วิดีโอ
เดิน 3-นาที จาก สถานี BTS สยาม ทางออก 3 และ ทางออก 5
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-610-7732
083-728-8282
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
10:00 - 21:00
จันทร์ - อาทิตย์
10:00 - 21:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
The bibimbab เป็นร้านอาหารเกาหลีที่เน้นเมนูข้าวยำหรือบิบิมบับเป็นหลักแต่ร้านเค้าก็ไม่ได้ขายแต่ข้าวยำนะ ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้เลือกชิมเลือกทานกันด้วยร้านนี้มี 5 สาขา เราเลือกมาทานที่พารากอนนี่แหละ ชอบตรงที่อยู่ในห้างเดินทางสะดวกดี พิกัดร้านอยู่บริเวณชั้น G ตรงข้ามกับร้าน Burger King ตัวร้านไม่ใหญ่มากเป็นแบบโอเพ่น เดินผ่านทีไรมีคนเข้าคิวหน้าร้านตลอด เราไปทานมื้อบ่าย ๆ วันอาทิตย์ก็คนเยอะเหมือนกันค่ะ รอคิวนิดหน่อยเมนูอาหารของร้านนี้แบ่งเป็นเมนูข้าวยำเกาหลี (Bibimbab) มีให้เลือก 10 เมนู ส่วนผสมโดยรวมก็จะเหมือน ๆ กันทุกเมนู คือมีผักหลากชนิด จะแตกต่างกันที่เนื้อสัตว์ บางเมนูใส่เนื้อ บางเมนูใส่หมู บ้างก็ใส่ไก่ , ไข่ปลา , ปลาหมึก หรือไม่ใส่เนื้อสัตว์เลย นอกจากนี้ก็มีเมนูข้าวผัดอีก 4 เมนู , เมนูซุป/ต้ม/แกงมี 7 เมนู โดยจะเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย พลิกเมนูมาอีกด้านเป็นเมนูข้าวกระทะร้อนมี 3 เมนูให้เลือก , เมนูเนื้อชั้นเยี่ยมมี 5 เมนูให้เลือก ส่วนหมวดเมนูแนะนำมีให้เลือก 12 เมนู ส่วนของหวานแน่นอนว่าเป็นบิงซูสไตล์เกาหลี ของที่ร้านนี้มี 3 รสให้เลือก ถ้าไม่ทานบิงซูก็มีไอศครีมเป็นอีก 1 ตัวเลือก (วนิลา/ชาเขียว/กาแฟ) เครื่องดื่มมี 5 รายการราคาอยู่ที่ 20 - 50 บ. ใครชอบทานแอลกอฮอลล์ก็มีมักก็อลลี (หมักจากข้าว) โซจู และเบียร์ให้เลือกดื่มเครื่องดื่มเราสั่งน้ำแร่ 20 บ. ส่วนอาหารมาร้านนี้ก็ไม่พลาดที่จะสั่งเมนูข้าวยำ วันนี้เลือกเมนูชอนทงบิบิมบับ (Traditional Bibimbab) 220 บ. เมนูนี้เลือกได้ว่าจะทานเป็นเนื้อหรือหมู เราเลือกเป็นหมู ในชุดจะเสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมันฝรั่ง และซอสโคชูจัง ส่วนเครื่องเคียงมี 4 อย่าง กิมจิผักกาด , ลูกชิ้นปลา , กิมจิอีกอย่าง(ไม่แน่ใจว่าเป็นมะละกอรึเปล่า) , บล็อคโครี่ เครื่องเคียงเฉย ๆ อ่ะ ไม่ได้ชอบจานไหนเป็นพิเศษ ส่วนข้าวยำของที่ร้านนี้จะใส่มาในชามหินร้อน เวลาจะทานก็ใส่ซอสลงไปคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันก็ทานได้แล้ว วันนี้รู้สึกว่าชามหินไม่ค่อยร้อน