8
2
0
เดิน 4-นาที จาก สถานี BTS เพลินจิต ทางออก 5
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
065-254-9645
ข้อมูลร้านอาหาร
Water Library เป็นร้านอาหารฝรั่งเศส ที่มีบรรยากาศหรูหรา ดีไซน์ของทางเข้าร้านเป็นทรงโค้งซึ่งได้แรงบันดาลใจมากจากฐานของหอไอเฟล อาหารนั้นมีรสชาติอร่อย แต่ราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวานให้ได้เลือกลิ้มลองกันอีกด้วย
อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
โอกาสพิเศษ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
We can tell why it named as library but have no ideas where the water come from.The waiter is highly customer-oriented to remind us to select a top up drink when we were considering to order a still water, THB 90 Vs THB 220. The tea is good enough for two to share and may refill hot water up to 3 times. It is highly value for money. A timer is also provided to ensure the tea just be prefect taste.We ordered 3 courses dinner set, foie gras and organic chicken leg.The bread was hot, soft inside and a bit crispy outside.The foie gras was up to standard, not much suprise. The good one shall taste like an ice-cream to melt. What we like was the side dish - beetroot.This spring roll was crispy and not too oily. Filling with duck sounds like French. The salad was fresh, mixed with black vinegar is the prefect match.This pasta tasted good, just a bit spicy. The veggy not overcooked.This chicken leg was just done, so smooth. However I can't tell whether it is organic or not. The source was too salty. Our dinner finished with a brownie, one was pretty enough. This was the reason why we didn't order two sets dinner as they only offer 1 dessert.
อ่านต่อ
พิกัดของร้านนี้จะอยู่ในห้าง Central Embassy โดยตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ตรงข้ามกับร้าน Nara อยู่หลังบันไดเลื่อนเลย ตรงข้างๆกับลิฟต์หาไม่ยาก สิ่งที่ผมชอบที่สุดของร้านนี้คือการที่มีน้ำแร่ให้เราเลือกดื่มกว่า 10 แบรนด์ แบ่งเป็น Still Water จะมี 3 ยี่ห้อ Sparkling 4 ยี่ห้อ ถ้าตัวที่เป็น Smooth Bubble จะเป็น Badoit แถมอาหารที่นี่ก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย วันนี้ผมจัด Sparea 750 ml. ไปหนึ่งขวดครับ ซึ่งขวดนี้เป็น Still Water หน้าตาสวยงามใช้ได้เลย รสชาติก็จะออกหวานนิดๆ ร้านนี้มีให้เลือกทานหลายอย่างนะครับ แต่วันนี้ผมจัดเป็น Course Menu ของทางร้านมา ราคา ฿990++ ครับผม โดยจะมีสามอย่างคือ Appetizer, Main Dish, Dessert อย่างละจานในคอร์สจะประกอบไปด้วย ของเรียกน้ำย่อยก็จะเป็นขนมปัง โดยร้านนี้จะมีเนยให้ลองถึงสองชนิด คือ Sea salt butter กับ Truffle butter ตัวขนมปังเองค่อนข้างเหนียวมากเลย แต่ก็อร่อยดีทีเดียว ตัวเนยเห็ดทรัฟเฟิลก็กลิ่นค่อนข้างชัดเจนเลย เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์และผมชอบมาก ตัวเนยจะมีความมันๆแต่ไม่ค่อยเค็ม ส่วนเนยน้ำทะเลก็เค็มสมชื่อเลยครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าขนาดไตพัง เป็นเมนูที่อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว • Carrot Soup ตามมาด้วยตัวด้วยซุปสีส้มสดใส รสชาติเข้มข้นดีครับแต่ไม่ค่อยหนืด ตัวซุปเองก็จะเค็มๆมันๆ มีกลิ่นของแครอทชัดเจน ซุปเสิร์ฟมาร้อนๆเลย เป็นการเริ่มคอร์สที่ดีทีเดียวเลยครับ • Cod Croquette มีกลิ่นฉุนๆของซอสบัลซามิค ที่ใส่มาในสลัดซึ่งกลิ่นของผักจะค่อนข้างแรง ผสมกับกลิ่นหอมของโคโรเกะ ด้านในจะเป็นมันฝรั่งบดซึ่งนุ่มดีทีเดียว ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน แป้งด้านนอกกรอบมาก เวลาทานจะมีกลิ่นหอมด้วย เข้ากันได้ดีกับซอสมะเขือเทศด้านล่าง ซึ่งเข้มข้นดีทีเดียวเลย • Barramundi เนื้อปลานุ่มดีทีเดียวใช้การทำโดยการนำไป steam ทำมาสุกในระดับ done ทำให้มีกลิ่นคาวของทะเล ควรทานคู่กับผักโขมด้านล่างเพื่อดับกลิ่น ราดมาด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิลที่มีรสชาติมันๆเค็ม แต่สามารถแจ้งระดับความสุกได้นะครับ ใครชอบสุกมากสุกน้อยก็จัดกันไป ส่วนตัวผมว่าก็พอได้ใช้ได้เลย • Lobster Pasta เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาแบบไม่ถึงกับนิ่ม ยังคงความแข็งไว้นิดๆ ส่วนเนื้อ lobster ก็เหนียวนุ่มดีครับให้มาชิ้นพอดีคำ นอกจากนี้ยังมีแฮมกับ หมูรมควันที่ออกรสเปรี้ยวหน่อยๆ ใส่มาให้ในจานอีกด้วย โดยรวมก็ใช้ได้เลยครับ • Pork Chop จานสุดท้ายจะเป็นพอร์คช็อป เวลาทานเข้าไปจะมีเหมือนกลิ่นของไม้อยู่ครับ เนื้อหมูถือว่าทำมาได้ดีเลยทีเดียว จะมีความแข็งนิดๆ แต่ก็ยังนุ่มพอที่จะทานได้แบบสบายๆ แถมยังคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อไว้ได้ดี สามารถเคี้ยวได้ไม่เมื่อยกรามครับ ชิ้นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เวลาทานเข้าไปจะได้กลิ่นของเครื่องเทศด้วยผมชอบมาก • Profiteroles ขนมหวานของที่นี่ก็จะเป็นเหมือนคุ๊กกี้ที่มี ไอศกรีมรสคาราเมลอยู่ตรงกลาง โดยรวมแล้วผมว่ามันค่อนข้างโอเคเลยครับ รสชาติหวานนุ่มของคาราเมลชัดมาก ตัวคุกกี้เองจะเป็นแบบเหนียวนุ่ม จะมีกลิ่นหอมของแป้งรสชาติไม่หวานมากนัก และมีบราวนี่ใส่มาให้ด้วย ส่วนตัวผมแล้วถูกใจใช้ได้เลยครับ นอกจากนี้ทางร้านยังมี Beverage ที่เป็น