7
1
0
ระดับ4
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ (ของเจ้าของบล็อกเอง ฮา) กับอาหารสเปนกันบ้างนะคะ เป็นการได้รับเชิญไปในฐานะบล็อกเกอร์ ร่วมกับน้องอ้นและน้องชื่น (เป็นเซ็ตเดียวกันที่เค้าจะเชิญไปตลอดสิน่ะ) ในงาน Openrice Party ครั้งที่ 42 ณ ห้องอาหาร Tapas Y Vino (ทาปาส อี วีโน - ภาษาสเปน แปลว่า ทาปาส และ ไวน์ค่ะ) ที่โรงแรมพูลแมน แบงค็อค แกรนด์ สุขุมวิท กันนะคะพิกัดของโรงแรม ถ้าวิ่งไปจากทางถนนเพชรบุรี วิ่งเส้นอโศกที่จะชนกับสุขุมวิท ก่อนจะถึงสุขุมวิท รร.จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ แผนที่เล็กหน่อยนะคะ หาได้เท่านี้ง่ะวันนั้นเราเอารถไปค่ะ ก็เอารถไปจอดที่อาคารจอดรถนะคะ แล้วก็นำบัตรมาประทับตราค่ะ จอดเสร็จก็ลงลิฟท์มาที่ชั้น G ก่อน พ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ (ของเจ้าของบล็อกเอง ฮา) กับอาหารสเปนกันบ้างนะคะ เป็นการได้รับเชิญไปในฐานะบล็อกเกอร์ ร่วมกับน้องอ้นและน้องชื่น (เป็นเซ็ตเดียวกันที่เค้าจะเชิญไปตลอดสิน่ะ) ในงาน Openrice Party ครั้งที่ 42 ณ ห้องอาหาร Tapas Y Vino (ทาปาส อี วีโน - ภาษาสเปน แปลว่า ทาปาส และ ไวน์ค่ะ) ที่โรงแรมพูลแมน แบงค็อค แกรนด์ สุขุมวิท กันนะคะ

พิกัดของโรงแรม ถ้าวิ่งไปจากทางถนนเพชรบุรี วิ่งเส้นอโศกที่จะชนกับสุขุมวิท ก่อนจะถึงสุขุมวิท รร.จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ แผนที่เล็กหน่อยนะคะ หาได้เท่านี้ง่ะ
200 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
วันนั้นเราเอารถไปค่ะ ก็เอารถไปจอดที่อาคารจอดรถนะคะ แล้วก็นำบัตรมาประทับตราค่ะ จอดเสร็จก็ลงลิฟท์มาที่ชั้น G ก่อน พอออกจากลิฟท์ก็เลี้ยวซ้ายไป เพื่อเดินทะลุข้ามถนนเล็กๆ ระหว่างอาคารรร.กับอาคารจอดรถไปที่ตัวรร.ค่ะ
183 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นเราก็เดินเลยลิฟท์ที่จะขึ้นห้องอาหารไปเก็บภาพที่ล็อบบี้ก่อนค่ะ สวยแปลกตาดี
185 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
181 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หันหน้าเข้าเคาน์เตอร์รีเซพชั่น จะเห็นช่องว่างด้านหลังนะคะ นั่นแหละค่ะ ทางที่จะเข้าไปยังลิฟท์ค่ะ เข้าไปด้านหลัง ลิฟท์จะอยู่ทางขวามือนะคะ
ออกจากลิฟท์ไปก็เลี้ยวไปทางขวาค่ะ จะเจอเคาน์เตอร์ติดต่อตามภาพ ซึ่งชั้นนี้จะมีอีกห้องอาหารด้วยนะคะ
175 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หันหน้าเข้าเคาน์เตอร์ เลี้ยวขวาก็จะเป็นส่วนของห้องอาหาร Tapas Y Vino แล้วค่ะ ภาพนี้คือที่นั่งโซนด้านนอกนะคะ
201 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปในห้องอาหารค่ะ จะมีชุดโซฟาต้อนรับอยู่ตามภาพเลย พร้อมภาพที่ติดที่ผนังที่ให้ความรู้สึกสเป๊น สเปนอ้ะ
136 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หันไปทางขวามือ ก็จะเป็นที่นั่งและครัวเปิดสำหรับประกอบอาหารและทาปาสต่างๆ ตามภาพนะคะ แต่โดยปกติโต๊ะเค้าจะแยกๆ กันมากกว่านี้นะคะ อันนี้จัดให้คณะสื่อมวลชนและโอเพิ่นไรเซอร์โดยเฉพาะค่ะ
121 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ด้านในสุดของห้องจะเป็นโต๊ะกึ่งๆ ส่วนตัวค่ะ ตรงนี้จัดไว้ให้สื่อฯ ที่ทางรร.เชิญมาโดยเฉพาะนะคะ
118 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาดูกันดีกว่าว่าวันนั้นมีอะไรให้เรากินกันบ้างนะคะ อิอิ
Surrano Ham and watermelon shot ค่ะ
107 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
cold cut ต่างๆ
99 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ระหว่างเก็บรูป เชฟก็เริ่มลงมือทำอาหารจานพิเศษแบบร้อนๆ ให้รับประทานกันค่ะ กับเมนู Paella ปาเอญ่า หรือข้าวผัดสเปนนั่นเองค่ะ
