4
1
0
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - ศุกร์
11:30 - 00:00
เสาร์ - อาทิตย์
11:00 - 00:00
วิธีจ่ายเงิน
เงินสด
จำนวนที่นั่ง
200
ข้อมูลอื่นๆ
Wi-Fi
ที่จอดรถ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ร้านอาหารปิดดึก
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
Abura Soba Chachudon Shio Ramen Tomuyamu Ramen Tonkotsu Ramen
รีวิว (5)
ว่าจะมาหาอะไรกินแถว Esplanade แต่คุณแฟนบอกว่ามีร้านราเมนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (มั้ง) อยู่แถว ๆ นี้ เรายังไม่เคยลองมากินกันเลย ก็เลยลองไปดูดีกว่า ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Esplanade ตรงซอยรัชดาภิเษก 8 ค่ะ เดินเข้ามาแป๊บเดียวก็เจอ ร้านใหญ่จริงจังค่ะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นร้านราเมนอย่างเดียว คงนึกว่าเป็นอย่างอื่น 555 เมนูหน้าร้านค่ะ บรรยากาศภายใน กว้างขวาง นั่งสบายทีเดียวค่ะ มาถึงแล้วก็เริ่มสั่งกันเลยดีกว่า เมนูนี้สั่งตามคำแนะนำของน้องพนักงาน กับ Tonkotsu Ramen น้ำซุปหน้าตาคล้าย ๆ โจ๊กคนอร์เลยแฮะ แต่ก็อร่อยดีค่ะ หอมน้ำต้มกระดูกหมู สลัดผักค่ะ ผักสดดี น้ำสลัดมายองเนสธรรมดาค่ะ ชามนี้ของคุณแฟนค่ะ Shio Ramen เราไม่ได้ทาน แต่คุณแฟนก็บอกว่าอร่อยดีค่ะ ไก่คาราเกะค่ะ มาเป็นชุดกับราเมน ทอดมากรอบดี ไม่อมน้ำมันค่ะ เครื่องดื่มในชุดอีกเช่นกัน สามารถเลือกเครื่องดิ่มไม่แอลกอฮอลได้ 1 แก้ว ซึ่งเราเลือกมาเป็นน้ำแอปเปิ้ลค่ะ เกี๊ยวซ่าทอดแบบมากับชุดค่ะ มี 4 ชิ้น ช่วงนี้มีโปรโมชั่น กด like FB ของทางร้าน แถมฟรีไอศกรีม 1 ลูก เลือกรสได้ค่ะ มากดที่ร้านก็ได้ค่ะ น้องพนักงานจะเอา barcode มาให้ใช้โทรศัพท์ scan ได้เลย บรรยากาศและการบริการ -- ร้านกว้างขวางมาก ๆ คาดว่าถ้ามีคนนั่งเต็มนี่น่าจะเยอะน่าดู พนักงานยิ้มแย้ม บริการดี แนะนำอาหารดีค่ะ คุณภาพของอาหารเมื่อเทียบกับราคา -- ราเมนอร่อย มีเมนูหลากหลายให้เลือก ราคานับว่าไม่แพงมากค่ะ พอ ๆ กับร้านราเมนที่ขายตามห้างทั่วไป ใครอยู่แถวนี้ ลองแวะมาทานดูนะคะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
