงานกับเชฟอีกด้วยค่ะ แต่เรื่องเสียงไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเราค่ะ จะดังก็ไม่ได้อะไร นั่งเล่นชิลๆ คุยกะแม่ไป ดูพนักงานทำงานกันไป
8 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ ลูกค้าค่อนข้างเยอะด้วย เมื่อได้ที่นั่งพนักงานจะนำเมนูมาให้ แล้วเดินจากไป ให้เราเลือกได้ตามใจชอบ สักพักก็จะมีเสิร์ฟน้ำชาพร้อมทั้งผ้าเช็ดมือห่อสีแดงค่ะ ฟรีด้วยนะคะ อิอิ น้ำชานี้เสิร์ฟมาไม่อั้นเลยค่ะ หมดปุ๊บเติมปั๊บ กินไปได้เรื่อยๆ เบยยยยยย
9 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
เราก็เลือกจนได้เมนูที่อยากกินก็เรียกพนักงานมาค่ะ ที่นี่มีเมนูมากมายเลยค่ะ เมนูเด็ดของที่นี่คือ กระดูกอ่อนตุ๋นส่วนที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนซึ่งมีเพียงไม่กี่ชิ้นในหมู 1 ตัว เห็นใครหลายคนแนะนำมา เราก็ต้องลองซะหน่อย จัดไปกับ Kuruniku Ippinmen ราเม็งหน้ากระดูกอ่อนตุ๋นส่วนที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน (300 บาท) เมนูนี้เราลองเองค่ะ ส่วนของแม่ขอเมนูแบบไทยๆ ซะหน่อย เป็นต้มยำราเมง (240 บาท) รอสักพักใหญ่ จึงมาเสิร์ฟในเมนูของเรา เราก็รออยากจะถ่ายรูปรวม แต่ก็รอน้านนนนนนานกว่าต้มยำราเมงจะมา กลัวราเมงเราจะไม่ร้อนซะก่อน แต่พนักงานก็ดีนะคะ พอเห็นเรารอ แล้วแอบบ่นเบาๆ เขาก็ตามให้เราด้วย แป๊ปเดียวก็ได้มาล่ะ น่ากินช่ะม่ะ อิอิ
9 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Kuruniku Ippinmen ราเม็งหน้ากระดูกอ่อนตุ๋นส่วนที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยคุ้นชินกับราเมงรสชาติแท้ๆ แบบญี่ปุ่น เาจะติดอะไรแบบไทยๆ มากกว่า ดังนั้นเมนูนี้ จึงไม่เด็ดมากสำหรับเรา แต่รสชาตินี่คือกลมกล่อมและเข้มข้นมาก รสออกเค็มจัด บนโต๊ะนี่มีเครื่องปรุงึ่ะ เราก็จัดซะ ทั้งน้ำส้มสายชูและน้ำมันงา  แต่ก็ไม่ได้ปรุงเยอะมาก กลัวเสียรสชาติดั้งเดิมเอา เส้นเป็นเส้นราเมงแบบเส้นใหญ่หน่อยคล้ายยากิโซบะ (เราไม่รู่ว่าเขาเรียกว่าเส้นอะไรอ่าาา >< ) ส่วนกระดูกหมูอ่อนนี้ กินก็อร่อยดี นุ่มๆ นิ่มๆ แต่เรามีความรู้สึกว่า เรากินหมดทั้งชิ้นนี้แล้วเลี่ยนไปหน่อยค่ะ เมนูนี้เราให้ 8.5/10 เลยค่ะ
4 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ส่วนต้มยำราเมง จานนี้มาแบบต้มยำน้ำข้น แค่เห็นก็รู้สึกว่าเข้มข้นมากๆ เมื่อได้ชิมก็ไม่ผิดไปจากที่คิดเลยค่ะ เข้มข้น จัดจ้น ได้ใจ สไตล์คนไทยมากๆ จานนี้ถ้ามีข้าวสวยร้อนๆ นะคะ ดีเลยค่ะ เพราะรสชาติเขาทำมาได้ครบรสเค็มนำ เผ็ดตาม เปรี้ยวรอง กินกับข้าวสวยอร่อยเลย ยิ่งมาตอนร้อนๆ ควันยังลอยอยู่ด้วยนะคะ ฟินเฟ่อร์ อันนั้นแค่ความคิด กลับมาสู่ความจริง ต้มยำราเมงเป็นต้มยำกุ้งค่ะ กุ้งตัวไม่ใหญ่มาก แต่สดดี มีเห็ดฟางประกอบมาไม่มาก แต่ที่มาเต็มจริงๆ คือเครื่องต้มยำค่ะ เครื่องมาเต็ม รสชาติก็มาเต็มเช่นกัน คือกินแล้วเราไม่รู้สึกว่ากินอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นเลยค่ะ  เมนูนี้ให้ 9.5/10 หายไปครี่งคะแนนเพราะรสชาติออกเค็มไปหน่อย 555

สำหรับเรา เราชอบร้านนี้นะคะ ถึงรสชาติอาจตะไม่ได้ถูกปากเราทีเดียว แต่เราว่าอาหารเขาบอกได้เต็มปากเลยค่ะว่าอร่อย! บรรยากาศก็ดี เดินทางก็ง่ายด้วยค่ะ หากใครอ่านแล้วสนใจอยากไปลองชิมบ้าง สามารถลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/Ramen.kio/
7 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
และทุกวันที่ 28 ของเดือน เป็นวัน Kio's Day ทางร้านมีโปรโมชันลด 50% ด้วยนะคะ
13 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2016-11-20
เวลารอ
20 นาที (รับประทานที่ร้าน)
ราคาต่อคน
฿300 (มื้อดึก)