Water Library's Exclusive ให้เลือก โดยมีชาให้เลือกถึง 8 ชนิดสำหรับคนที่ชอบรสอ่อนๆ ไม่เน้นคาเฟอีนแนะนำเป็นพวก Herb Tea, White Tea, White Rose ส่วนใครที่ใกล้หลับ ต้องการชาที่ High Caffeine แนะนำเป็นพวก Black Tea ส่วนสาวๆที่ชอบชาผลไม้ก็ต้องพวก Vanilla Garden หรือ Grean Peach จะเป็นชากลิ่นผลไม้ ที่ค่อนข้างหอมหวานเลยแหละครับ พี่ๆท่านไหนที่ชอบแนวสมุนไพรก็แนะนำ The Botanist เลยครับ แต่มครไม่แน่ใจเค้ามีตัว Tasting ให้ลองดมนะครับ La Brasserie Signature Cold Teas โดยทางร้านจะมีทั้งหมด 3 อย่างคือ Rough, Elderflower, passion เมนูนี้เป็น Complementory Drinks โดยวันนี้ก็ได้ลองชา Peach passion fruit elder flower (฿195.-) โดยจะทำมาจากดอกไม้ของทางยุโรป โดยมีกลิ่นหอมของดอกไม้ คล้ายกลิ่น raspberry รสชาติก็จะหวานๆ คล้ายๆกับยาแก้ไอแต่อร่อยกว่า ออกแนวเหมือนกับลูกอมนิดๆอ่ะครับ การบริการของที่นี่ถือว่าเยี่ยมมาก พนักงานอัธยาศัยดีมาก สามารถตอบคำถามลูกค้าได้แบบดีมาก เรียกว่าข้อมูลการปรุงนี้มาครบละเอียดยิบ แถมยิ้มแย้มแจ่มใสพูดจาสุภาพมากครับ เรียกได้ว่าประทับใจการบริการสุดๆเลย
อ่านต่อ
วันนี้มาเพื่อชิมเครื่องดื่มและขนมหวาน Signature Cocktail แก้วแรก Absinth Watermelon 320 บาท รสชาติแนวพันช์แต่มีรสน้ำแตงโมเด่นขึ้นมา ดื่มง่าย สดชื่นค่ะBrigitte Bardot 320 บาท รสชาตินมๆ มีกลิ่นซินนามอน กลมกล่อม หอมหวานค่ะ Christmas Chocolate Cake 320 บาท เป็นเค้กช็อกโกแลตแบบฉ่ำคล้ายทีรามิสุ และราดซอสราสเบอรี่สด เปรี้ยวจี๊ด ทานทั้งหมดพร้อมกับไอศกรีมเอิร์ลเกรย์ เข้ากันสุดๆ ชอบค่ะและมาต่อที่ของหวาน Signature ของร้าน Tart Tartin 380 บาท หรือ แอปเปิ้ลทาร์ตค่ะ เมนูนี้สั่งแล้วใช้เวลาประมาณ 30 นาทีนะคะ เสิร์ฟมาร้อนๆ รสชาติแป้งทาร์ตกรอบเบา กับแอปเปิ้ลฉ่ำสุดฟิน ทานร้อนๆ คู่กับไอศกรีมวนิลา อร่อยจริงไม่อิงนิยายจ้า
อ่านต่อ
มีโอกาสได้ไป Openrice Exclusive Dinner@Water Library Central Embassy ครับถ้ามาจากBTSเพลินจิตก็มาทางออกที่ 5 จะมาทางเชื่อมจากSky-walkเข้าห้างได้เลยครับทางเชื่อมเข้าห้างครับ ห้างนี้คนไม่เยอะเน้นกลุ่มลูกค้าโฮโซวว์ =w= ครับแต่ร้านนี้ตกเย็นลูกค้าเยอะพอสมควรเลยครับ ร้านอยู่ที่ชั้น5ครับขึ้นบันไดเลื่อนก็จะเจอร้านโดดเด่นเลยร้าน Water Library Brasserie ครับ ที่ Openrice Exclusive Dinner เชิญมาครั้งนี้ครับเมนูหน้าร้านสักหน่อยครับหน้าร้านมีลูกค้านั่งอยู่ เลยขอมาเก็บบรรยากาศส่วนในร้านสักเล็กน้อยครับบรรยากาศของร้านจะธีมออกแนวห้องสมุด(เพราะเจ้าของมีธุกิจเกี่ยวกับห้องสมุดด้วยครับ) มีน้ำแร่จากทั่วโลกและแก้วไวน์เกรดสูงประดับ ตามชื่อร้านออกแนวเรโทรๆวินเทจๆเก๋ๆ ครับเก็บบรยากาศมาได้นิดหน่อยขอไปที่โต๊ะเลยดีกว่าครับมาเลทสุดเลยมั้งแหะแหะเริ่มปารตี้กันแล้ววว ไงๆก็ขออภัยทุกท่านในภาพด้วยนะครับหลังจากพิธีเปิดงานเรียบร้อยก็ขอสั่งเครื่องดื่มซะหน่อยครับผมส่วนเมนูสำหรับ Openrice Exclusive Dinner ครั้งนี้เป็น Course ดังนี้เลยครับเป็นเมนูที่(ตอนนั้น)ยังไม่มีในเมนูเลยครับเครื่องดื่มแรกมาเสิร์ฟก่อนเลยครับรวดเร็วมาก นางเอ๊กนางเอกครับ รสชาติดี๊ดีตามสไตล์เมนูแรกที่มาเสิร์ฟเป็น Complimentary Menu ของทางร้านครับ เสิร์ฟพร้อม ครับเนยเห็ดTruffleที่แสนแพงเป็นสูตรพิเศษของร้านทำเองเลยครับทำสดๆใหม่ๆทุกวันนี่ขนาดเมนูฟรีของทางร้านนะเนี่ยไม่ธรรมดาเลยขนมปังชิ้นกำลังน่ารักน่าทาน ไม่นุ่มไม่แข็งไปกำลังดีทาด้วยเนยเห็ดทรัฟเฟิล หอมหวานมัน เรียกน้ำย่อยได้แบบว่าเกือบอิ่มเลยทีเดียว(อ่าว!?)ส่วนเครื่องดื่มที่รีเควสไปอีกแก้วคือบูลเกลอโซ่โซดาครับไม่มีในเมนูแบบว่าขอสีสวยๆมาถ่ายเล่นฮ่าๆ บาร์ที่นี่รีเควสได้ครับไม่ต้องเป๊ะๆตามเมนู สดชื่น ฟุดๆ มีกลิ่มส้มแอบมาด้วยเมนูเริ่มแรกก็คือ ครับ เป็นราวิโอลี่ไส้หอยเชลล์และลอบสเตอร์บดรวมกันครับราดด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิล ด้านบนมี Artichokesอบมาด้วยทานแล้วอร่อยกรุบๆกรอบๆหอมซอสเห็ดทรัฟเฟิลสี่ผ่านเลยค๊าบมาต่อกันด้วย Main Course ครับ ผมเลือกเป็น ครับเป็นสเต็กปลาแซลมอน ซูวีแล้วย่างมาสวยสดงดงามมากครับ หนังปลากริลมาได้กรอบอร่อยหอมฟินสุดๆ เสิร์ฟพร้อมครีมผักโขมมันฝรั่งบดผสมเนื้อปู คู่กับครีมซอสมะเขือเทศ ฟินสุดๆครับชิ้นใหญ่จุใจมากครับสมเป็น Main Course มากครับส่วนนี่เป็นMain Course ของท่านข้างเคียงครับยืมถ่ายรูปฮ่าๆ ครับ ชิมไปนิดนึงเนื้อนุ่มไม่เหนียวแทบไม่มีกลิ่นสาปเลยครับส่วนนี่ก็ Main Course ของท่านเยื้องๆอีกละ55+ ครับ เส้นCapellinisoหนุบหนับอร่อยมากๆLobsterแน่นๆซอสก็อร่อยมากครับชิมไปนิดนึงอิ่มอร่อยกำลังดีแล้วก็มาต่อ้ดวยของหวาน ครับเป็นไอศครีมช็อกโกแลตและกล้วยสไลด์ ข้าวพองอบกรอบเคลือบคาราเมล บราวนี่ เมอแรงค์ราดผงช็อคโกแลตหวานๆกรอบๆ ฟินตรงข้าวพองเคลือบคาราเมลมาก รวมๆหวานจัดจ้าน แต่ไม่ถึงกับแสบคอครับ แอบชอบอยู่และยังมีเมนูพิเศษปิดท้ายมาอีก ครับ เสิร์ฟพร้อมไอศครีมวนิลาแอปเปิ้ลทาร์ท ชิ้นเบ้อเริ่ม ฟูกรอบอร่อยมากๆ ราดด้วยคาราเมลและอัลมอนด์ทานควบคู่กันทั้งหมดอร่อยลงตัวหวาน มีเปรี้ยวจากแอปเปิ้ลแซมนิดๆหอมกรอบลงตัว โอเคเลยครับแล้่วจิบด้วยชาMarco Poloร้อนๆหอมๆฟินๆครับจบมื้อนี้แบบฟินๆกันน่าจะทุกท่านครับก็เปิดตัว Chef หน่อยครับ (ขออภัยผู้ร่วมทริปอีกครั้งนะครับ )Chef ประพันธ์ สากลปัญญา ครับ ขอบคุณที่รังสรรคอาหารมื้อนี้ได้ประทับใจกันทั่วหน้าครับ และก็กล่าวปิดมื้อนี้ไปอย่างฟินๆ กับOpenrice Exclusive Dinnerในส่วนของ ร้านWater Library Brasserieครับ...