ทานจนหมดแล้วยังไม่มีข้าวกรอบ ๆ ติดที่ก้นชามเลย ไม่ได้ทานเร็วด้วยนะ วางทิ้งไว้ตั้งนาน รสชาติข้าวยำยังไม่ถูกปากเท่าไหร่ เคยกินร้านอื่นแล้วชอบมากกว่านี้ค่ะอีกเมนูตั้งใจจะสั่งมาเป็นจานกลางแบ่งกันทาน ต๊อกโปกิ (Tteok-bokki) 200 บ. เมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักดอง รสชาติโดยรวมก็ใช้ได้ แต่ซอสเข้มข้นน้อยไปหน่อย เสียดายที่ไม่ใช่จานร้อนเหมือนร้านอื่น ๆ นั่นแหละ วางไว้แป๊บ ๆ ก็หายร้อน พอหายร้อนก็จะไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เมนูสุดท้ายจาจังรามิยอน (Jajang Ramyeon) 150 บ. ที่ร้านนี้เค้าใช้เส้นมาม่าสำเร็จรูปอ่ะ น่าจะประมาณแกะห่อมาทำให้กินเลย ผิดหวังมากๆ ในชามมีเครื่องแค่ข้าวโพด ไข่และแตงกวา เมนูนี้เราเคยกินแถวโคเรี่ยนทาว์นอร่อยมาก เส้นเหนียวนุ่ม ซอสกลมกล่อม เส้นนี่คนละแบบกับชามนี้เลย เครื่องก็ใส่มาทั้งหมู แครอท มันฝรั่ง หอมใหญ่ ซอสอร่อยกว่านี้มาก แต่ชามเบิ้มเวลาจะกินทีต้องไปหลายคนหน่อยไม่งั้นไม่หมด สำหรับจาจังรามิยอนของร้านนี้ไม่ผ่านอ่ะ กินไม่หมดด้วยมื้อนี้อาหาร 3 อย่าง เครื่องดื่ม 1 ขวด น้ำแข็งฟรี รวม 631 บ. (มี Vat 7% แต่ไม่มี SC) อาหารถือว่าราคาไม่แพงมาก รสชาติแค่พอใช้ สำหรับเรามีร้านที่อร่อยกว่านี้ ถ้าอยากทานอาหารเกาหลีสำหรับเราร้านนี้ยังไม่ใช่ตัวเลือกต้น ๆ จ้า แต่ก็ทานได้(บางเมนู) เวลาอยากกินอาหารเกาหลีแต่ไม่อยากไปไกล
อ่านต่อ
คราวนี้มาประเดิมร้านบิบิมบับ สาขาสยามพารากอน ชั้น G ที่เพิ่งมาเปิดสาขาที่นี่ได้ไม่นานค่ะ เป็นร้านอาหารเกาหลีเน้นไปทางข้าวยำเกาหลี หรือที่เรียกกันว่า บิบิมบับ ในเมนูมีข้าวยำหลายแบบมากค่ะ แต่เราจำชื่อเมนูไม่ได้ค่ะ อาหารเสิร์ฟเป็นเซทนะคะ มีเครื่องเคียงหลายอย่างมาก มาดูข้าวยำของเราจะมี หมูแบบเผ็ด เห็ดหอม สาหร่ายแผ่น ผักก็เยอะมากค่ะ ทั้งแตงกวาซอย ถั่วงอกและผักอะไรไม่รู้ค่ะ เสิร์ฟในชามหินร้อนๆ ค่ะ เราต้องรีบคลุกค่ะไม่งั้นข้าวจะติดชามและไหม้นะคะ คลุกๆ ให้เข้ากัน ถ้าอยากเพิ่มเติมรสชาติก้อมีซอสโคชูกับน้ำมันงาให้วางไว้ที่โต๊ะด้วยค่ะ เราก้อใส่นิดนึงค่ะ รสชาติอร่อยค่ะ และเป็นอาหารที่กินเพื่อสุขภาพจริงๆ ค่ะ เพราะผักเยอะจริงๆ
อ่านต่อ