102 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
90 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ก็เลยไปหาข้อมูลเรื่องอาหารเมนูนี้มาให้ ได้มาจากวิกิพีเดียดังนี้นะคะ
ปาเอยา (สเปน: paella) หรือ ปาเอ็ลยาดาร์ร็อส (คาตาลัน: paella d'arròs) เป็นชื่อเรียกอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศสเปน มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือข้าวซึ่งนำไปหุง (มิใช่ผัด) กับเนื้อสัตว์และเครื่องเทศด้วยน้ำสต็อกในกระทะแบนใหญ่ ต้นกำเนิดของปาเอยานั้นมาจากแคว้นบาเลนเซียซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวอันดับต้น ๆ ของประเทศสเปน อาหารจานนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายทางขนบธรรมเนียมและประวัติศาสตร์ของแคว้นบาเลนเซียได้เป็นอย่างดี
ความมีชื่อเสียงและแพร่หลายของปาเอยานั้นมาจากการที่สามารถดัดแปลงใช้วัตถุดิบที่หาได้ตามแต่ละท้องถิ่นสร้างปาเอยาที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละแคว้นขึ้นมาได้โดยง่าย ยกตัวอย่างเช่น แคว้นกาลิเซียซึ่งมีที่ตั้งอยู่ติดกับทะเล สามารถใช้อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปลา หรือปลาหมึก เป็นส่วนประกอบหลักทำปาเอยาทะเล ในขณะที่บางแคว้นที่อยู่ตอนในของประเทศ เช่น แคว้นคาสตีลและเลออน สามารถใช้เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ซึ่งสามารถหาได้ง่ายกว่ามาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก
ในแคว้นบาเลนเซีย พื้นที่ที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอาหารจานนี้คือบริเวณทะเลสาบอัลบูเฟรา (Albufera) ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน มีที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบาเลนเซีย นอกจากนี้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ก็เอื้ออำนวยต่อการใช้วัตถุดิบอื่น ๆ ในการทำปาเอยาเช่นดียวกัน สำหรับปาเอยาสูตรต้นตำรับนั้น ในหนังสือของดีโอนีซีโอ เปเรซ (Dionisio Pérez)[1] นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารสเปน กล่าวว่า วัตถุดิบที่รวมอยู่ด้วยได้แก่ ปลาไหล หอยทาก และถั่วเขียว อุปกรณ์ที่ใช้คือ หม้อก้นโค้งที่มีฝาปิดได้และใช้ความร้อนจากไฟที่เกิดจากการก่อฟืน
ในสมัยแรก ๆ นั้นปาเอยาเป็นเพียงอาหารที่ใช้เรียกผู้คนเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ได้มีการจัดงานเทศกาลการเฉลิมฉลองสำหรับปาเอยาโดยเฉพาะ หนึ่งในงานที่มีชื่อเสียงมากจัดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1961 ซึ่งมีการแข่งขันทำปาเอยานานาชาติในเมืองซวยกา (Sueca) แคว้นบาเลนเซีย จากงานนี้ได้ก่อให้เกิดธรรมเนียมปฏิบัติที่พบเห็นได้ทั่วไปตามเทศกาลต่าง ๆ ในแต่ละเมืองของแคว้นบาเลนเซียในปัจจุบัน โดยจะมีการใช้กระทะขนาดใหญ่และก่อไฟจากฟืนเพื่อทำ "ปาเอยายักษ์" แจกให้กับผู้ที่มาร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ การทำปาเอยาในลักษณะนี้มีชื่อเรียกเหมือนกันในทุกเมืองว่า "Paelles al Carrer"
โฉมหน้าของเชฟ Juan Maria Marrero Ortego ซึ่งมาจาก Las Palmas สเปนค่ะ
105 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
เชฟบอกว่า ต้องใช้เวลาในการทำ 40 นาทีค่ะ ใช้ไฟอ่อนๆ ในการทำนะคะ
คลิปสำหรับการทำเมนูนี้ตั้งแต่แรกจนจบค่ะ



ระหว่างที่เชฟทำอาหารไป เราก็หันกลับไปเก็บภาพทาปาสอื่นๆ ต่อค่ะ เมนูต่อไป
Cherry tomatoes stuffed ค่ะ
105 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
อาหารทยอยมา แต่ Sangria (แซงเกรีย) เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ แฮ่...