รู้สึกอยากกิน ราเมงอร่อยๆก็เลยค้นหาสักหน่อยค้นหาไปเจอ ร้านนี้โอซาก้าทงโค๊ะสึมิซาวะราเมง ก็เลยเดินทางไปกิน การเดินทางก็ไม่ยากเลย นั่งรถไฟใต้ดิน มาที่ สถานีศูนย์วัฒนธรรม ออกทางออกที่ 2 เดินขึ้นมาเลี้ยวขวา เดินไปแปปนึง ก็จะเจอ ป้ายซอยเขียนว่า รัชดาภิเษก ซอย 8 จากปากซอยเดินเข้ามา ประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอร้านใหญ่โตอยู่ทางซ้ายมือครับระหว่างทางเจอพนักงานร้านยืนแจกใบปลิวอยู่ก็เลยหยิบมาเลยครับโชคดีมากๆ เข้ามาในร้านก็มี พนักงานในร้านต้อนรับ จะโกนบอกว่าแขกเข้ามาแล้วตาม มารยาทที่ประเทศญี่ปุ่นเขาทำกันครับ เมนูที่ทานไปก็คือ ราเมงซุปเกลือหรือ ชิโอะราเมง รสชาติโอเค กลมกล่อมอร่อยไม่เหมือนร้านราเมงที่อื่นครับหมูชาชูก็นุ่มละลายในปากเลย โดยรวมอร่อยครับ หลังจากอิ่มของหนักแล้วก็มาต่อที่ฟรีสลัด ถ้านำใบปลิวที่แจกมาสามารถนำไปยื่นขอสลัดฟรีได้ครับ และเมื่อโพสรูปอาหาร หรือ ร้านลง facbook หรือ instagram ก็จะได้รับไอศกรีมฟรี อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
RAMEN MISAWA ร้านราเมงชื่อดังจากโอซาก้ามาเปิดที่กรุงเทพฯ แล้วค่ะร้านนี้แหละที่ญี่ปุ่นเค้าต้องต่อคิวยาวเพื่อทานกันเลยทีเดียวแต่สาขาที่กรุงเทพฯ นั้นไม่ต้องรอคิวค่ะ เพราะร้านนี้เค้าเป็นร้านราเม็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยปกติร้านราเม็งในไทยส่วนใหญ่จะเป็นร้านขนาดกระทัดรัด แต่ร้านนี้เค้ากว้างขวางจริงๆ ค่ะร้านอยู่รัชดาภิเษกซอย 8 ใกล้สถานี MRT รัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามห้างเอสพละนาดค่ะเดินเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตรก็จะเป็นร้านใหญ่โตโดดเด่นอยู่ทางซ้าย หากขับรถมาก็จอดหน้าร้านได้เลยค่ะ จอดได้หลายคันอยู่เดินเข้าร้านไปพนักงานรีบออกมาต้อนรับเลยค่ะ มองเข้าไปในร้านแล้วก็ตกใจนิดหน่อยเพราะร้านเค้ากว้างจริงๆ ค่ะ ที่นั่งก็เยอะมาก อยากนั่งโซนไหนเลือกเองได้เลยเราเลือกนั่งกลางร้านเลยค่ะ จะได้เห็นทุกมุมทั่วๆ พนักงานที่นี่น่ารักมากค่ะ แนะนำทุกอย่างเลย หลังสั่งอาหารเสร็จ พนักงานร้านเห็นเรานั่งถ่ายรูปอยู่ เลยเดินมาบอกว่าให้เดินขึ้นไปดูที่ชั้นบนค่ะ มีมุมสวยๆ หลายมุม และมีห้องรับรองสำหรับกลุ่มที่มาเป็นหมู่คณะด้วยค่ะสามารถเข้าไปดูได้เลย เราเดินชมร้านระหว่างรออาหารซะเพลินเลยค่ะมองจากชั้นบนลงไปที่โต๊ะก็เห็นราเม็งที่สั่งมาเสิร์ฟแล้วค่ะ ชามแรก Tonkotsu Ramen ไซส์เล็ก (135 บาท) ตอนนี้มีโปรโมชั่นแถมไก่ทอดคาราอาเกะฟรีด้วยค่ะTonkotsu Ramen เป็นราเม็งในน้ำซุปกระดูกหมูรสเข้มข้น น้ำซุปสีขาว หอมมันค่ะเส้นก็ลื่นนุ่มดีค่ะ ส่วนไก่ทอดคาราอาเกะที่แถมมาอมน้ำมันไปนิดค่ะ แต่ก็กรอบอร่อยดีอีกชามเป็น Shio Ramen ไซส์เล็ก (99 บาท) แถมไก่ทอดคาราอาเกะเช่นกันค่ะ Shio Ramen เป็นราเมนในน้ำซุปใสรสอ่อน