สยามพารากอนวันอาทิตย์เป็นอะไรที่คนเยอะมากๆ โดยเฉพาะร้านอาหารต้องรอคิวกันยาวเลยเชียวพอดีเดินผ่านร้านนี้มีที่ว่างพอดี The Bibimbab อยู่ชั้น G ค่ะเมนูก็ดูน่าสนใจอยู่ เลยชวนกันไปลองชิมค่ะด้วยความที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการสั่งอาหารเกาหลีซักเท่าไหร่ เห็นเมนูแล้วก็งงกันไปพักนึงเริ่มเกรงใจพนักงานที่มารอรับออเดอร์ค่ะ 555+ เลยเลือกเมนูที่สั่งง่ายๆ คือ Bulgogi Bibimbub (ข้าวยำเกาหลี) และ Kimchijjigae (ซุปกิมจิ) อาหารรอไม่นาน พนักงานก็ยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะค่ะ บิบิมบับมาเป็นกระทะหินร้อน ต้องรีบใส่ซอสแล้วคลุกแบบด่วนๆ ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไหม้ติดก้นหม้อ แนะนำให้ใส่ซอสเยอะนิดนึงไม่งั้นจะจืดค่ะในเซ็ทจะมีซุปใส ผักดอง และ เครื่องเคียงคล้ายๆ ลูกชิ้นปลาแผ่นมาด้วยค่ะส่วนเซ็ทซุปกิมจิ ก็จะมีเครื่องเคียงแบบเดียวกันมาด้วยค่ะ พร้อมกับข้าวสวยเหนียวหนึบแบบข้าวญี่ปุ่นค่ะรสชาติออกเปรี้ยว กินไปกินมานึกถึงแกงส้มซะงั้น แต่ก็อร่อยดีค่ะราคาอาหารต่อเซ็ท อยู่ที่ 200++ เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านกึ่งๆ อาหารจานด่วน จึงไม่มี Service Charge ค่ะ (ดีจัง) ร้านมีที่นั่งไม่เยอะ แต่คนส่วนใหญ่ทานเสร็จก็จะลุก ไม่นั่งแช่ จึงทำให้มีโต๊ะว่างอยู่ตลอดค่ะ ส่วนการบริการของพนักงานก็สุภาพและรวดเร็วดีค่ะ
อ่านต่อ
The Bibimbab ร้านอาหารเกาหลี ที่เพิ่งจะมาเปิดที่สยามพารากอน ตั้งอยู่ที่ชั้น G ตรงข้ามร้าน Burger King และอยู่ใกล้กับร้าน coco ichibanya อาจจะหายากนิดนึงสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ เพราะตรงส่วนนั้นร้านอาหารละลานตามากจริงๆ บรรยากาศภายในร้านเป็นร้านเปิดโล่ง ไม่ใช่ผนังปิดทึบ มีแค่ส่วนกั้นขึ้นมาเป็นสัดส่วนเฉยๆ ภายในตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบไม้สีเข้ม เบาะสีเขียว ออกโทนธรรมชาติ ทำให้ดูสวยและสะอาดตาดีค่ะ ไม่เยอะ ไม่น้อย และดูดีทีเดียว ในส่วนของด้านหน้าร้านมีวางโชว์โมเดลอาหารจำลองด้วย หน้าตาสวยงามมากๆ เมนูอาหารของที่นี้มีเพียงสองหน้าเท่านั้นค่ะ ประกอบไปด้วย เมนูข้าวยำ ข้าวผัด ซุป/แกง/ต้ม เนื้อผัด เมนูแนะนำมีเป็นพวกข้าวปั้นกับเส้นๆด้วย แล้วก็มีเมนูของหวานเป็นพวกน้ำแข็งไสแบบเกาหลีค่ะ เมนูที่สั่งมามี 3 อย่างค่ะ เพราะไปกินกันสามคนอ่ะ ก่อนอื่นมาดูของบนโต๊ะอาหารกันค่ะ ทางร้านจัดวางซอสโคชูจังกับน้ำมันงาไว้บนโต๊ะเลย มีเพียงสองอย่างเท่านั้นจริงๆ ทิชชู่ ไม้จิ้มฟัน อย่างอื่นๆ ไม่มีเลย โล่ง.. แต่ตอนกิน พนักงานนำทิชชู่มาวางให้เพิ่มนะคะ น้ำ เพื่อนสั่งเป็นน้ำเปล่ามาค่ะ ตัวหลอดที่ปักในแก้วยังมีกระดาษปิดอยู่เลย แอบดูสะอาดดีจัง เมนูอาหารอย่างแรกคือ ข้าวยำเกาหลี เมนูหมายเลข 3 Jeyook Bibimbab Set ราคา 210 บาท เป็นข้าวยำกับหมูแบบเผ็ด เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เราสามารถขอให้พนักงานคลุกข้าวให้เลยก็ได้นะคะ โดยเขาจะใส่ซอสโคชูจังบนโต๊ะกับน้ำมันงาอีกนิดหน่อยในข้าว แล้วจัดการผสมให้เราอย่างเรียบร้อยค่ะ สำหรับรสชาติของจานนี้นะคะ รสชาติแบบเกาหลีเลยค่ะ ออกเค็มๆ มันๆ เผ็ดนิดๆ พวกเครื่องปรุง ซอสกลิ่นแรงๆ อาหารสีจัดๆ ร้อนๆควันฉุยด้วย เพราะอยู่ในหม้อแบบร้อน อย่างที่สองคือ Jeyookbokkeum Set ราคา 290 บาท หรือหมูผัดกระทะร้อนนั่นเอง(อันนี้เพื่อนตั้งชื่อเองนะ) หมูมาเต็มอย่างตู้มอ่ะ ผักก็ให้มาเยอะใช้ได้เลย รสชาติเหมือนตัวแรกเลยค่ะ สไตล์เกาหลี เค็ม เผ็ด แต่ติดนิดนึงที่ตัวหมูไม่ค่อยมีรสชาติ คือ มันก็มีซอสเคลือบนั่นแหละ แต่มันไม่เข้าเนื้ออ่ะ สุดท้ายคือ Sundubujjigae Set ราคา 200 บาท เป็นซุปทะเล ใส่เต้าหู้กับไข่ด้วย หม้อนี้มาในหม้อแบบร้อนๆเช่นกัน ได้กลิ่นทะเลเบาๆด้วยแหละ รสชาติคล้ายกับสองเมนูบนค่ะ ออกเค็มๆ ตามแบบเกาหลีเลย อาหารจานนี้จะได้ข้าวสวยมาอีก 1 ถ้วยด้วยค่ะ สรุปคือรสชาติอาหารไปในทางเดียวกันหมด แอบเลี่ยนนิดๆ+น่าเบื่อนิดหน่อย รสชาติไม่จัดเท่าไหร่ สู้ร้าน tudari ไม่ได้ค่ะ(จากความเห็นของแม่และน้องสาว) คือ รสชาติของอาหารมันมาจากซอสเกาหลีอย่างเดียวเลย มันเลยไปในแนวทางเดียวกันอ่ะ ส่วนเครื่องเคียงโอเคนะ กินได้เพลินๆ เครื่องเคียงที่ได้มาจะมี 3 อย่างค่ะ อย่างแรกเป็นกิมจิ อย่างที่สองเป็นบรอคโคลี่กับซอส อย่างสุดท้ายเป็น เต้าหู้แบบเต้าหู้ปลาอ่ะ รสชาติโอเคเลย ตัวกิมจิที่ได้มารสชาติค่อนข้างเปรี้ยวตัดเลี่ยนได้ดีเลยแหละ ส่วนบรอคโคลี่พอจิ้มกินกับซอสจะออกเค็มๆ ส่วนเต้าหู้ปลาก็รสออกเป็นเต้าหู้ปลลาเลย ไม่มีรสโดด แล้วเขาก็จะมีน้ำซุปให้อีกถ้วยนะคะ อันนี้ไม่ได้ถ่ายมา ส่วนรสชาติก็ออกจืดๆไม่มีอะไรค่ะ พวกเครื่องเคียงพวกนี้สามารถขอเติมได้เรื่อยๆนะคะ การบริการค่อนข้างดีค่ะ พนักงานดูแลและพูดจาดีมาก มีแนะนำเมนูด้วย อาหารมาเสิร์ฟค่อนข้างเร็ว รอไม่นานมาก ดูทำงานกันเร็ว+อัธยาศัยดี สรุปว่าดีเลยแหละ ราคาอาหารค่อนข้างสูงไปหน่อย เท่าที่เห็นคือ 200 อัพหมดเลย แถมราคามี +vat 7% เพิ่มด้วย แต่ไม่มีค่า service charge ค่ะ มื้อนี้คิดเงินออกมาอยู่ 700 กว่าบาท ราคาสูงแต่สั่งสามอย่างนี่อิ่มใช้ได้เลยนะ สรุปร้านนี้คือ มาลองเพื่อให้รู้ว่าเป็นยังไงจริงๆนั่นแหละค่ะ เพราะรสชาติไม่ได้น่าประทับใจมากบวกกับรสชาติของอาหารเกาหลีเองที่ทำให้กินแล้วเลี่ยนๆอ่ะ แต่ถ้าใครชอบอาหารเกาหลีลองไปกินดูสักครั้งอาจจะชอบก็ได้นะคะ ^ ^8/12/2013
อ่านต่อ
คุณอาจสนใจ