5
0
0
เบอร์โทร.
02-279-9086
เหมาะสำหรับ
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:30 - 23:00
จันทร์
ปิด
อังคาร - อาทิตย์
11:30 - 23:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
Guru Gyuu สาขาสะพานควายที่ตั้ง: ติดกับธนาคารออมสิน สะพานควาย ถ้ามาจากจตุจักร จะเลยแยกมานิดนึงค่ะ ให้สังเกตธนาคารและจะหาง่ายมาก หรือถ้ามาจากอนุสาวรีย์ ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเวลาเปิดให้บริการ: 11:30 - 23:00 น.ราคาต่อท่านมีให้เลือกหลายระดับ: 444, 555 หรือ 1,555 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ค่าเครื่องดื่มรีฟิล 55 บาท/ท่านครั้งนี้เอ๋ยเลือกทานแบบ 555 บาท มีตัวเลือกเพิ่มมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถเลือกสั่งรายการที่ราคาต่ำกว่าได้ทั้งหมดรสชาติ: ต้องบอกก่อนเลยว่า อาหารสดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือผัก ผลไม้ น้ำจิ้มเค้ามีให้เลือกประมาณ 4 อย่าง สั่งได้ตลอดค่ะรายการที่สั่ง- แซลมอนสเต๊ก สั่งทีละ 2 เลยได้มาแบบเต็มชิ้นค่ะ คือสดมาก รสชาติดี๊ดี ย่างพอไม่สุกมาก โอเคเลย- หมูลูกเต๋า เสริฟมาหน้าตาน่ารัก รสชาติหมักอร่อย แต่ต้องน่างนานนิดนึงค่ะ ไม่งั้นจะเหนียว- คอหมูย่าง เมนูนี้นี่ฟินมาก แทบไม่ต้องเคี้ยว บางๆ นุ่ม อร๊อยยยย- หนวดปลาหมึก ย่างกรอบๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด เป๊ะมาก- ปลาหมึกไข่ เรียกได้ว่าไข่ทะลักกันเลยทีเดียว- กุ้งแม่น้ำ ตัวใหญ่พอดีๆ แต่เราขี้เกียจแกะเลยเน้นทานกุ้งขาวแทนค่ะ. ขนาดเล็กกว่าแต่ทานง่ายดี- หอยเชลล์ ดี๊ดี ไม่มีกลิ่น สุดยอด- เบคอน เมนูนี้ขาดไม่ได้เลยจริงๆ แต่ขอบอกว่าเสริฟมาค่อนข้างน่ากลัว คือมันเรียงรายมาก แต่ยอมค่ะ- ยำสาหร่าย รายการนี้ก็จัดหนัก กรุบกรอบ เผ็ดนิดๆ แก้เลี่ยนได้เล้ย- ข้าวผัดกระเทียม ต่อนข้างจืด- เห็ดออรินจิ ย่างแล้วหอม นุ่ม อร่อย- ผักย่าง ประกอบด้วย ฟักทอง แครอท หอมใหญ่ ฟักทองเวิคสุดค่ะ- สลัด เป็นผักสดรวมๆ คลุกเคล้ากับน้ำสลัดงา ไม่ค่อยโดดเด่น แต่รสชาติโอเคเลยค่ะ- ของหวาน- พุดดิ้งผลไม้ เย็นๆ- ผลไม้สด เป็นสับปะรด แตงโม และฝรั่ง- เครื่องดื่มรีฟีล เป็นชาลิปตัน น้ำอัดลม ชาเขียวและน้ำเปล่าค่ะปล.เอ๋ยไม่ทานเนื้อวัว เลยไม่ได้ลองค่ะการบริการ: คือเป็นคนต่างชาติ แต่ถูกฝึกมาอย่างดี บริการรวดเร็ว ยิ้มแย้ม คอยเสริฟตลอด รับออเดอร์ไม่ขาด แถมยังเช็ดกระทะให้อย่างต่อเนื่องค่ะบรรยากาศร้าน: ค่อนข้างเล็ก เปิดให้บริการ 2 ชั้น ที่นี่ดีตรงที่เวลาทานเสร็จแล้วควันไม่ติดตัวออกมาเหมือนร้านปิ้งย่างอื่น ๆ เพราะเค้าต่อท่อดูดควันใต้ล่าง ค่ะ เจ๋งสุด ๆ
อ่านต่อ
Guru Gyuu เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นสำหรับเรา เพราะร้านอยู่นอกเขตทำการพอสมควร คือตั้งอยู่แถวสะพานควาย ใกล้กับธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ โดยปกติจะไม่เคยผ่านไปแถวนั้นเลยค่ะ แต่หลังจากได้มาลองทานครั้งแรกนี้แล้ว คงต้องได้แวะเวียนกลับไปทานอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เพราะของเค้ามีดีคู่ควรแก่การให้ไปซ้ำจริงๆ ครั้งนี้ถือว่าโชคดี 2 ชั้นเลยค่ะ โชคชั้นแรกคือได้ Voucher จากการร่วมเล่นเกมส์กับ Opensnap 1 ใบ (สำหรับบุฟเฟต์ 555 บาท 1 ที่) ตอนได้มาก็ยังคิดว่าร้านนี้จะอร่อยมั๊ย จะคุ้มกับการต้องขับรถจากสุขุมวิทไปรึเปล่าน๊อ แต่ด้วยความชอบบุฟเฟต์ปิ้งย่างก็เลยตัดสินใจไปลองค่ะ ส่วนโชคชั้นที่สองก็คือการได้พบรักกับร้านปิ้งย่างดีๆ อย่าง Guru Gyuu นั่นเอง ( น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของคราย.... )ขับรถจากสุขุมวิทขึ้นทางด่วนไป รถไม่ติด ใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็ถึง ร้านหาไม่ยากอยู่ริมถนนเลย ใกล้ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถึงร้านตั้งแต่ 11.10 ค่ะ มีโทรจองโต๊ะไว้ตอน 11.30 ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านเปิด ข้างร้านจะจอดได้ประมาณ 5 คัน พอเราเลี้ยวเข้าไปจอดปุ๊ป ก็มีพนักงานออกมาแจ้งว่าร้านเปิด 11.30 น. แต่สามารถเข้าไปนั่งรอในร้านก่อนได้ เข้าไปนั่งซักพักพนักงานก็เอาเมนูมาให้ดูทุกแบบทุกราคาเลยค่ะ และให้สั่งน้ำมาจิบให้ชื่นใจระหว่างที่รอร้านตกแต่งเรียบง่าย บางส่วนเป็นปูนเปลือย กรุด้วยกระจกใสรอบด้าน มองออกไปเห็นวิวถนนใหญ่ นั่งดูรถราวิ่งไปมาเพลินๆ ร้านไม่ใหญ่แต่ก็ไม่อึดอัดค่ะ มีทีวีให้ดูบอล และมีชั้น 2 ด้วย...