อ่านต่อ
ได้รับเกียรติอย่างแรงกล้า จาก Openrice Thailand และ ร้าน Water Library ให้มาลองเมนูใหม่ของร้าน ที่จำหน่ายในเดือน กรกฏาคม ตื่นเต้นมากคะ ที่ได้ไปลิ้มลองเมนูใหม่ของร้านหรูหราอลังการงานสร้าง ส่วนตัวเคยมาลองชิมชาอร่อยๆ ของร้านมาแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ทานอาหารสักครั้ง ครั้งนี้โอกาสดีงามมาก ๆบรรยากาศร้านคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมาก หรูหราน่าประทับใจทุกครั้งที่ได้มาเยือน ที่นี้การบริการดีเยี่ยมมาก ๆพนักงานทุกคนน่ารัก ไม่ว่าจะมาทานเอง หรือมาโดยการรับเชิญแบบนี้ พนักงานก็ยังคงน่ารักและบริการดีไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ นั่งได้สักพัก ทางร้านก็นำ Complimentary มาเสิร์ฟคะ เป็นขนมปังฝรั่ง Potato Bread กับเนย Butter Truffle อร่อยจนเกือบลืมถ่ายรูปเลย หลังจากทาน Complimentary ก็เริ่มต้นด้วย Starter เป็น ราวิโอลี่ไส้ลอบเตอร์ และ หอยเซลล์ ซอลทรัฟเฟิล อร่อยจนเกือบลืมถ่ายรูปอีกเช่นเคยยยยย มาต่อกันที่ Main Course มีให้เลือก 3 เมนู จริงๆเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาอะไรดี อยากกินไปหมดทุกอย่าง คิดอยู่นานมาก เลยเลือก Lobster Pasta เพราะแอบได้ยินมาว่า ที่นี่่ทำเส้นเอง เลยอยากลอง (ได้ยินมาจากไหนไม่รู้) เป็นคนชอบกินเส้นๆ ด้วย จานนี้ให้ 10 ดาวเลย เส้นพาสต้า อร่อยมาก ที่สำคัญมันเข้ากับเนื้อลอบเตอร์สุดๆ เมนูนี้ทานจนเพลินเลย ลืมถ่ายรูปอีกแล้ว ต้องไปขอพี่คนข้างๆถ่าย (ฮ่าๆๆ)ทานมา 2 จาน รู้สึกเริ่มจะอิ่ม แต่ก็ยังแบ่งท้องเอาไว้รอ Dessert น้าาาาChocolate Coupe สมกับเป็นของหวานจริงๆ จานนี้หวานได้ใจคะ แต่ก็อร่อยเหมือนเดิมคะ แต่หวานไปนิดสำหรับเราคะ ส่วนผสมของเมนูของหวานนี้ มีเยอะมาก แทบจะจำไม่่หมดคะ มีทั้งไฮศรีมช็อคโกแลต กล้วย ซอสช็อคโกแลต มีข้าวพองเคลือบคาราเมล และยังมี เมอแรงค์ บราวนี่ อีกด้วย อุดมไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจริงๆ คะเป็นค่ำคืนที่ดีเยียมจริงๆคะ ได้มีโอกาสมา Openrice Exclusive Party แบบไม่คาดฝัน แล้วก็มาทานอาหารร้านที่หลงไหลมาแสนนาน ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆเลย หวังว่าคราวหน้าจะได้มาอีกนะคร้าาาา^^
อ่านต่อ