วิดีโอ
เบอร์โทร.
086-756-9822
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
09:00 - 19:00
จันทร์ - อาทิตย์
09:00 - 19:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
มาเที่ยวสวนผึ้งก็มีอาหารเวียดนามให้ทานนะคะ ที่ร้านอาหารเวียดนามการตกแต่งร้านจะเป็นแบบเิปิดโล่ง แต่งด้วยโทนสีขาวสบายตา เมนูอาหารก็มีให้เลือกเยอะเีชียวมาร้านเวียดนามทั้งทีต้องสั่งแหนมเนืองค่ะ เราสั่งชุดกลางมา 120 คุ้มมากๆ ค่ะ แหนมเนืองอร่อยไม่แข็งเกินไป ตัวแป้งและผักเคียงก็เยอะค่ะ คุ้มสุดๆ ที่นี่เค้าใช้สับปะรดสวนผึ้งแทนมะม่วงดิบด้วยนะคะก็เข้ากันได้ดีค่ะ ส่วนกุ้งพันอ้อยสั่งเอาค่ะว่าเอากี่ชิ้น ชิ้นละ 40 บาท เราว่าไม่แพงเลยค่ะกุ้งเน้นๆ รสชาติกลมกล่อมดี มาชิ้นใหญ่ด้วยค่ะ และีที่ขาดไม่ได้ก็เส้นหมี่หมูย่างค่ะ หมูย่างเค้าอร่อย ไม่เหนียว ไม่แข็งเกินไป ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ 100 บาทเท่านั้น คุ้มและอร่อยสุดๆ ค่ะ ต้องลองเลย
อ่านต่อ
และแล้วอาหารที่เราสั่งก็ทยอยลำเลียงมาอยู่บนโต๊ะโอ้ววว มันเยอะมากอย่างแรกที่มาเลยก็คือ แหนมเนืองแหนมเนืองจะมี 3 ขนาดคือ ชุด เล็ก กลาง ใหญ่ที่ร้านบอกว่าจัดชุดเล็กมาให้เพราะกลัวทานกันไม่หมด เห็นสั่งกันหลายอย่างเหลือเกินแหนมเนือง 1 ชุดจะประกอบไปด้วยแหนมเนือง 3 ไม้ กล้วยดิบหั่น สับปะรดหั่นชิ้นเล็กๆ (ถ้าเป็นของแดงแหนมเนือง จะเป็นมะม่วงหรือไม่ก็มะเฟือง)มีกระเทียมหั่นชิ้นเล็กๆ พร้อมด้วยพริกซอยแป้งเอาไว้ห่อแหนมเนือง มีชามน้ำเอาไว้แช่แป้ง(แต่อย่าแช่นานนะ แช่แบบพอผ่านน้ำก็พอค่ะ)พออุปกรณ์ครบจัดการทาน อืมมมม อร่อยอ่ะ พอๆกะแดงแหนมเนืองเลยน้ำจิ้มของที่นี่จะออกรสหวานๆ มีสับปะรด คอยตัดรสไม่ให้หวานจนเกินไป ลงตัวพอดี ^^เมนูต่อมาคือเส้นหมี่หมูย่างต้องบอกว่าหมูของที่นี่เค้านุ่มจริงๆ ไม่เหนียมจนเกินไป เสียดายเล็กน้อยที่เราโดนตัดกำลังตั้งแต่แหนมเยืองมาแล้ว >.<แต่ก็ได้ลองชิมหมูย่างชิ้นนึง อร่อยอีกแล้วววรายการที่ 3 คือหมูย่างสมุนไพรพวกครอบครัวหมูของร้านนี้รสชาดไม่ทิ้งกันเลยจริงๆโดดเด่นตรงที่เนื้อนุ่มกำลังพอดี ไม่ร่วนและไม่เหนียว น้ำจิ้มที่ประกอบมาก็ออกรสชาดหวานๆเผ็ดนิดๆกำลังสงสัยว่าอาหารเวียดนามเค้าเน้นหวานหรือเปล่าน้าาแต่หวานยังไงก็ยังรับได้อยู่ อิอิรายการที่ 4 ..... เราไม่แน่ใจในชื่อของมันค่ะ ด้วยความที่ว่าสั่งมาหลายรายการ >.<แต่อร่อยนะคะ จานนี้ คลุกเค้าก่อนทานจะอร่อยยิ่งขึ้น จานนี้หมดก่อนเลย ^^รายการที่ 5 มาแบบร้อนๆเลยค่ะ ทอดมันปลากรายหั่นมาชิ้นใหญ่อยู่เลย อร่อยอีกแล้ว เจ้าของร้านบอกว่าใช้เนื้อปลากรายล้วนๆมาทำเลยนะคะรสชาดกำลังพอดี ไม่เค็มจนเกินไป ทาคู่กับผัดสดที่เ้ค้าให้มาเป็นตะกร้า ประกอบไปด้วยยิ่งอร่อยราการที่ 6กุ้งพันอ้อย โอ้วว มาแบบว่าชิ้นใหย่มากค่ะ มาร้อนๆอีกเช่นเคยเนื้อกุ้งเน้นๆ ทานคู่กับหมี่ที่เค้าให้มาในจานราดน้ำจิ้มเล็กน้อย อร่อยๆจริงๆ เนื้อเด้งๆ ทานเสร็จแล้วใครอยากทานอ้อยที่กุ้งพันมาด้วยก็ได้นะคะน้องชายเราลองทานดูบอกอร่อยดี น่าจะเป็นเพราะน้ำจากเนื้อกุ้งซึมไปอยู่ที่แท่งอ้อย ^^รายการที่ 7 ซี่โครงหมูย่างเมนูนี้ไม่แนะนำสำหรับคนฟันไม่ดีนะคะ เพราะเราก้ต้องหลีกเหลี่ยงเหมือนกัน อิอิเนื้อจะออกเหนียวๆ นิดหน่อยค่ะ แต่เห็นน้ากะพ่อเราบอกว่าอร่อยดีรสชาดกำลังพอดี ไม่มันจนเกินไปหมดแล้วล่ะค่ะ สำหรับอาหารที่สั่งมามาดูโซนพวกของฝากที่มีขายภายในร้านกันบ้างดีกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ของร้านฟาร์มสุข มาฝากขายนะคะตอนเราไปนี่ที่ชั้นวางจำหน่ายโ่ล่งเชียวเจ้าของร้านบอกว่าจัดของไม่ทันเลยพอเอาของมาว่างขายก็หมดเร็ว วันนี้ยังไม่มีเวลาจัดด้วยแต่เค้าก็ใจดีนะคะ พอพวกเราถามถึงก็ไปหิ้วตะกร้าของมาให้เลือกซื้อโดยเฉพาะเลยแบบว่าซื้อขายกันในตะกร้านี่แหละ อิอิน้องชายเราสอย กระปุกน้ำผึ้งมาได้ 1 ขวด กระปุกนี้ก็ 320 บาทค่ะเป็นน้ำผึ้งชันโรง หรือผึ้งจิ๋วนั่นเองสรุปนะคะ โดยรวมแล้ว ทุกอย่างลงตัวหมดการบริการต้องบอกว่าดีเยี่ยมจริงๆค่ะ เจ้าของร้านบริการ ดูและเอาใจใส่อย่างดีบรรยากาศภายในร้านก็โอ่โถง โปร่งสบายรสชาดอาหาร ต้องบอกว่าของเค้าอร่อยจริงๆค่ะราคา ก็ไม่แพงจนเกินไป แถมมีการแนะให้ให้ด้วย กลัวพวกเราจะทานกันไม่หมด ^^อีกนิดค่ะ สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้านเลยนะคะ ที่จอดรถกว้างมาก
อ่านต่อ
เคยได้ยินมาว่าอาหารเวียดนามแถวสวนผึ้งรสชาติดี มาเที่ยวสวนผึ้งคราวนี้จึงไม่พลาดที่จะแวะร้านอาหารเวียดนามที่ชื่อร้านว่า “อาหารเวียดนาม”ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอสวนผึ้งมากนัก แค่เพียงไม่ถึงหนึ่งกีโลเมตรจากตัวอำเภอ โดยใช้ถนนเส้นที่มุ่งหน้าไปยังน้ำตกเก้าชั้นหรือแหล่งท่องเที่ยวดังอย่าง Scenery Farm ก็จะเห็นร้านอาหารเวียดนามนี้อยู่ทางซ้ายมือ พิกัด GPS ของร้านนี้ N13 32.611 E99 19.998บรรยากาศในร้านเป็นร้านแบบบ้านๆ ไม่มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นร้านนั่งกินอย่างแท้จริง ผมเป็นลูกกลุ่มเดียวของร้านในขณะนั้นเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์และยังเป็น Low Season ของการเที่ยวสวนผึ้ง เข้าร้านมาทีแรกนึกว่าร้านยังไม่เปิดให้บริการเสียอีก เนื่องจากไม่มีพนักงานมาต้อนรับเลย ต้องเดินเข้าไปดูถึงหลังร้าน จึงรู้ว่าร้านยังเปิดอยู่ไม่ช้าไม่นาน จากแรกก็มา กุ้งพันอ้อยครับ จานนี้มีกุ้งพันอ้อยสองไม้ราคา 80 บาทดูเหมือนราคาอาหารที่นี่จะแพง แต่เมื่อดูเครื่องเคียงที่มีผักนานาชนิดที่เติมได้ไม่อั้น จึงทำให้ราคาอาหารนั้นไม่แพงจนเกินไปนัก ตัวกุ้งพันอ้อยนั้น เมื่อกินเปล่าๆ รสชาติก็อร่อยดีแต่ยังไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่เมื่อทานพร้อมกับผัก เส้นหมี่และน้ำจิ้มแล้ว เข้ากันได้เป็นอย่างดี อร่อยและกลมกล่อมมาก จึงทำให้รู้ว่าจุดแข็งของร้านนี้อยู่ที่น้ำจิ้มที่รสชาติกลมกล่อมเข้ากับผักได้เป็นอย่างดี สำหรับจานนี้ให้คะแนนเต็ม 5/5 เลยครับจานต่อมาแหนมเนืองชุดเล็ก 80 บาท มีหมูย่างมาให้สองไม้ครับ เมื่อทานเปล่าๆ เนื้อหมูร่วนไปนิด ไม่แน่นเหมือนที่เคยทานเครื่องเคียงของแหนมเนือง นอกจากผักนานาชนิดที่เติมไม่อั้นแล้วยังมี มะเฟือง กล้วยดิบ กระเทียม แตงกวา พริก และแผ่นแป้งซึ่งแผ่นแป้งที่นี่ไม่ต้องแช่น้ำครับ จุ่มแล้วขึ้นมาทานได้เลย เหนียวนุ่มใช้ได้เมื่อทานพร้อมกันครบสูตร รสชาติก็กลมกล่อมอร่อยเลยครับ แต่รสชาติของกุ้งพันอ้อยจะโดดเด่นกว่า จานนี้ให้คะแนน 4/5 ครับลองผสมเครื่องเคียงของทั้งกุ้งพันอ้อยและแหนมเนืองเข้าด้วยกัน ก็ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบจานสุดท้ายป่อเปี๊ยะสดแบบเวียดนาม 5 ชิ้นใหญ่ๆ 80 บาท หน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนแถวบ้านเลยไส้ของป่อเปี๊ยะที่นี่ก็ค่อนข้างต่างจากทื่อื่น ที่เห็นสีเขียวๆ ก็คือผักต่างๆ และถั่วงอก ส่วนที่เห็นสีส้มๆ ถามเจ้าของร้านได้ความว่ามันคือหมูสับและมันกุ้ง กินเปล่าๆ รสชาติจะออกจืดๆ มันๆ ไม่ถูกปากผมเท่าไรนักทานกับน้ำจิ้มที่ให้มาก็อร่อยดี แต่มันยังไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรนัก ชอบน้ำจิ้มออกรสเปรี้ยวเหมือนก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมากกว่า จานนี้ผมให้คะแนนความอร่อย 3/5 ครับผมกับแฟนสองคนสั่งมากุ้งพันอ้อยแค่ 2 ไม้ หมูย่างแหนมเนือง 2 ไม้ และป่อเปี๊ยะ 5 ชิ้นเอง น่าจะทานกันหมด แต่ปรากฏว่าเมื่อทานกับเครื่องเคียงเต็มสูตรทุกคำแล้วอิ่มมากและยังเหลือกุ้ง หมูย่างและป่อเปี๊ยะอีกมากมาย จึงต้องห่อป่อเปี๊ยะกลับไปทานที่รีสอร์ท สำหรับผมแล้ว ทานอาหารที่ร้านนี้ตั้งแต่สี่โมงเย็น อิ่มไปถึงเช้าเลย เรื่องความสะอาดมีข้อติอยู่ตรงที่ภาชนะใส่ผักซึ่งเป็นไม้สานเมื่อโดนความชื้นจะมีรอยดำๆ ตรงก้นภาชนะ และน้ำยาล้างมือที่นี่เป็นแบบเดียวกับน้ำยาล้างจานที่บ้านร้านนี้ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่มีโอกาสก็จะแวะไปทานกันอีกครั้งเนื่องจากติดใจในรสอร่อยของกุ้งพันอ้อย
อ่านต่อ
คุณอาจสนใจ