นั่งดูเมนูไปพลางๆ ที่นี่ราคาบุฟเฟต์จะเริ่มตั้งแต่ 299 บาท (มีเฉพาะมื้อกลางวัน พุธ-ศุกร์)/ 444 บาท/ 555 บาท/ และ 1555 บาท ใครชอบกินอะไร มีงบในกระเป๋าเท่าไหร่ก็สามารถเลือกทานในราคาที่ถูกใจได้เลย เมนู 444 บาท (ไม่รวมน้ำ น้ำรีฟิล +คนละ 55 บาท) มีรายการอาหารให้เลือกสั่งเยอะอยู่ค่ะ ถ้าไม่ทานเนื้อและไม่เน้น seafood เท่าไหร่ เราว่าราคานี้ก็น่าสนใจไม่น้อยส่วนราคา 555 บาท สิ่งที่เพิ่มมาจะเป็นเนื้อวัวที่หลากหลายกว่า ลิ้นหมู หมูลูกเต๋า อกเป็ด กุ้งแม่น้ำ กุ้งขาว แซลมอน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ หนวดปลาหมึก ยำสาหร่ายและหน่อไม้ฝรั่ง สรุปว่าจ่ายเพิ่มอีก 111 บาท แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่าเราเลือกทานราคา 555 บาท เพราะมี voucher 1 ใบ (รวมน้ำรีฟิล = คนละ 610 บาท ) เราไปกัน 2 คน สรุปว่าจ่ายเพิ่มไป 665 บาทนั่งดูเมนูอยู่พักนึงก็ได้เวลาร้านเปิดค่ะ พนักงานให้สั่งอาหาร และถามว่าจะรับน้ำจิ้มอะไรบ้าง ที่นี่มีน้ำจิ้ม 4 แบบคือน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน (เค็มๆ หวานนิดๆ) น้ำจิ้มซีฟู๊ด น้ำจิ้มมิโสะ และพริกโคชูจัง เราขอมาทุกแบบ น้ำจิ้มซีฟู๊ดพอใช้ได้ น้ำจิ้มสูตรของร้านรสอ่อนไปนิดนึงต้องเติมโคชูจัง และใส่พริกกระเทียมเยอะๆ น้ำจิ้มมิโสะหวานไปหน่อย ส่วนโคชูจังก็มาตรฐานค่ะแป๊ปเดียวของที่สั่งไปก็ทยอยมา ทุกอย่างจัดใส่จานกระเบื้องสี่เหลี่ยมใบย่อมๆ จัดเรียงมาแบบพิถีพิถัน ไม่กินเนื้อที่บนโต๊ะ หน้าตาดูดีทุกจาน และที่ชอบมากๆ คือเตาของที่นี่เป็นเตาที่เวิร์คมากๆ คือเป็นเตาถ่าน แต่ครอบด้วยถาดย่างที่เคลือบเทฟลอน มีรูระบายน้ำมันและอากาศรอบๆ ทำให้ได้ทั้งกลิ่นหอมของเตาถ่าน แต่อาหารไม่ดำเกรียมเหมือนกับการย่างบนตะแกรงที่เป็นซี่ๆ ทั้งอัน (ซึ่งจะทำให้อาหารไหม้และตะแกรงก็ไหม้เกรียม ทานแล้วไม่ดีต่อสูขภาพ)สั่งไปเยอะมาก และรูปก็เยอะมากจนลงได้ไม่ไม่หมด จานนี้เป็นลิ้นหมู สดไม่มีกลิ่นคาว แนะนำไม่ควรย่างนานเพราะเนื้อจะกระด้างค่ะอกเป็ดกูรู ชิ้นใหญ่กำลังดี ย่างแล้วหอมฟินมากๆ เนื้อไม่เหนียว เสียดายที่ไม่ได้สั่งซ้ำ เพราะของอร่อยๆ เค้าเยอะ เลยลืมซ้ำอกเป็ดไปเลย กองทัพกุ้ง แซลมอน หนวดปลาหมึก หมึกกระดอง หมึกไข่ หอยเชลล์ ค่ะ เราไม่ทานเนื้อวัว แต่แค่ซีฟู๊ดที่นี่ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว ^^ มีติแค่ปลาหมึกไข่มีรสเค็มมาก นอกนั้นผ่านหมด เหล่าเบญจเทพ "หอยเชลล์ แซลมอน หมึกกระดอง หนวดปลาหมึก กุ้ง" ทุกอย่างสด น่าประทับใจมากๆ หอยเชลล์ตัวโตเนื้อหนา ทานแล้วได้รสและกลิ่นแห่งท้องทะเลมาเต็มมากๆ แซลมอนเป็นส่วนเสต๊ก ชิ้นหนา ย่างแล้วไม่เละ หมึกกระดองและหนวดปลาหมึกสดกรุบกรอบถูกใจ กุ้งขาวก็สดดี แกะเปลือกผ่าหลังมาเรียบร้อย ไซส์ใหญ่โอเคมากๆ สำหรับราคานี้เหล่ากุ้งแม่น้ำ ถูกส่งลงไปผิงไฟตอนท้ายๆ ค่ะ เพราะอยากให้มือเลอะทีเดียว ทานอิ่มแล้วจะได้เดินไปล้างรอบเดียววันนี้กุ้งสดใช้ได้เลย เนื้อกรอบไม่ยุ่ย ไม่เละ ย่างร้อนๆ กินมันกุ้งก่อนแล้วกินเนื้อหวานๆ เพิ่มความประทับใจให้กับมื้อนี้มากขึ้นไปอีกหลายคะแนนตลอดเวลาที่ทานมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ พอเที่ยงกว่าๆ โต๊ะก็เกือบเต็มค่ะ ส่วนมากจะเป็นพนักงานธนาคารออมสิน และคนทำงานละแวกนั้น แต่ถึงแม้คนจะเริ่มเยอะ พนักงานทุกคนก็ยังบริการดีค่ะ ที่นี่มีพนักงานเยอะพอสมควร ส่วนมากเป็นต่างชาติ (ประเทศเพื่อนบ้าน ^^) สื่อสารภาษาไทยพอรู้เรื่อง และทุกคนสุภาพ มีใจบริการค่ะ ขอชื่นชมเจ้าของร้านด้วยค่ะที่เทรนพนักงานได้เป็นอย่างดีอิ่มแล้วก็ทานของหวานและผลไม้ปิดท้าย ของหวานในบุฟเฟต์เป็น มินิพุดดิ้งผสมวุ้นมะพร้าว (แบบที่มีขายเป็นห่อ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ) ที่นึงมี 3 ถ้วยเล็กๆ ยี่ห้อนี้อร่อยดีค่ะ ส่วนผลไม้เป็นผลไม้รวม คือ แตงโม สัปปะรด และฝรั่งสรุปว่าประทับใจกับร้าน Guru Gyuu ม๊าก ขนาดที่ว่า...คนที่ไปด้วย ทานไปได้แค่ครึ่งทางก็เริ่มถามเราว่า จะมาทานครั้งต่อไปเมื่อไหร่ดี และต้องขอบคุณทาง Openrice/Opensnap ด้วยค่ะที่มีกิจกรรมดีๆ มาให้พวกเราได้ร่วมสนุกกันอยู่เสมอ ขอมอบสโลแกนจากใจให้ค่ะ .... "แจกจริง แจกบ่อย แจกแต่ร้านอร่อย ต้อง Openrice เท่านั้น" สรุปภาพรวมความคุ้มค่า : คุ้มราคาเมื่อเทียบกับความหลากหลายและความสดของอาหาร และการบริการที่ดีวัตถุดิบ : สด คุณภาพดีการบริการ : ดี พนักงานกระตือรือล้น เป็นกันเองบรรยากาศ : ระบบดูดควันดีมาก กลิ่นไม่ติดผมและเสื้อผ้า ถือว่าเป็นจุดดีมากๆ สำหรับร้านปิ้งย่างรสชาติ : น้ำจิ้มหลักรสชาติอ่อนและใสไปเล็กน้อย ความสะอาด : ดี ห้องน้ำสะอาดพอใช้
อ่านต่อ
เห็นรีวิวแล้วเลยขอไปลองกับเค้าบ้างจัดตัวแรง 1,555 บาทไปเลยร้านขนาดน่ารักสูงโปร่งสว่างสะอาดเรียบร้อยดี บริการดีอาหารวัตถุดิบคุณภาพดีไม่ผิดหวัง ขนาดชิ้นจัดมาให้ก็ดูดีเมนูหลากหลายสะใจ น้ำจิ้มรสชาติมาตรฐานที่ดี แถมตอนนี้ราคารวมเบียร์ สาเก โชจู เหล้าไม่อั้นด้วยแต่จนถึง 29 ก.ค. 58 นะครับ ...ฟินเลยโด้รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/guru-gyuu-buffet-super/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/guru-gyuu-buffet-super/
อ่านต่อ
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินบุฟเฟท์ปิ้งย่าง อันเป็นหนึ่งเมนูโปรดของเรากันบ้างนะคะ นั่นก็คือร้าน Guru Gyuu สาขาสองที่เพิ่งจะเปิดราคาพรีเมี่ยมมาใหม่เอี่ยมถอดด้ามเมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่แหละค่าา ซึ่งการไปครั้งนี้ก็เป็นการเมลมาชวนของคุณหนุ่ม - เจ้าของร้านนะคะ หลังจากที่เราเคยรีวิวสาขาหนึ่งไปแล้ว (คลิกเพื่ออ่าน) เมื่อน้านนานมาแล้วค่ะ โดยวันที่เราไปก็เป็นการไปกินหลังจากเปิดร้านมาแค่หนึ่งวันเท่านั้นเอง แล้วที่เซอร์ไพรซ์ก็คือ เจอบล็อกเกอร์สายอาหารอีกสองท่านคือ น้องเมเม่ กับ น้องอ๊อฟ เจ้าของเว็บรีวิวโดนใจด้วยนะคะ โดยไปคราวนี้เค้าให้พาผู้ติดตามไปได้อีกหนึ่งท่าน ซึ่งเราก็ชวนเพื่อนรักคนเดิมไปแหละค่ะ (แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยถนัดงานปิ้งย่างเท่าอาหารญี่ปุ่นก็ตาม แฮ่...)สำหรับที่ตั้งของร้านนะคะ วันนั้นเราไปทางเส้นวิภาวดีขาออก แล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าที่แยกสุทธิสาร ไปจนชนพหลโยธิน (แยกสะพานควาย) ก็เลี้ยวซ้าย วิ่งไปอีกหน่อยเดียวเองค่ะ เห็นธนาคารออมสินแล้ว ติดกับธนาคารออมสินจะเป็นอาคารพาณิชย์ ห้องที่สามและสี่ก็จะเป็นร้านกูรูกิวแล้วนะคะ สำหรับใครที่เอารถมาอย่างเรา ก็เลี้ยวเข้าซอยข้างร้าน หาที่จอดที่เป็นห้องที่ไม่มีผู้เช่าอาศัยค่ะ จอดได้เลยนะฮับเอาแผนที่มาให้ชมกันอีกทีนะคะ ในแผนที่จะมีทั้งสาขาหนึ่งและสอง (โลโก้ม้วนๆ เหลืองๆ น่ะค่ะ) สาขาสองจะเป็นอันบนค่ะส่วนสำหรับใครที่มาโดยบีทีเอส ทางร้านบอกว่า ถ้าเดินจากสถานีอารีย์หรือสะพานควายจะพอๆ กัน แต่เพื่อนรักข้าพเจ้า (ซึ่งนั่งบีทีเอสมาลงสะพานควาย) บอกว่า สะพานควายน่าจะใกล้กว่าค่ะ เพราะงั้นก็ลงสะพานควาย แล้วดูทางออกที่เขียนว่าไปธนาคารออมสินนะคะ สำหรับหน้าตาของทางร้านก็เป็นอาคารพาณิชย์สองห้องนะคะ โดยรวมกว้างขวางและโปร่งน่านั่งกว่าสาขาหนึ่งค่ะ ถ้าเอาโดยภาพรวมเราชอบสาขานี้มากกว่านะ แฮ่...(แถมกลิ่นไม่อวลในร้านจนทำให้กลิ่นมาติดผม ติดเสื้อผ้าเหมือนที่เราเคยเจอที่สาขาหนึ่งด้วยหละ อันนี้ได้คะแนนค่ะ)สำหรับเวลาในการเปิด ถ้าเป็นวันจันทร์กับอังคารจะเปิด 16.30 น.