อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-09-22
234 วิว
ตบท้ายมื้อใหญ่มื้อนี้ด้วยของหวานแสนอร่อยจากไลน์บุฟเฟต์ Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร VIE Wine & Grill ที่โรงแรม VIE Hotel ราคาบุฟเฟต์ Sunday Brunch 1300 Net ต่อคน รวมเครื่องดื่มช่วงเวลาระหว่าง 11:30 – 15:00 น.เพิ่ม Wine Free Flow 700 Net ต่อคน(ผึ้งน้อยได้มีโอกาสไปลิ้มลองแบบฟรีๆในครั้งนี้จากกิจกรรม “อิ่มใหญ่” ของ Openrice กันทั้งครอบครัว 5 คนเลย)โรงแรม VIE อยู่ตรงข้ามโรงแรม Asia ครอบผึ้งน้อยขับรถมาแต่ถ้าใครสะดวก BTS จะเป็นอะไรที่ง่ายมากเพราะอยู่ติดกับสถานีราชเทวี โดยห้องอาหาร VIE Wine & Grill มีทำเลสวยๆอยู่บนความสูงชั้นที่ 11 กับบรรยากาศแบบหรูๆ แต่สบายๆเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน หลังจากที่ท
ราคาบุฟเฟต์ Sunday Brunch 1300 Net ต่อคน รวมเครื่องดื่ม
ช่วงเวลาระหว่าง 11:30 – 15:00 น.
เพิ่ม Wine Free Flow 700 Net ต่อคน
(ผึ้งน้อยได้มีโอกาสไปลิ้มลองแบบฟรีๆในครั้งนี้จากกิจกรรม “อิ่มใหญ่” ของ Openrice กันทั้งครอบครัว 5 คนเลย)
โรงแรม VIE อยู่ตรงข้ามโรงแรม Asia ครอบผึ้งน้อยขับรถมาแต่ถ้าใครสะดวก BTS จะเป็นอะไรที่ง่ายมากเพราะอยู่ติดกับสถานีราชเทวี โดยห้องอาหาร VIE Wine & Grill มีทำเลสวยๆอยู่บนความสูงชั้นที่ 11 กับบรรยากาศแบบหรูๆ แต่สบายๆเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน
หลังจากที่ทานเมนูหนักๆจากโซน Grill กันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงมุมโปรดของสาวๆกัน ...มุมของหวานนั่นเองค่ะ
ของหวานของที่ห้องอาหารแห่งนี้มีโซนหลักๆอยู่ทางฝั่งซ้าย และแทรกตัวอยู่ที่ฝั่งขวาปะปนอยู่ข้างๆไลน์ Soft Drink ด้วยไอศครีมและท๊อปปิ้ง
ระหว่างเดินไปตักของหวานจะผ่านอ่างใส่ขวดไวน์ ข้างๆมีหอไอเฟลที่เอแคร์น่ารักๆสื่อถึงความเป็นฝรั่งเศษ ใกล้ๆกันนั้นถูกจัดเป็นโซนที่เหมือนกับห้องนั่งเล่นด้วยชุดโซฟาชุดใหญ่ มีแมกกาซีนให้อ่านเล่นหรือจะนั่งย่อยสบายๆก่อนไปจัดหนักกันต่อก็ยังได้ สเตชั่นแรกที่เจอคือ ซูเฟล่ (Souffle) ที่จะมีเชฟยืนอบให้อุ่นๆตรงนั้นเลย มีสองรสให้เลือกคือวานิลากับช็อคโกแลตค่ะ รสอ่อนๆไม่โดนใจผึ้งน้อยและยังไม่ฟูขึ้นมาด้วย เพราะไม่ได้อบมาเสิร์ฟสดๆแต่เป็นแค่การอุ่นเท่านั้นเอง
(ปกติซูเฟล่ต้องอบปุ๊บเสิร์ฟปั๊บก่อนที่หน้าจะยุบกลับลงไปค่ะ จะอร่อยที่สุด)
ในแง่ของขนมไลน์บุฟเฟต์ก็ถือว่าทางร้านพยายามจะเสิร์ฟให้ใกล้เคียงกับการเสิร์ฟร้อนๆมากที่สุดแล้ว ^^
ชิมขนมนู่นนิดนี่หน่อยไปตามเรื่อง โดยรวมๆแล้วถือว่าขนมอร่อยดีทีเดียว แต่ฟองดูว์ไม่มีทาวเวอร์ให้ตื่นเต้นค่ะ เป็นหม้อให้จุ่มเอาเลย หนึ่งในของหวานที่น่าสนใจในโซนนี้คือ ลูกแพร์ตุ๋นไวน์แดง
ผึ้งน้อยเคยเห็นแต่เมนูนี้แค่ในทีวี เพิ่งได้ทานของจริงเป็นครั้งแรก ทานแล้วก็ถูกใจเพราะลูกแพร์ตุ๋นมาได้นุ่มชุ่มฉ่ำทั่วทั้งชิ้นและไม่หวานเจี๊ยบอย่างที่แอบกลัว อร่อยถูกใจเลย ^^ ถัดเข้ามาอีกนิด ตรงนี้เค้าตั้งเตาทำกันแบบกึ่งสดทีเลย ดูหน้าสนใจมากๆ
จุดนี้คือโซนเครปชูเซตค่ะ ที่ว่ากึ่งสดก็เพราะเค้าจะทำแป้งเครปเอาไว้แล้ว และค่อยมาปรุงตามออร์เดอร์ลูกค้าอีกที โดยจะมีผลไม้ประมาณ 4-5 อย่างให้เลือกค่ะ สามารถจับมา Mix กันได้ตามชอบ จะยืนรอพลางดูเชฟหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักทำจนเสร็จหรือจะออร์เดอร์ไว้แล้วให้เอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะก็ได้ตามใจค่ะ ...ส่วนผึ้งน้อยขอยืนดูให้เต็มตาก่อนก็แล้วกัน อิอิอิ เครปนุ่มๆที่ทำมาร้อนๆดูดน้ำซอสรสส้มไว้จนหวานหอมทั่วชิ้น แถมยังมีการแต่งกลิ่นให้ครบสูตรด้วย Triple Sec ตอนท้าย ผลไม้แม้จะใส่มาน้อยไปหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะลำพังแค่แป้งเครปก็อร่อยถูกใจแล้วค่ะ
สรุปความประทับใจโดยรวม
บรรยากาศ – นอกจากบรรยากาศจะอบอุ่นแสนสบายสไตล์ห้องนั่งเล่นแล้ว ยังมีเสียงเพลงอันไพเราะมาขับกล่อมให้ดูพิเศษยิ่งขึ้น กับความสูง 11 ชั้นที่หากไม่มองลงไปเบื้องล่างแล้วก็แทบจะลืมความวุ่นวายของสังคมเมืองไปเลยค่ะ
การบริการ – บริกรและเชฟแซ่บ เอ๊ย บริการเป็นกันเองและน่ารักทุกคนทั้งบริกรเดินสาย (เดินตามโต๊ะ) และบริกรตามสเตชั่นและไลน์ต่างๆ ที่มีการแนะนำอาหารของสเตชั่นตัวเองได้ชัดเจนและน่าสนใจมากๆ
รสชาด – อาหารมีความหลากหลายและวัตถุดิบสดใหม่ ทำให้ได้รสชาดที่อร่อยแบบธรรมชาด มุมที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คงจะหนีไม่พ้นโซนกริลล์ (สมกับชื่อร้าน) และโซนอาหารทะเล รวมถึงของหวานรสอร่อยถูกใจ
โพสต์