92 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ก็เลยไปหาข้อมูลแซงเกรียมาเพิ่ม ได้มาจากลิงก์นี้ ดังนี้นะคะ
รู้จักไหม? Glühwein (อ่านว่า กลู-ไวน์) หรืออีกชื่อที่คุณอาจจะพอคุ้นหู คือ “แซงเกรีย”(sangria) นั่นเอง ทั้งแซงเกรียและGlühwein มีความเหมือน และความต่าง คล้ายพี่น้องท้องเดียวกัน
Sangria wine Spainเพราะวันนี้จะขอแนะนำสูตรแซงเกรีย เลยอยากพูดถึงประวัติของเครื่องดื่มสัญชาติสเปนชนิดนี้สักหน่อย ถ้าคุณลองค้นหาบน Google จะพบว่า แซงเกรีย คือ ไวน์แดงชนิดหนึ่งจากเสปน…
จุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มชนิดนี้ มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน โดยชาวโรมันที่ออกท่องเที่ยวในยุโรปยุคนั้น ได้เข้ามาบุกรุกในเขตคาบสมุทรไอบีเรีย และนำวัฒนธรรมต่างๆของพวกเขาเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ และหนึ่งในวัฒนธรรมเหล่าคือ ไวน์! ชาวโรมันนำเถาองุ่นมาปลูก และทำไวน์ คนท้องถิ่นแห่งนี้ จึงรู้จักกับวัฒนธรรมการจิบไวน์ ประกอบกับน้ำดื่มในสมัยนั้น ยังไม่ค่อยสะอาดเท่าที่ควร พวกเขาจึงหันมาดื่มเครื่องดื่มที่ได้จากการหมักบ่ม อย่างไวน์ และเบียร์ เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า แต่เนื่องจากไวน์ในยุคนั้น ยังมีคุณภาพไม่ดีนัก พวกเขาจึงใช้วิธีนำสมุนไพรต่างๆ และสารเพิ่มความหวานลงมาผสมร่วมด้วย เพื่อให้ไวน์มีรสชาตีน่ารับประทานยิ่งขึ้น
ตั้งแต่นั้นมา การบริโภคไวน์เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในยุโรป ในช่วงยุคกลาง ไวน์ถูกเรียกว่า “hippocras” ต่อมาในช่วงยุค 1700 และ 1800 มันถูกเรียกว่า พันช์ (Punch) เมื่อหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ยุคโรมัน น้ำดื่มเริ่มมีความสะอาดปลอดภัยมากขึ้น คุณภาพไวน์เริ่มดีขึ้น แต่วัฒนธรรมเครื่องดื่ม Sangria Fruit Wine Romans Spain ประเภทแซงเกรียยังคงสืบทอดมาใน 2 ประเทศ คือ เยอรมัน และสเปน โดยในเยอรมันเครื่องดื่มชนิดนี้ถูกเรียกว่า Glühwein ในขณะที่สเปน ยังคงเรียกว่า Sangria โดยปรกติแล้ว Glühwein ทำขึ้นโดยการผสมสมุนไพร และเสิร์ฟในอุณหภูมิร้อน ในขณะที่แซงเกรียจะเน้นเสิร์ฟเย็น และผสมผลไม้เป็นหลัก จึงพูดได้ว่าเครื่องดื่มสองชนิดนี้ มีความเหมือนที่แตกต่าง ราวกับมาจากบรรพบุรุษคนละคนกัน