ค่ะ (เฉพาะมื้อเย็นแหละ) แต่ถ้าวันอื่นๆ ก็เปิด 11.30 น.นะคะ นั่นเท่ากับว่ามีมื้อกลางวันด้วยค่ะสำหรับที่นี่นะคะ เมนูพื้นฐานจะเริ่มที่ 444 กับ 555 บาท แต่ก็จะมีราคาพิเศษคือ 299 บาท แต่ราคานี้เฉพาะวันพุธถึงวันศุกร์เวลา 11.30-15.00 น. เท่านั้นนะคะ โดยทั้งสามราคานี้ จะยังไม่รวมค่าเครื่องดื่มค่ะ (อันนี้เราเสนอว่า ควรทำแบบรวมเครื่องดื่มนะคะ แหะๆ) และให้ระยะเวลาในการรับประทานทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง (อันนี้โอเคมากค่ะ เพราะปัจจุบันส่วนใหญ่ให้ที่ชั่วโมงครึ่งอ้ะ)เมนูก็จะเป็นตามภาพเลยค่ะ ส่วนโปรอื่นๆ ก็มีสำหรับนักดื่ม ดื่ม 4 จ่าย 3 หรือแฮปปี้ลั้นช์ (พุธ-ศุกร์ก่อนบ่ายสามเช่นกัน) เป็นเซ็ตราคา 119 บาทค่ะและสำหรับป้ายแดงๆ นั่นก็จะเป็นกฎกติกาของทางร้านนะคะ ซึ่งก็เป็นกฎพื้นฐานของการกินบุฟเฟท์หละนะคะ ซึ่ง..คนไทยจำนวนหนึ่งยังคงไม่รู้กติกามารยาทเรื่องการกินบุฟเฟท์กันซักทีน่ะ สั่ง/ตักเยอะให้คุ้ม แต่กินไม่หมด มันเปลืองทรัพยากรโลกรู้มั้ยค้าาา เฮ้อออ แต่สำหรับวันนั้นเราไปกินในราคา 1555 บาท ซึ่งมีเฉพาะที่สาขาสองนี้เท่านั้นค่ะ เป็นราคาพรีเมี่ยม โดยจะมีเมนูซุปเปอร์ให้สั่งเพิ่มอีกตามภาพ (ที่เราทำกรอบสีเหลืองๆ ไว้ให้) นอกจากนั้นราคานี้ยังรวมเครื่องดื่มรีฟิลล์ได้ตลอด (และเปลี่ยนจากเครื่องดื่มอย่างหนึ่งเป็นอย่างอื่นได้ตลอดเช่นกัน ดี๊ดี )แถมที่สำคัญสำหรับนักดื่มค่ะ มันรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้นด้วยอ้ะใครเป็นนักดื่มนี่..ขอบอกว่าคุ้มโคตรรรรร (แต่ถ้าจะมาดื่มเต็มที่ ก็อย่าเอารถมากันนะคะ แหะๆ)น้ำจิ้มของที่นี่มีสี่แบบนะคะ ตัวที่ทางร้านบริการเราจะเป็นกิวทาเระกับน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ กิวทาเระจะออกหวานและความหอมโอเลยค่ะ แต่ถ้าชอบรสจัดหน่อยก็มีพริกกระเทียมเพิ่มให้ (ตามประสาไทยๆ แหละน่า) ส่วนอีกสองตัวคือโคซุจังกับมิโสะนี่...ตัวโคชุจะสไตล์เกาหลี มีรสเปรี้ยวปลายๆ และมีกลิ่นและรสของพริกเกาหลีน่ะค่ะ ส่วนตัวมิโสะ รสชาติจะหวานนำนะคะ สำหรับเรา เราชอบตัวกิวทาเระที่สุดค่ะสำหรับวันนั้นที่เราลองนอกจากเมนูซุปเปอร์ทั้งหมดแล้ว ก็ลองสั่งเมนูที่ราคาอื่นๆ ก็สั่งได้มาลองด้วยนะคะ (แต่ไม่ได้ลองมาก เพราะไปกันแค่สองคน แล้วเรากับเพื่อนก็กินน้อยกันทั้งคู่น่ะค่ะ (น้อยขนาดคนเชิญยังเอ่ยปาก ฮา) จะสั่งมาให้ครบ แต่กินเหลือ ก็ไม่ใช่วิสัยเราง่ะนะ )ชุดแรกเลยก็หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์กับแซลมอนเสต็กค่ะ (ราคาแยกเมนูละ 99 บาท) ค่ะตัวหอยแมลงภู่จะมีรสเค็มแทรกปลายๆ นะคะ โดยรวมเราว่าพอใช้ได้ค่ะ ให้ไว้ที่บี ส่วนแซลมอนก็สดปกติค่ะ โออยู่ต่อไปค่ะกับยำสาหร่าย (ราคาแยก 49 บาท) รสชาติดีเลยค่ะ อร่อยและสด ใครชอบยำสาหร่าย ของที่นี่โอค่ะส่วนเครื่องดื่ม เราสั่งตัวชาเขียวร้อนมานะคะ มากันแบบเป็นกาเลย ส่วนเพื่อนสั่งเป็นเครื่องดื่มเย็นค่ะ (ยังไม่มีใครลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่ขาดื่มทั้งคู่น่ะนะ) อย่างที่บอกนะคะว่า สำหรับราคานี้จะรวมเครื่องดื่มไว้ฟรีตลอดอยู่แล้ว และจะเปลี่ยนจากอีกอย่างเป็นอย่างอื่นก็เปลี่ยนได้ตลอดเช่นกันค่ะ แฮ่...ต่อไปค่ะกับหอยนางรมกูรู (ราคาแยก 299 บาท) เป็นหอยนางรมนำเข้านะคะ ลักษณะจะออกรีๆ ตัวใหญ่ใช้ได้ค่ะ เทียบขนาดกับไอโฟนหกให้ดูนะคะ เป็นหนึ่งในเมนูซุปเปอร์ เพื่อนปลื้มมากเลยค่ะกับหอยนางรม บอกว่าหวานมาก สดมาก แต่พอสั่งมาเบิ้ล ปรากฏว่ายังละลายน้ำแข็งไม่ค่อยดีค่ะ เพื่อนบอกว่าจานแรกให้เอเลย แต่จานสองนี่หักคะแนนหน่อยหนึ่งค่ะ อันนี้ก็คอมเม้นท์ไปกับทางร้านแล้วนะคะต่อค่ะกับหอยจำแลง (ราคา 250 บาท) อันนี้สดเด้งกรุบดีค่ะ แต่ไม่ค่อยหวานอย่างที่เราเคยกินที่ร้านอาหารทะเลที่เพชรบุรีน่ะค่ะ ถ้าชอบก็สั่งมาได้นะคะ เป็นหนึ่งในเมนูซุปเปอร์ค่ะต่อไปค่ะกับกุ้งลายกูรู (ราคา 299 บาท) เป็นกุ้งลายเสือกุ้งม้าลาย หนึ่งในเมนูซุปเปอร์ ถ้าไม่ใช่ซุปเปอร์จะเป็นกุ้งขาวค่ะ เป็นหนึ่งในเมนูที่เราเชียร์ค่ะ กุ้งสดแน่นเด้ง สุดยอดมากค่ะ กินกุ้งในกรุงเทพฯ มา หากุ้งเด้งขนาดนี้ยากพอควร ให้เกรดเอเลยค่ะ ขนาดตัวก็ประมาณไอโฟนหกนะคะ ไม่ได้ใหญ่ยักษ์มาก แต่ใหญ่โอเคอยู่ค่ะต่อไปค่ะกับขาปูกูรู (ราคาแยก 299 บาท) เป็นก้ามและขาปูอลาสก้าค่ะ หนึ่งในเมนูซุปเปอร์เช่นกัน ตัวนี้ยังมีรสเค็มอยู่ค่ะ คงต้องหาวิธีการในการเคลียร์รสเค็มออกอีกนิดนะคะ (แจ้งทางร้านแล้วเช่นกัน) แต่เนื้อแน่นดีค่ะต่อไปค่ะ อันนี้ไม่ได้อยู่ในเมนูซุปเปอร์ค่ะ เพื่อนเราสั่งมาค่ะ เพราะตัวเธอไม่ได้กินเนื้อ (จริงๆ เราก็ไม่กินค่ะ ยกเว้นกรณีถูกชวนไปชิมแบบนี้ แหะๆ) เป็นเมนูหมูหินอ่อน (ราคาแยก 79 บาท) โดยรวมก็นุ่มดีค่ะ แต่สำหรับคนที่กินเนื้อด้วย มันสู้เนื้อไม่ได้ง่ะนะคะ แต่เพื่อนที่ไม่กินเนื้อบอกว่าโอค่ะมาที่พระเอกของร้านนี้กันบ้างดีกว่านะคะ ซึ่งเราว่ามันเด่นกว่าตัวอื่นๆ ค่อนข้างชัดเจนค่ะ ซึ่งถ้าสำหรับคนกินเนื้อ เราว่ามาร้านนี้แล้วสั่งเนื้อกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะคุ้มค่ามากในราคา 1555 บาทค่ะ กับเมนูแรกที่เราสั่งมานะคะ อยู่ในเมนูซุปเปอร์เช่นกันค่ะกับซุปเปอร์บุลโกกิ (ราคาแยก 299 บาท)ตัวซุปเปอร์บุลโกกินี่เป็นตัวที่เราชอบที่สุดในบรรดาสามซุปเปอร์ที่เราได้ลองเลยค่ะ ถ้าเอาชอบตามลำดับคือ ซุปเปอร์บุลโกกิ > ซุปเปอร์คารุบิ > ใบพายซุปเปอร์ ทั้งนี้ก็เพราะซุปเปอร์บุลโกกิให้รสสัมผัสที่นิ่มที่สุดในปากเราค่ะ จะเป็นตัวที่มีไขมันแทรกอยู่ เวลาเคี้ยวแล้วฟินกับความนุ่มนิ่มในปากมากแต่ตอนแรกน่ะ งงอยู่ว่ามันใช่เมนูนี้มั้ย เพราะเป็นเมนูเดียวค่ะที่ตัวที่เสิร์ฟหน้าตาต่างจากรูปในเมนูอ้ะ แต่ถามพนักงานอีกคนที่ไม่ได้เป็นคนมาเสิร์ฟตอนแรก ก็ตอบชื่อเมนูตรงกันค่ะ เลยคิดว่าชัวร์หละนะคะ แฮ่...ต่อไปค่ะ ใบพายซุปเปอร์ (ราคาแยก 299 บาท)ใบพายซุปเปอร์เนื้อจะค่อนข้างเด้งกว่าซุปเปอร์บุลโกกินะคะ (ตัวซุปเปอร์บุลโกกิจะนิ่มกว่าค่ะ) แต่ไม่เด้งขนาดลิ้นค่ะ ตัวนี้ให้ที่บีบวกๆ ค่ะต่อไปค่ะกับคารุบิ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อซี่โครงคัดพิเศษนะคะตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างแน่น เคี้ยวยากกว่าแบบอื่นนิดหนึ่งค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าย่างแบบมีเดียมอย่างเรา อันนี้ให้ที่บีค่ะต่อไปค่ะกับซุปเปอร์คารูบิ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อถอดซี่โครงคัดพิเศษค่ะตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างนิ่ม แต่ยังมีส่วนที่ให้เคี้ยวพอสนุกฟันค่ะ ไม่ได้ละลายไปกับปากเลยนะคะ ตัวนี้ให้ที่บีบวกๆ ค่ะต่อไปค่ะกับลิ้นวัวซุปเปอร์ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อเฉพาะส่วนโคนลิ้นนะคะสัมผัสจะค่อนข้างเด้งตามประสาลิ้นหละค่ะ เด้งนิดๆ แต่เคี้ยวไม่ยากเท่าที่เคยกินที่ร้านอื่นนะคะ ให้ที่บีบวกค่ะต่อไปค่ะกับอีกหนึ่งเมนูซุปเปอร์ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อนะคะ อกเป็ดรมควัน(ราคาแยก 250 บาท) ตัวนี้อร่อยค่ะ คนไม่กินเนื้อน่าจะชอบ กลิ่นเป็ดไม่ได้แรง แต่มีรสเค็มปลายๆ นิดๆ นะคะ ให้ที่บีบวกค่ะต่อไปค่ะเรามากินเมนูที่กินได้เลยดิบๆ สดๆ (เอ่อ..พิมพ์ไปรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นปอบยังไงไม่ทราบ ฮา) ไม่ต้องเอามาปิ้งย่างกันนะคะ กับมากุโร่ทากากิ (ราคาแยก 250 บาท) ขอบอกว่าตัวนี้ไม่คาวเลยค่าาา มีกลิ่นพริกไทยหน่อยๆ ด้วย ซึ่งเพิ่มความหอมอร่อยด้วยหละ ตัวนี้เพื่อนเราให้เกรดเอเลยค่ะ เราให้ที่บีบวกๆ นะคะ (เพราะมีตัวทากากิที่ชอบมากกว่า คริคริ)ต่อไปค่ะกับแซลมอนทากากิ (ราคาแยก 250 บาท) ตัวนี้โรยเกลือญี่ปุ่นมา และมีมะนาวมาให้บีบด้วยนะคะ ตัวนี้แปลกมากค่ะ คือ กินแล้วรู้สึกว่ามันสด แต่เนื้อกลับรุ่ยค่ะ งงมากๆ เลยคุยกับเจ้าของร้าน เค้าก็บอกว่ายังแปลกใจอยู่ เพราะเมื่อกี๊ตอนเตรียมในครัว ก็ยังคุยอยู่ว่าลักษณะเนื้อทำไมเป็นแบบนี้ ทั้งที่สดน่ะค่ะ เลยงงกันไปทั้งคู่ ตัวนี้เราให้ที่บีนะคะต่อไปค่ะกับกิวทากากิ (ราคาแยก 250 บาท)ก่อนอื่นสารภาพก่อนว่าเป็นการกินเนื้อดิบครั้งแรกของเราเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าประทับใจมากกกกกกกกกก มันอร่อยมาก เนื้อนุ่มมาก รสชาติทุกอย่างทั้งตัวซอสและพวกเครื่องที่รองด้านล่าง พอกินด้วยกันแล้วมันส่งรสชาติได้พอดีมากๆ ค่ะ หอมกับกระเทียมก็กลบกลิ่นกำลังพอดี มาช่วยปรุงรสให้อร่อยมากขึ้น ไม่คาวเลยค่ะ ซึ่งตัวนี้จะใช้ตัวเนื้อซุปเปอร์บุลโกกิมาทำเช่นกันนะคะ ตัวนี้ให้เอเลยค่ะ ถ้ากินราคานี้ก็อยากให้สั่งเมนูตัวนี้นะคะ สำหรับคนที่กินเนื้อวัวค่ะ อร่อยจริงๆสักพักน้องเค้าก็เอาทิชชู่มาทำความสะอาดเตาให้ค่ะ สำหรับที่นี่ก็ยังใช้เตาเหมือนสาขาหนึ่งนะคะ คือสามารถใช้ทิชชู่ทำความสะอาดได้เลยค่ะ และที่ขอชมคือ เตาที่นี่ร้อนแรงมาก (จริงๆ) คือ ไม่ต้องรอเวลาในการปิ้งย่างนานเลยค่ะ แค่เอาลงไปแป๊บหนึ่งแล้วก็พลิก รออีกแป๊บก็กินได้เลย ทำให้ได้กินอย่างรวดเร็วมาก ชอบมากค่ะ ทำให้ไม่ขาดความต่อเนื่องในการกินเลยอ้ะ Smileyอ้อๆ พนักงานที่นี่จะเป็นชาว AEC เยอะหน่อยนะคะ แล้วก็เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันที่เพิ่งเปิดร้านมาเป็นวันที่สอง บางอย่างพนักงานจะยังงงๆ หน่อยหนึ่ง แต่เค้าจะกระตือรือร้นในการมาช่วยเหลือและบริการดีค่ะสำหรับท่านใดที่ต้องการรู้ว่า เนื้อแต่ละเมนูทำมาจากส่วนไหนของวัว ทางร้านก็ทำข้อมูลไว้ให้อ่านด้วย ตามนี้เลยนะคะสำหรับท่านใดที่กินผักได้ แนะนำให้สั่งผักมาแกล้มนะคะ เพราะอย่างเรา กินแต่เนื้อๆๆ อย่างเดียวมันเลี่ยนเลยหละค่ะ เลยสั่งผักมากินแกล้มกัน เออ..ชีวิตค่อยดีขึ้นหน่อย แหะๆหลังจากเริ่มอิ่มคาว (ควรจะอิ่มหละค่ะ เนื้อทุกเมนูเรากินคนเดียวเลยอ้ะ เง่อ...) เราก็ลองสั่งเมนูเครื่องดื่มมาบ้างค่ะ สองตัวแรกนี่น้องออฟเป็นคนสั่งค่ะ แต่ให้เราชิมด้วย (ขอบคุณน้องออฟผู้สุดแสนจะน่ารักมา ณ ที่นี้นะฮับ) เป็นสาเกเยลลี่สองรสคือรสพีชกับมิกซ์เบอรี่ค่ะ ถ้าสั่งแยกจะตกแก้วละ 300 บาทค่ะ ทางร้านบอกว่า จะดื่มง่ายหน่อย เหมาะกับหญิงสาวค่ะสองตัวนี้จะมีกลิ่นหอมของรสแต่ละอันอย่างชัดเจนค่ะ ตัวพีช (ที่สีออกใสๆ) ก็กลิ่นพีชชัด ตัวมิกซ์เบอรี่ (สีชมพูๆ) ก็กลิ่นชัดมาก ค่อนข้างกิน (ดื่ม) ง่ายจริงๆ แหละค่ะ เหมือนดูดเยลลี่ลื่นๆ เหมือนกินขนมแหละ..แต่เมานะคะ ฮาต่อไปค่ะกับเมนูเหล้าบ๊วย อันนี้อาศัยโต๊ะของคุณเมเม่ค่ะ (อาศัยคนอื่นเค้าตัลหลอดยัยนี่ ฮา) จะเป็นเหล้าบ๊วยยี่ห้อนี้นะคะ ปกติขวดละ 450 บาทค่ะ ถ้าไม่ได้กินราคานี้ที่ดื่มได้ฟรีตลอดและเป็นนักดื่มจริงๆ จะเลือกดื่ม 4 ขวดจ่าย 3 ขวด (ฟรีราคาขวดที่ต่ำที่สุด) ก็ได้ค่ะ เราว่าก็คุ้มอยู่นาเค้าจะให้แก้วเล็กๆ สำหรับดื่มเหล้าบ๊วยมาด้วยค่ะ แช่เย็นมาด้วยหละ แล้วก็มีถังใส่น้ำแข็งแช่ให้เหล้าเย็นตลอดมาด้วย (มันมีผลต่อรสชาติอะนะคะ แหะๆ) สำหรับรสชาติการกินนะคะ ตัวแอลกอฮอล์ไม่แรงและเยอะเกินจนกลบกลิ่นและรสของบ๊วยค่ะ แต่ตัวเนื้อหนังของเหล้ามันยังไม่เข้มข้นมากอย่างยี่ห้อที่เราชอบน่ะค่ะ แต่ก็โอนะคะ อร่อย ไม่ได้แย่ค่ะ อยู่ที่บีบวกค่ะต่อไปค่ะกับสาเกเย็น ขวดละ 350 บาทค่ะ เราขอชิมอีกเช่นกัน เราไม่ชอบกลิ่นและรสสาเกตัวนี้แฮะ แหะๆ (ถ้าอยากเห็นขวด ดูจากรูปโปร 4 แถม 3 นะคะ จะมีอยู่ พอดีเราไม่ได้ถ่ายมาน่ะค่ะ คุณเมเม่เธอเทมาให้ลองน่ะ)ต่อไปเป็นของหวานค่ะ ไปเก็บภาพของหวานทุกเมนูจากโต๊ะน้องออฟมาก่อน (อีกแล้ว ป้านี่) ก็จะมีทั้งหมดตามนี้นะคะตัวผลไม้เราไม่ได้ลองนะคะ เราลองแค่สามตัว จะรีวิวทีละตัวเลยแล้วกันเนาะเมนูแรกค่ะ กับไอศกรีมชาเขียว (ราคา 40 บาท) ตัวนี้มันมีกลิ่นแปลกๆ ค่ะ พอชิมๆ ไปและถามคุณเมเม่ที่นั่งอีกโต๊ะ ก็ได้ข้อสรุปมาว่ามันเป็นกลิ่นมะลิค่าาา เลยทำให้เป็นไอติมชาเขียวกลิ่นมะลิ ซึ่งสำหรับเราไม่คุ้นง่า แต่เพื่อนเราที่ชอบกินไอติมชาเขียวกลับบอกว่าอร่อยดีนะแก ไม่เหมือนใครดี อันนี้ก็แล้วแต่ละกันเนาะคะ แต่ให้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับใครที่จะสั่งมากินค่ะต่อไปค่ะกับถั่วแดงเย็นเกล็ดหิมะ (ราคา 40 บาท)ตัวนี้เป็นตัวที่เราชอบที่สุดนะคะ คือ มันเหมาะกับอากาศร้อนๆ มากๆ อ้ะ แล้วปิ้งย่างเสร็จร้อนๆ กินอะไรหวานๆ ชื่นๆ แอร๊ยส์...มันฟินเฟร่อมากๆ Smiley สดชื่นมากเลยค่ะ ชอบอ้ะปิดท้ายด้วยเยลลี่ค่ะ มีรสลิ้นจี่กับสตรอเบอรี่นะคะ (อันนี้ของน้องออฟมีเหมือนรสส้มด้วย แต่ตอนของเราไม่มีง่ะค่ะ) โดยรวมเราเฉยๆ อะนะ
อ่านต่อ
วันนี้มีบุฟเฟต์มาฝากกันอีกแล้วค่า คราวนี้เป็นคิวของร้านปิ้ง ๆ ย่าง ๆ บ้างนะคะเราได้รับคำชวนจากคุณหนุ่ม-Guru Gyuu ให้มาชิมบุฟเฟต์ตัวใหม่ Buffet Super ที่สาขาน้องใหม่ สะพานควายที่พึ่งเปิดมาได้ 4 เดือนเองค่ะพิกัดร้านสาขา 2 อยู่ริมถนนพหลโยธิน(คนละฝั่งกับสาขาแรก) จุดสังเกตคืออยู่ข้าง ๆ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถ้ามา BTS ก็ลงสะพานควายแล้วนั่งรถ/เดินต่อมาอีกนิดก็ได้ค่ะก่อนจะมาทำความรู้จักกับ Buffet Super เรามาดูโปรโมชั่นอื่น ๆ ในร้านกันก่อนค่ะสำหรับใครที่ไม่อยากทานบุฟเฟต์ร้านนี้เค้ามีเมนู Lunch Set ให้ทานด้วยค่ะแต่มีเฉพาะวันพุธ - ศุกร์ช่วงก่อนบ่าย 3 โมงเท่านั้น ก็น่าจะเหมาะสำหรับคนทำงานในย่านนี้เนอะในส่วนของ Buffet มี 4 แบบให้เลือกค่ะแบบแรก 299 บ. ทานได้เฉพาะวันพุธ - วันศุกร์ ก่อนบ่าย 3 โมงราคานี้คือเน็ตแล้วไม่มี ++ ทานได้ 2 ชม. และเครื่องดื่มไม่รวมในบุฟเฟต์ค่ะBuffet 444 บ.ก็จะมีเมนูหลากหลายมากขึ้นราคาเน็ตไม่มี ++ ทานได้ 2 ชม. และเครื่องดื่มไม่รวมในบุฟเฟต์เช่นกันBuffet 555 บ. แน่นอนว่ามีเมนูเพิ่มมาอีกเช่นกันที่เด่น ๆ ก็มีกุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ราคาเน็ตไม่มี ++ ทานได้ 2 ชม. ครื่องดื่มและของหวานไม่รวมในบุฟเฟต์เช่นกันและบุฟเฟต์ตัวใหม่ล่าสุด Buffet Super 1,555 บ. (มีเฉพาะสาขาสะพานควายเท่านั้น)เมนู 78 อย่างทั้ง 2 หน้านี้รวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้ว(รวมเครื่องดื่ม) สามารถสั่งได้หมดค่ะอ้อ เมนูอื่น ๆ ที่มีอยู่ในเรท 299,444,555 บ.ก็สามารถสั่งมาทานได้หมดค่าและนอกจากเครื่องดื่มปกติที่รวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้วช่วงโปรโมชั่น ยังสามารถสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทั้ง 8 เมนูมาทานคู่กับบุฟเฟต์ด้วยไม่ว่าจะเป็นเบียร์ฮาซาฮี,สิงห์,ไฮเนเก้น,สาเกเยลลี่,สาเกร้อน-เย็น,โซจูและอุเมะชูน่าจะถูกใจคอกินดื่มสุด ๆ ค่า สำหรับโปรนี้เราถามทางร้านว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่คุณหนุ่มบอกว่าถ้าทำแล้วดี ทำแล้วเวิร์ค ในอนาคตก็อาจจะพิจารณาบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ลงในเมนูถาวรเลยจ้าสำหรับตอนนี้ยังไม่มีกำหนดว่าสิ้นสุดเมื่อไหร่ จัดไปเรื่อย ๆ คร้าบดูเมนูไปเรียบร้อย มาทำความรู้จักกับน้ำจิ้มของทางร้านบ้างที่ร้าน Guru Gyuu จะมีน้ำจิ้ม 4 แบบด้วยกัน แต่ที่จะเสิร์ฟให้เป็นปกติเลยคือกิว ทาเระส่วนซีฟู๊ด , โคชูจัง และ มิโซะอยากได้ตัวไหนแจ้งพนง.ได้เลยค่ะสำรวจเมนูไปเรียบร้อย คราวนี้มาดูของจริงกันบ้างหล่ะเหล่านี้คือ 13 เมนูซุปเปอร์ที่ทางร้านเพิ่มเข้ามาใหม่น้ำจิ้มมี 4 แบบก็จัดมา 4 แบบกิว ทาเระเสิร์ฟคู่พริก-กระเทียม-มะนาว เปรี้ยวเผ็ดเค็มครบรส เราชอบอันนี้สุดละซีฟู๊ดรสชาติจี๊ดจ๊าดใช้ได้เลย กินคู่กับซีฟู๊ดเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้โคชูจังกินกับเนื้อย่างได้ฟิลล์ปิ้งย่างเกาหลีดีส่วนมิโซะเราว่าหวานไปหน่อยจ้าเริ่มกันด้วยเมนูเนื้อ "ซุปเปอร์บลูโกกิ" เป็นเนื้อสันไหล่คัดพิเศษเกรดซุปเปอร์มีมันแทรกกำลังดี"ลิ้นวัวซุปเปอร์" คัดมาเฉพาะส่วนโคนลิ้น เคี้ยวแล้วกรุบ ๆ"คารุบิ" เนื้อซี่โครงคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์ แบบนี้จะติดกระดูกมาด้วย"ซุปเปอร์คารุบิ" เป็นเนื้อถอดซี่โครงคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์ ติดมันพอสมควร"ใบพายซุปเปอร์" เนื้อใบพายคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์ มีมันแทรกไม่มาก ได้รสสัมผัสของเนื้อไปเต็ม ๆต่อจากเนื้อจะเป็นซีฟู๊ด "หอยนางรมกูรู" หอยนำเข้าจากญี่ปุ่นอร่อยได้ทั้งแบบสดแบบย่าง จะบีบมะนาวเพียว ๆ หรือราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็เข้ากันหมดค่ะ เมนูนี้ชอบมาก หอยอวบอ้วนสุด ๆ ค่า"ขาปูกูรู" ก้ามและขาปูอลาสก้า "กุ้งลายกูรู" ตัวโต ๆ ปกติจะใช้กุ้งลายเสือ , กุ้งม้าลาย วันที่เราไปเป็นกุ้งลายเสือค่ะ"หอยจำแลง" ที่ร้านใช้หอยหวาน/หอยหมาก วันที่เราไปทานเป็นหอยหวานค่ะ"อกเป็ดรมควัน" กำลังดีค่ะ ไม่เค็มมากอีก 3 เมนูที่เหลือเป็นเมนูทาทากิเมนูแรก "กิว ทาทากิ" เนื้อพิเศษเกรดซาชิมิ ราดทาทากิซอส จานนี้อร่อยอ่ะ ชอบสุดในบรรดาทาทากิทั้ง 3 จาน"มากุโร่ ทาทากิ" ปลาทูน่าคัดพิเศษเกรดซาชิมิ ราดทาทากิซอสจานนี้จะลนไฟให้ปลาสุกเฉพาะด้านนอก สามารถทานได้เลย หรือจะนำไปปิ้งเพื่อให้สุกทั้งชิ้นก็ทำได้ค่ะ"แซลมอน ทาทากิ" ปลาแซลมอนคัดพิเศษเกรดซาชิมิ ทานคู่กับเกลือและมะนาวและนอกจากเมนูใหม่ 13 เมนูก็ยังมีเมนูอื่น ๆ ในบุฟเฟต์ให้เลือกทานกันได้ตามชอบผักสด , ยำสาหร่าย , สลัดผักกูรู ,ไข่ตุ๋น , กิมจิ ,ข้าวผัดกระเทียมกิมจิเค็มไปนิด , สลัดผักกูรูน้ำสลัดหวานไปหน่อย นอกนั้นโอเคหมดค่ะหน่อไม้ฝรั่งเอาไปย่างแล้วหอม ๆไส้กรอกหมูญี่ปุ่น เมนูนี้เราชอบตั้งแต่ตอนที่มาทานครั้งแรกแล้วค่ะยังอร่อยเหมือนเดิมหนวดปลาหมึกนี่ก็ของโปรดเราปลาหมึกไข่ก็มีนะคะหอยเชลล์เนื้อเด้ง ๆ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโต ๆกุ้งแม่น้ำก็มีค่าเบคอนเพิ่มความอวบคอหมูเนื้อมาราธอน ที่มีเอ็นเนื้อน่องแทรกปนอยู่ได้เวลาย่างแล้วค่า จับลงเตากันเลยยยยสำหรับสาขา 2 ต้องบอกว่าระบบควัน การดูดกลิ่นทำได้ดีไม่มีกลิ่นติดตัวติดเสื้อผ้าเลยค่า น่าจะถูกใจสาว ๆ ที่ชอบกินปิ้งย่างแต่ไม่ชอบให้กลิ่นติดตัวเนอะหอยแมลงภู่จิ้มซีฟู๊ดหน่อยมั้ยคะได้เวลาจัดหนักซีฟู๊ดกันบ้าง หอยนางรมกินสด ๆ หรือจะย่างก่อนก็ได้หอยลายกูรูย่างทั้งเปลือกอาจจะสุกยากก็ดึงออกจากเปลือกแล้วค่อยย่างก็ได้ค่ะมาถึงเครื่องดื่มกันบ้าง สตาร์ทเบา ๆ กันด้วยชามะนาวท้องว่างยังไม่ควรดื่มแอลกอฮอลล์เนอะ อิอิปิ้งย่างไปซักพักก็เริ่มทยอยกันมาเลยIKEZO Sake Jelly มี 2 รสให้เลือกคือ Peach กับ Rasberry แก้วนี้เป็น Rasberry ค่ะ รสหวาน ๆ ซ่า ๆ มีเยลลี่ให้เคี้ยวเพลิน ๆ ส่วนใครชอบทานสาเกก็มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น โซจูก็มีค่า เลือกดื่มได้ตามอัธยาศัยอุเมะชูหรือเหล้าบ๊วย จะดื่มแบบออนเดอะร๊อคหรือผสมโซดาก็จัดไปค่า มาต่อที่ของหวานกันบ้างมี 4 รายการก็จัดมา 4 รายการจ้า มินิพุดดิ้ง เป็นเยลลี่รสผลไม้ เนื้อเด้ง ๆไอศครีมชาเขียวถั่วแดง ตัวไอศครีมเนื้อเนียนมาก เสียดายเป็นชาเขียวกลิ่นมะลิซึ่งเราไม่ชอบถั่วแดงเย็นเกล็ดหิมะ ถ้วยนี้อร่อยดีปิดท้ายมื้อด้วยผลไม้ซะหน่อย เป็นอันจบมื้ออย่างสมบูรณ์สำหรับเรา เราชอบปิ้งย่างร้านนี้นะ คุณภาพวัตถุดิบค่อนข้างดี มีบุฟเฟต์หลายราคาให้เลือก เรื่องระบบดูดควันก็ทำได้ดี (สาขา2) กระทะที่ใช้เช็ดคราบสกปรกออกได้ง่าย แต่ท่อใต้โต๊ะร้อนไปหน่อย โดนไปหลายรอบถ้าแก้ไขได้ก็จะดีค่ะสำหรับ Buffet Super 1,555 บ.ราคาค่อนข้างสูง แต่ 13 เมนูที่เพิ่มเข้ามาใหม่ของเค้าก็ดีจริง ๆ นะโดยเฉพาะเนื้อ และซีฟู๊ด คนชอบเนื้อไม่น่าพลาด เนื้อค่อนข้างดีกว่าเกรดบุฟเฟต์ทั่วไป ฟินมากกับหอยนางรมและกุ้งลายเสือ กิวทาทากิเราก็ชอบ แถมบุฟเฟต์ยังรวมเครื่องดื่มแบบไม่อั้นด้วย ใครเป็นขาดื่มจัดไปเลยค่าส่วนใครที่คิดว่าราคานี้แพงไปก็ลองพิจารณาราคาอื่น ๆ แทนดูนะคะ เลือกทานตามงบประมาณในกระเป๋าจ้าสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่Guru Gyuu สาขา 1 ราชครู พหลโยธิน 5: 02-619-6939Guru Gyuu สาขา 2 สะพานควาย : 02-279-9086https://www.facebook.com/GuruGyuu?fref=ts
อ่านต่อ
คุณอาจสนใจ