เค็มนิดๆ และหอมกลิ่นคล้ายกระเทียมเจียวมากค่ะเส้นลื่นนุ่ม เป็นเส้นแบบเดียวกันกับ Tonkotsu Ramen ค่ะของกินเล่นอีกอย่างที่ลองสั่งมาคือ Ebi Harumki หรือปอเปี๊ยะกุ้งค่ะ (90 บาท) เสริฟมาแบบร้อนจี๋ เวลากินระวังด้วยค่ะ ปากแทบพอง ส่วนรสชาติก็จืดไปนิดค่ะ แต่กรุบกรอบดีราคารวมของอาหารทั้งหมดที่ว่ามา 362 บาทค่ะ ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ นอกจากรสชาติอาหารและสถานที่สวยๆ ของทางร้านแล้วสิ่งที่น่าประทับใจของร้านนี้คงจะเป็นมารยาทและการบริการของพนักงานค่ะน่ารักและบริการดีสุดๆ อยากให้ทุกคนมาลองทานที่ร้านนี้กันดูนะคะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
วันนี้แวะมาทำธุระแถวเอสพลานาด รัชดา เลยได้รับใบปลิวร้านอาหารเปิดใหม่มาจากหน้า MRT เค้าบอกว่าเป็นร้านราเมงญี่ปุ่นเปิดใหม่ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ อดใจไม่ไหว ต้องแวะไปลองซักหน่อยแล้วล่ะ เดินทางมาง่ายๆเลย โดยขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน มาลงที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม จากนั้นออกทางออกที่ 2 เข้าซอย 8 มานิดเดียวก็จะเห็นร้านเลยเห็นร้านตอนแรก บอกตรงๆเลยว่าแอบตกใจ ร้านใหญ่มากกกกก นึกว่าโรงเรียนซะอีก สีสันจัดจ้านสุดๆไม่ยักกะเหมือนร้านราเมง ในประวัติร้านเขียนไว้ว่า มิซาว่ะราเมง เป็นร้านราเมงสาขาย่อยจากเมืองโอซาก้า ซึ่งถูกจัดอันดับให้เป็นร้านราเมงที่มีความพิถีพิถันและอร่อยที่สุดในเขตชินไซบาชิซึ่งเป็นเขตที่ร้านราเมงมีการแข่งขันกันสูงมากเปิดประตูเข้าไป พนักงานตะโกนทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นเสียงดังลั่นเลย ถามว่าตกใจไหม ..ขอบตอบเลยว่า .. มาก ..มิซาว่ะเป็นร้านราเมงที่อร่อยที่สุดในโอซาก้า เปิดมาตั้งแต่เดือนตุลาคม เราไปถึงร้านตอนประมาณ 4 โมงเย็น พนักงานบอกว่าเพิ่งเลยช่วงพีคที่ลูกค้าเยอะๆไป ดีจัง คนไม่เยอะ เป็นส่วนตัวสุดๆ ส่วนเมนูยอดฮิตประจำร้านคือ ราเมงซุปเกลือ ราเมงซุปโชยุ บะหมี่เย็น ไก่ทอดคาราอาเกะ และเกี๊ยวซ่าจ้าราเมงซุปโชยุราเมงซุปเกลือบะหมีเย็นเกี๊ยวซ่าร้านนี้ฟินสุดๆไก่ทอดคาราอาเกะหมูทอดทงคัตสึ กรอบนอกนุ่มในส่วนตัวประทับใจนะ พนักงานเอาใจใส่ดี อาหารอร่อย ราคาพอเหมาะพอควร ติดอยู่อย่างเดียว ร้านเพิ่งเปิด ไม่ค่อยเห็นโฆษณา ถ้าไม่ได้ใบปลิวมา ก็คงไม่รู้จักร้าน ยังไงก็อยากให้ไปลองชิมกันดูนะคะ เดินทางไปไม่ยากเลย ร้านเปิดตั้งแต่ 11 เช้า จนถึง ตี 2 ทุกวัน แวะไปลองทานกันดูนะ เราก็จะแวะไปอีกแน่นอน อร่อยแบบนี้ไม่ต้องไปกินไกลถึงญี่ปุ่น อิอิ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ร้านราเม็ง มิซาว่า เพิ่งเปิดใหม่ไปชิมกันการเดินทางสถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมทางออก 2 รัชดาซอย 8 ตรงข้ามเอสพลานาด มองเห็นร้านจากต้นซอย อยู่ซ้ายมือหน้าร้านเข้าไปในร้านจะมีพนักงานพาไปนั่งที่โต๊ะ ต้อนรับดีมากกก พอมีลูกค้ามาทุกคนจะต้องทักทายพร้อมกันเสียงดังสนั่นร้าน ไปถึงประมาณเที่ยงครึ่งในร้านมีแค่โต๊ะเดียว คงเป็นเพราะร้านยังใหม่อยู่มาก มาดูเมนูกัน เมนูส่วนใหญ่เป็นราเม็ง มีถ้วยเล็ก (60 กรัม) เริ่ม 99 บาท และถ้วยกลาง (120 กรัม) เริ่ม 139 บาท เช่น ราเม็งโชยุ น้ำซุปเกลือ น้ำซุปกระดูกหมู ต้มยำราเม็ง บะหมี่เย็น โซบะคลุกน้ำมัน และแพงสุดก็พรีเมี่ยม 195 บาท หรือจะสั่งเป็นชุดก็ได้ เช่น ราเม็ง+เกี๊ยวซ่า ราเม็ง+คาราอาเกะ ราเม็ง+ข้าว และราเม็ง+ข้าวแกงกะหรี่ ถ้าแบบชุดจะรวมน้ำอยู่แล้ว จากนั้นจะเพิ่มท็อปปิ้งก็ได้ เช่น ไข่ต้ม สาหร่าย ข้าวโพด หมู เป็นต้น ราคา 10-30 บาท ถ่ายรูปรอราเม็งราเม็งมาแล้ว กินสาหร่ายไปแล้วหนึ่งแผ่น เกือบลืมถ่ายรูป ราเม็งโชยุ ใช้ซอสที่ได้มาจากการหมัก 2 ครั้งเป็นการผสมผสานอย่างมีเอกลักษณ์ระหว่าง Koikuchi shou หรือโชยุแบบเข้มข้นของจังหวัดมิเอะ และ Gokou shoyu โชยุของเมืองเกียวโต เป็นโชยุที่ใช้เวลาหมักกว่า 2 ปี ทั่วญี่ปุ่นผลิตได้เพียง 0.9% เท่านั้น (มาจากโบรชัวร์ของร้าน)ราเม็งรสชาติดี ไม่เค็มเกินไป เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี หมูหนานุ่มหลายชิ้น ไม่ใช่หั่นบางๆ แทบไม่ได้รสชาติหมู ชอบที่ใส่ต้นหอมเยอะ หน่อไม้ดองไม่มาก ถ้าคนที่ไม่ชอบกินก็น่าจะโอเคอยู่ ไข่ต้มที่สั่งเพิ่มมาเป็นแบบยางมะตูมอร่อยดี ปรุงรสมากำลังดี ไม่เค็มไป โรยต้นหอมมาด้วย ชามนี้อิ่มกำลังดี แต่ถ้าคนกินจุคงต้องสั่งชามใหญ่ ร้านแถมเกี๊ยวซ่ามาให้หนึ่งจาน ข้างนอกไม่กรอบมาก ไส้เยอะเต็มคำได้รสชาติหมู ไม่เค็มเกินไป ชาเขียวไม่หวานตามปกติของร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ก็มีรสชาตินะ ไม่ใช่แบบจืดสนิท สรุปร้านใหญ่ บรรยากาศการตกแต่งเรียบๆ ดูหรูนิดนึง มีมุมส่วนตัว แอร์เย็นน้อยไปหน่อย แต่ไม่ถึงกับหายใจไม่ออกการบริการ พนักงานต้อนรับและแนะนำเมนูดี รสชาติ อร่อยไม่เค็มเกินไป หลังกินแล้วไม่รู้สึกหิวน้ำมากราคา ไม่แรงมาก ตามเมนูบวก Vat ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)