แต่หากถามว่า แซงเกรียมีสัญชาติสเปนจริงๆหรือไม่? คำตอบยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ที่แน่นอนคือ แซงเกรียที่ถูกทำออกมาดี มีฝีมือ จะมีรสชาติที่สดชื่นมาก เหมาะสำหรับจิบเรียกน้ำย่อยในช่วงหน้าร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าเป็นไปได้ ควรทำเอง ดีกว่าออกไปซื้อแบบที่เป็นกล่องสำเร็จรูป สูตรแซงเกรียอร่อยๆน่าทาน ผมขอแนะนำ สูตรนี้ ทำง่ายๆ ใช้เวลาเล็กน้อย แต่อาจซับซ้อนตรงที่ต้องเอาผลไม้มาย่างก่อน เพื่อให้ได้แซงเกรียหอมๆ สูตรนี้เกือบคล้ายกับ Glühwein แต่ผสมสปาร์กลิ้งไวน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความซาบซ่าให้กับวันร้อนๆของคุณกระชุ่มกระชวยยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ลองดูครับ!
ต่อไปกับอีกหนึ่งเมนูทาปาสค่ะกับ Mini Wagu Burger
104 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
Baby Squid Montadito ค่ะ
113 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
Gambas ค่ะ
100 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
Potato Bravas ค่ะ
107 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
Ham Croquette ค่ะ
106 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
มีการนำแฮมมาสไลด์ให้สดๆ ด้วยนะคะ
96 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อไปเป็นเมนูปลากะพงค่ะ ป้ายเขียนแค่ Sea bass นะคะ แหะๆ
103 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
เชฟก็ยังทำปาเอญ่าต่อไปค่ะ ตกแต่งหน้าด้วยซีฟู้ดก่อนจะใช้ฟอยล์ปิดเพื่อจะอบค่ะ
91 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หลังจากชมหมดแล้วก็ได้เวลามาลองกินกันแล้วค่ะ
อันดับแรกเลยกับแซงเกรีย...อ่า ต้องบอกก่อนว่านี่คือการดื่มแซงเกรีย (และกินอาหารสเปน) ครั้งแรกของเราค่ะ
93 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
เอาแบบตรงไปตรงมานะคะ แหะๆ รสชาติซับซ้อนแบบที่เรียกว่า..แปลกลิ้นเลยค่ะ เหมือนไวน์ ผสมน้ำผลไม้ ผสมยาดองน่ะค่ะ แหะๆ
ส่วนนี่คืออาหารที่เราได้ชิมวันนั้นค่ะ ไม่ได้ตักมาครบทุกอย่างนะคะ แหะๆ
102 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้จะมีรสเค็มของแองโชวี่และมีรสเปรี้ยวของมะเขือเทศค่ะ รสมันเลยตัดกันโชะเชะมากๆ (แต่ของคนอื่นเค้าบอกว่ามะเขือเทศของเค้าไม่เปรี้ยวกันนะคะ)
มินิวากิวเบอร์เกอร์ ตัวแป้งเบอร์เกอร์กรอบแข็งมากๆ ค่ะ (คือนึกว่ามันจะนิ่มเหมือนเบอร์เกอร์ทั่วไปง่ะ) เลยค่อนข้างคัลเจอร์ช็อคนิดหน่อย ส่วนเนื้อโอเคค่ะ ทำได้ไม่สุกเกิน ฉ่ำกำลังดีค่ะ
แต่จะเห็นว่าเค้ามีซอสที่น่าจะผสมเครื่องเทศบางชนิด (ไม่แน่ใจว่ายี่หร่าหรือเปล่านะคะ) ซึ่งทำให้กลิ่นของยี่หร่ามันกลบรสและกลิ่นของเนื้อวัวไปพอควรค่ะ
ตัวนี้กรอบนอกนิดๆ ข้างในชุ่มเหลว รสชาติออกนวลๆ มันๆ แบบสไตล์ตะวันตกค่ะ
ต่อไปค่ะ เมนูนี้อร่อยนะคะ กริลล์มาค่อนข้างดี หอม กุ้งก็เด้งดี รสชาติดีค่ะ
ตัวนี้จะมีรสมายองเนสอมเปรี้ยวนิดๆ เนื้อของมันฝรั่งโอเคค่ะ เห็นหลายคนก็ชอบเมนูนี้นะคะ
สำหรับเมนูนี้ เป็นอีกเมนูที่ชอบค่ะ กินแล้วค่อนข้างสดชื่นมากๆ เลยค่ะ ส่วนสีเหลืองๆ ตอนแรกกินแล้วแบบรู้สึกคุ้นมากว่ามันคืออะไร แล้วก็ถามเพื่อนร่วมโต๊ะ ทุกคนก็ลองกินแล้วนึกไม่ออก จนเดินไปดูชื่ออาหาร แล้วก็กลับมาตอบว่าเมลอน ซึ่งเราก็รู้สึกว่าไม่น่าใช่ เพราะรสและกลิ่นมันไม่ใช่เมลอน สุดท้ายก็ได้คำตอบว่าเป็นแตงโมเหลืองค่ะ ฮาา
อีกหนึ่งเมนูที่ได้ลองค่ะ สำหรับเราเมนูนี้กรอบดี (เกิ๊น) แต่โดยรวมแห้งเกินไปค่ะ
ต่อไปเป็นปาเอญ่าค่ะ ซีฟู้ดมาจัดเต็มมากๆ ค่ะ รสชาติออกนัวๆ นวลๆ ค่ะ ตัวข้าวเป็นเม็ดจริง แต่ยังมีความชุ่มอยู่ค่อนข้างมากนะคะ กุ้งหวานดี (แม้จะสุกไม่สุด น่าจะเป็นความตั้งใจของเชฟหละค่ะ) ไก่นุ่มสุกกำลังดี เมนูนี้ให้กลิ่นทะเลที่ค่อนข้างเด่นนะคะ
หลังจากปล่อยให้สมาชิกได้กิ
81 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
นกันสักครู่ ทางโอเพิ่นไรซ์ก็ได้แนะนำทีมของทางโรงแรม Pullman Bangkok Grand Sukhumvit กันนะคะ ก็มีทั้งทีมประชาสัมพันธ์ เชฟ และ General Manager มาพูดคุยกันค่ะ
103 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นของหวานก็เริ่มมาแล้วค่ะ มีสองอย่างนะคะ คือ คาตาลัน ครีม (Catalan Cream) คล้ายๆ กับครีมบูเล่หละนะคะ มีสองหน้าคือราสเบอร์รี่กับสตรอเบอรี่ กับ ชูโรส (Churros) หรือปาท่องโก๋สเปนค่ะ
89 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับผลการชิมนะคะ
ตัวคาตาลันครีม จะออกหวานค่ะ มีผลไม้ตัดเปรี้ยวเล็กน้อย ส่วนชูรอส กรอบนุ่ม หนึบนิดๆ แต่เราว่าราดช็อกโกแลตมาเยอะไปนิดหนึ่งค่ะ แหะๆ
78 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
กินขนมก็ต้องคู่กับชาหรือกาแฟนะคะ ที่นี่มีชาให้เลือกหลากหลายพอควรค่ะ
101 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ปิดท้ายกันด้วยภาพหมู่ของคณะที่ไปร่วมชิมกันวันนั้นค่ะ ทั้งโอเพิ่นไรเซอร์ ทีมงานโอเพิ่นไรซ์และสื่อมวลชนอื่นๆ ที่ทางรร.เชิญมาค่ะ
101 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ
ก็เรียกได้ว่าเป็นห้องอาหารที่หากใครอยากลองกินอาหารสเปน ก็จะได้รับการกินอาหารจากฝีมือเชฟชาวสเปนแท้ๆ หละค่ะ ตัวเราเองก็เป็นครั้งแรกที่ได้กินอาหารสเปนเหมือนกัน ก็เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของตัวเองหละค่ะ
ขอบคุณทาง Openrice Thailand ที่ชวนไปในครั้งนี้และขอบคุณทีมของ Pullman Bangkok Grand Sukhumvit ที่ดูแลเป็นอย่างดีด้วยค่ะ

 
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน